สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
เกริกกิจ เรืองปิตาภรณ์
ตลาดแบทเตอรีในประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ และมีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในปีนี้ คาดกันว่า
เศรษฐกิจจะชะลอตัว ผู้ผลิตแต่ละรายยิ่งตัองงัดกลยุทธ์ออกมาแย่งชิงส่วนแบ่งกันอย่างดุเดือด "ฟอร์มูลา"
สัมภาษณ์พิเศษ เกริกกิจ เรืองปิตาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่าย แบทเตอรี จีเอส
ฟอร์มูลา : ภาพรวมของบริษัท ฯ ในปี 2549 เป็นอย่างไร รวมถึงเป้าหมายปี 2550 ?
เกริกกิจ : บริษัท ฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายแบทเตอรี จีเอส จากประเทศญี่ปุ่น แต่ผู้เดียวในประเทศไทย
มากว่า 45 ปี เป็นธุรกิจหนึ่งในกลุ่มสยามกลการ ฯ ภายหลังมีการร่วมทุนกับ จีเอส ประเทศญี่ปุ่น ตั้งบริษัท สยามยีเอสแบตเตอรี จำกัด ดำเนินการผลิตแบทเตอรี จีเอส เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย โดยแบ่งการทำตลาดเป็น 2 ช่องทาง คือ ผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เช่น นิสสัน มิตซูบิชิ ฟอร์ด มาซดา ซูซูกิ จีเอม โตโยตา อีซูซุ เป็นต้น ซึ่งครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ของตลาด ตลาดรวมมีมูลค่าประมาณ 1,130,000 ลูก แบทเตอรี จีเอส มียอดจำหน่ายประมาณ 700,000 ลูก หรือ คิดเป็นสัดส่วน 40 %
อีกตลาดหนึ่ง คือ ตลาดทดแทน โดยจำหน่ายผ่าน บริษัท สยามยีเอสเซลส์ จำกัด ซึ่งมีส่วนแบ่งทาง
การตลาดเป็นอันดับ 1 โดยตลาดรวมมีประมาณ 4,000,000 ลูก แบทเตอรี จีเอส มียอดจำหน่ายมาก
กว่า 2,000 ล้านบาท
ส่วนปี 2550 บริษัท ฯ ตั้งเป้าเติบโต 25 % หรือมียอดจำหน่ายประมาณ 2,500 ล้านบาท คิดเป็น
จำนวนแบทเตอรี
รถยนต์ 1,500,000 ลูก
สำหรับตลาดต่างประเทศ ปัจจุบัน ส่งออกแบทเตอรี จีเอส ไปจำหน่ายยังประเทศ พม่า ลาว ญี่ปุ่น มา
เลเซีย กัมพูชา และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง มียอดส่งออกปีละประมาณ 400 ล้านบาท
ฟอร์มูลา : คุณมีความมั่นใจแค่ไหน กับการเติบโตของยอดขายท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอ
ตัว ?
เกริกกิจ : ยอดขายของแบทเตอรีในตลาดทดแทนขึ้นอยู่กับยอดขายรถยนต์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่อง
จากรถยนต์ต้องมีการเปลี่ยนแบทเตอรีใหม่ ดังนั้น แม้ว่าเศรษฐกิจปี 2550 ยังคงชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อเริ่มถดถอย แต่ความต้องการแบทเตอรีใหม่ของผู้ใช้รถยังมีอยู่ รวมทั้งยังมองว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัท ฯ ในปัจจุบัน มีอยู่เพียง 40 % และยังมีโอกาสที่จะสร้างส่วนแบ่งให้เพิ่มขึ้นเป็น 50 %
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าเพราะเหตุใดแบทเตอรี จีเอส จึงเป็นอันดับ 1 ในตลาดแบทเตอรีเมืองไทย ?
เกริกกิจ : บริษัท ฯ จัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น จัดงานเลี้ยงให้แก่ลูกค้า จัด
ท่องเที่ยวต่างจังหวัด ท่องเที่ยวต่างประเทศ จัดโพรโมชันจับฉลากแจกรถกระบะ 10 คัน และทองคำ
100 บาท โดยปี 2550 ได้เพิ่มจำนวนรถกระบะที่แจกเป็น 20 คัน นอกจากนี้ บริษัท ฯ ตั้งราคาจำหน่าย
แบทเตอรีกับดีเลอร์ทุกรายในราคาเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ว่าร้านใหญ่หรือร้านเล็ก พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์อีกมากมายที่ลูกค้าจะได้รับ จากการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท ฯ เหล่านี้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ทำให้ แบทเตอรี จีเอส ครองตำแหน่งผู้นำในตลาด และช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับบริษัท ฯ
ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน การแข่งขันในตลาดแบทเตอรี เป็นอย่างไร ?
เกริกกิจ : การแข่งขันที่ผ่านมาค่อนข้างสูง ซึ่งเดิม บริษัท ฯ ไม่มีนโยบายการจัดโพรโมชันเหมือน
ปัจจุบัน แต่หลังจากที่ผมได้กลับมาดูแลธุรกิจนี้อีกครั้ง จึงได้มีส่วนร่วมในการจัดโพรโมชันดังกล่าวขึ้น และสามารถดึงลูกค้าเดิมให้กลับมาเป็นดีเลอร์ของบริษัท ฯ ได้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีดีเลอร์กว่า 200 แห่ง และตั้งเป้าว่าภายในปี 2550 จะมีดีเลอร์ 300 แห่ง ซึ่งจะเป็นดีเลอร์ในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล 100 แห่ง และต่างจังหวัดภาคละ 50 แห่ง คาดว่าดีเลอร์จะสามารถทำตลาดครอบคลุมร้านจำหน่ายแบทเตอรีทั่วประเทศที่มีมากกว่า 1,000 ร้านค้าได้อย่างมีประสิทธภาพ
ฟอร์มูลา : คุณวางกลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ไว้อย่างไร ?
เกริกกิจ : บริษัท ฯ กำหนดให้ดีเลอร์ทุกรายต้องเซ็นสัญญากับบริษัท ฯ หากดีเลอร์รายใดทำยอด
จำหน่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จะมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่บริษัท ฯ จัดขึ้น ซึ่งกำหนดการจัด
งานในปีนี้ เดือนมิถุนายน จัดให้ดีเลอร์เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และเดือนพฤศจิกายน เป็นทริพ
เดินทางท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมจัดแคมเปญจับฉลากเพื่อแจกรถกระบะ 20 คัน และทองคำแท่ง 100 บาท
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา บริษัท ฯ ได้ทำการปรับปรุงร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ให้เป็นชอพมาตรฐาน ซึ่งได้
ทำการปรับปรุงไปแล้ว 55 แห่ง และจะปรับปรุงเพิ่มขึ้นอีก 30 แห่ง ภายในปีนี้ ใช้งบประมาณในการ
ปรับปรุงร้านค้าแห่งละประมาณ 200,000 บาท
ฟอร์มูลา : ปีนี้จะมีการพัฒนาแบทเตอรีรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ?
เกริกกิจ : ไม่มี เนื่องจากแบทเตอรีรถยนต์ ไม่มีการพัฒนาตามรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากแบท
เตอรีของอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องมีการพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ แต่สำหรับ
แบทเตอรีที่ผลิตให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ อาจมีการดีไซจ์นแบทเตอรีให้สอดคล้องกับรุ่นของรถ แต่
สำหรับตลาดทดแทนมีแบทเตอรีให้เลือกใช้ทั้งรุ่นที่ติดมากับรถ หรือแบทเตอรีธรรมดาที่มีราคาถูกกว่า
ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าการพัฒนาแบทเตอรีรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ทำให้ผู้จำหน่ายต้องสตอคสินค้ามากขึ้น รวมทั้งผู้ใช้เองอาจสับสนในการเลือกใช้งาน
ฟอร์มูลา : จุดแข็งของ จีเอส แบทเตอรี คืออะไร ?
เกริกกิจ : แบทเตอรี จีเอส มียอดจำหน่ายเป็นอันดับ 2 ของโลก อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย และญี่ปุ่น
มีโรงงานผลิต 28 แห่ง ใน 14 ประเทศทั่วโลก โรงงานผลิตทุกแห่ง ผลิตภายใต้เทคโนโลยีมาตรฐานระดับโลกของ จีเอส ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโรงงานในประเทศไทย ก็ได้รับการควบคุมการผลิตตามเทคโนโลยีดังกล่าวเช่นกัน โดยมีวิศวกรจากประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ จีเอส ใช้ตะกั่วแท้ 99.99 % เป็นวัตถุดิบหลัก
ในการผลิต ทำให้ได้แบทเตอรีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานยาวนาน
ที่ผ่านมา จีเอส แบทเตอรี มีการเคลมเกิดขึ้นเพียง 3 /1,000 ลูกเท่านั้น ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ ไม่ได้
เกิดจากแบทเตอรีโดยตรง แต่เกิดจากความผิดพลาดของผู้ใช้ หรือระบบของเครื่องยนต์ ซึ่ง จีเอส ประเทศญี่ปุ่น จะมีการสุ่มตรวจสอบแบทเตอรีที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทย เพื่อนำไปตรวจสอบคุณภาพเป็นระยะ เพื่อให้ผู้ใช้ มั่นใจในประสิทธิภาพของสินค้า
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ/นาทลดา ทองมาก
ภาพโดย : เอกลักษณ์ จุลสุคนธ์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53123