เทคนิค(car)
พลังสมองกับสองมือ
พ่อหนุ่ม ทีโม แรนโกเนน (TIMO RANKONEN) อาศัยในรัฐแทมเพเร (TAMPERE) ประเทศฟินแลนด์ ชอบที่จะทำอะไรทุกอย่างด้วยตัวเอง เขากับ ลอรี (LAURI) ซึ่งเป็นพี่ชาย ได้ติดตั้งเครื่องเสียงลงในรถ โดยอาศัยความรู้ทางด้านเทคนิคที่ตัวเขาพอจะมีอยู่บ้าง เรียนรู้การติดตั้งด้วยตัวเอง จนทำให้รถ มาซดา 323 ของเขาได้รับรางวัลในการประกวดรถเครื่องเสียง
เฮดยูนิทของระบบเป็น PIONEER รุ่น ODR RS-D 2 โดยทำเป็นรางยึดเข้าไปในแผงหน้าปัด และติดด้วยสกรูหกเหลี่ยมสเตนเลสส์ เพื่อให้รถคันนี้ ดูเป็นรถที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ จึงเปลี่ยนพวงมาลัยเป็นยี่ห้อ MOMO ที่แต่งใหม่ รวมเอาปุ่มปรับวอลูมและควบคุมแทรคมาไว้รอบแกนพวงมาลัย เหมือนกับชุดเปลี่ยนเกียร์ในรถฟอร์มูลา วันการควบคุมเครื่องเสียงอาศัยการกดปุ่ม และบิดข้อมือเพียงเล็กน้อยกดลงไปบนปุ่มที่ฝังอยู่ในพวงมาลัย
ทีโมเชื่อว่าระบบเสียงที่ดีนั้น เกิดจากการวางตำแหน่งลำโพงที่ถูกต้อง และเลือกใช้ความถี่ครอสส์โอเวอร์ที่เหมาะสม โดยอาศัยการประมวลผลสัญญาณเพียงเล็กน้อย อีควอ ไลเซอร์ 1/3 ออคเทฟของ PIONEER รุ่น ODR RS-P 1 ไม่ได้มีไว้สำหรับการแข่งขันแต่มีไว้สำหรับรักษาความถี่ตอบสนอง และการแข่ง SPL เมื่อจำเป็นต้องเพิ่มกำลังขับ
แอคทีฟ ครอสส์โอเวอร์ 4 ทาง PIONEER รุ่น ODR RS-P 50 พร้อมไทม์อไลจ์น เมนท์ จะรับสัญญาณมาจากแอมพ์ก่อนส่งต่อไปยังลำโพง เพราะแต่ละลำโพงมีแชนแนลเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถปรับจากครอสส์โอเวอร์ได้โดยตรง
โพรเซสเซอร์ทั้ง 2 รุ่น RS-P 1 และ RS-P 50 ติดตั้งเข้ากับตู้ซับด้านหลังช่องเพลกซิกลาสส์ โดยมีไฟนีออนสีฟ้าส่องเรืองแสงอยู่ภายใน RCA และสายออพทิคที่ร้อยผ่านอุโมงค์อลูมิเนียม 2 ชั้น และฉนวนยางหุ้มที่หนาถึง 5 มม. โครงสร้างสเตนเลสส์สตีลที่เห็นตามแนวขวางจากข้างหน้าของโพรเซสเซอร์แต่ละตัว ไม่มีผลต่อการติดตั้งโพรเซสเซอร์ แต่เอาไว้รองรับตู้ซับ
ทีโมใช้แอมพ์แต่ละตัวไว้ขับลำโพงแต่ละช่วง ใช้ 1 แชนแนล/ลำโพง 1 ตัว ทำให้ สามารถปรับแต่ละลำโพงให้มีเสียงเหมือนจริงได้
จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ฟรอนท์สเตจ ทีโมเชื่อว่าถ้าทำออกมาได้ถูกต้องสมบูรณ์แบบและด้วยคอมโพเนนท์ที่น้อยที่สุด จะให้เสียงที่เหมือนจริง และชัดเจนมากที่สุด
ลำโพงมิดเบสส์ DLS รุ่น R 5 A ขนาด 5 1/4" ติดตั้งเข้าไปในแต่ละด้านของแผงหน้าปัด โดยมีแอมพ์ DLS ULTIMATE A 2 ขับที่กำลังสูงสุด 50 วัตต์x2 เพราะใช้แชนแนลต่อลำโพงแต่ละตัว ทำให้สามารถปรับแยกลำโพงได้เป็นเอกเทศ ที่ติดตั้งเพิ่มไว้บนแผงหน้าปัด ก็เพราะไม่ต้องการให้ไปลบความสามารถของลำโพงเดิมจากโรงงานลง
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงเบสส์ให้กับฟรอนท์สเตจ จึงได้ติดตั้งมิดเบสส์ DLS รุ่น M 56 ขนาด 6" เข้าไปทางด้านบนของแผงประตู โดยซ่อนไว้ในช่องไฟเบอร์กลาสส์อีกที แม้ดูภายนอกไม่มีอะไร แต่ข้างในแผงประตูได้ซ่อนคานเสริมรองรับแรงและแผ่นกันเสียง ที่ผนังประตูด้านในทำเป็นแป้นสำหรับรองรับตู้ลำโพง ทำจากไฟเบอร์กลาสส์ แผงประตูบุด้วยหนังไวนิล เพื่อให้กลมกลืนกับภายในตัวรถ
ลำโพงบนแผงหน้าปัด DLS 6" ที่ติดตั้งบนแผงประตู ได้รับกำลังขับมาจากแอมพ์ DLS ULTIMATE A 2 ต่อแบบบริดจ์โมโน ให้กำลังขับสูงถึง 300 วัตต์
สะดุดตากับการติดตั้งทวืเตอร์ DLS UR 1 ขนาด 1" ไว้ที่เสาหน้าในแบบลอยๆ โดยกลึงอลูมิเนียมกับเหล็กเป็นทรงลูกบอลล์ ใช้กำลังขับจาก DLS A 2 แบบ 2 แชนแนล มาขับลำโพงแต่ละตัว ทำการติดตั้งในแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผสมผสานระหว่างคานเสริมแรง และวัสดุเก็บเสียง เป็นอีกทริคที่ช่วยเสริมการติดตั้งให้เสียงที่ออกมามีคุณภาพดีเยี่ยม และยังให้อายุการใช้งานที่คงทนยาวนานอีกด้วย
ตู้ซับขนาด 50 ลิตร ทำจากไม้อัดไว้สำหรับติดตั้งซับวูเฟอร์ DLS X 12 บนแผ่นเหล็กหนา 12 มม. และปิดหน้าด้วยแหวนเหล็กขัดเงา ตัวตู้ได้รับการหนุนค้ำด้วยคานสเตนเลสส์สตีล ที่เชื่อมยึดติดกับแชสซีส์รถ กำลังขับสำหรับซับมาจากแอมพ์ DLS A 3 กำลังขับ 100 วัตต์x2 ต่อแบบบริดจ์โมโน เพื่อให้กำลังขับสูงสุด 800 วัตต์ RMS
ทีโมใช้เวลาในการติดตั้งรถคันนี้ไปประมาณ 2,000 ชม. เวลาที่เสียไปส่วนใหญ่จะเป็นงานหล่อแผงพาเนลไฟเบอร์กลาสส์ ที่ต้องอาศัยความประณีต รวมทั้งแอมพ์ 5 ตัวที่ต้องจัดวางตำแหน่งให้ลงตัวเหมาะสม ในแต่ละด้านของเบาะหลัง จะเห็นแอมพ์ A 2 ที่ให้กำลังขับกับลำโพงบนแผงประตู แผงพาเนลไฟเบอร์กลาสส์ ต้องทำตั้งแต่ผิวหยาบ มาขัดแต่งให้เรียบ และพ่นสีให้เหมือนกับสีเหลืองแฟร์รารี แผ่นเพลกซิกลาสส์ที่ครอบแอมพ์ จะมีไฟนีออนสีฟ้าเรืองแสง ให้เห็นการติดตั้ง มีช่องเวนท์ไว้ระบายอยู่เหนือแอมพ์
ทุกมุมของทรังค์ทำขึ้นใหม่ เพื่อให้กลมกลืนกับตัวอุปกรณ์ แอมพ์ A 2 และ A 3 วางอยู่ในฝักไฟเบอร์กลาสส์ และมีแผ่นเพลกซิกลาสส์ปิดทับอยู่ด้านบน สายไฟสายสัญญาณต่างๆ เดินผ่านพื้นอลูมิเนียมอย่างเรียบร้อย และมีไฟนีออนสีฟ้าส่องสว่างแอมพ์ DLS ULTIMATE
ไซด์พาเนลทั้ง 2 ฝั่งในทรังค์ ได้รับการขึ้นรูป และตกแต่งพ่นสีใหม่ ตราสัญลักษณ์ DLS บนแผ่นเพลกซิกลาสส์ ติดตั้งในแต่ละด้านของไซด์พาเนล และมีไฟนีออนส่องอยู่ด้านหลัง การตัดกันของพาเนลสีเหลืองกับอลูมิเนียมขัดเงาดูไปกันได้ดี
สายสัญญาณทุกเส้น ร้อยไปตามท่อทองแดงซ่อนอยู่ข้างใต้แผ่นกันเสียงอีกชั้นสายลำโพง และสาย RCA ของ DLS ULTIMATE เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ และใช้สายเพาเวอร์เบอร์ 10 ของ AUDISON แบทเตอรีเปลี่ยนมาใช้ของ HAWKER GENESIS 70 ติดตั้งไว้ในห้องเครื่องในเคสที่ทำจาก PVC บนฐานอลูมิเนียมรวมทั้งมีกล่องจานจ่ายที่ติดตั้งเพิ่มด้วย
ฟรอนท์สเตจที่ง่ายๆ ไม่มีเซนเตอร์แชนแนล ไม่มีเรียร์ฟิลล์ แต่ก็ทำให้เสียงโดยรวมที่ได้ออกมาดูดี ไม่มีเพี้ยน ถอดแบบเสียงได้เหมือนจริงมาก แม้ทุกอย่างจะทำด้วยตัวเอง แต่ผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้ทำให้ด้อยค่าไปกว่าฝีมือจากช่างมืออาชีพเลย
เรื่องโดย : วิโชค
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53875