พิเศษ(formula)
คาราวานรถโบราณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย และหอภาพยนต์แห่งชาติ จัดงาน "คาราวานรถโบราณท่องเที่ยวนครปฐม" เส้นทางถวายพระพร ย้อนอดีตแผ่นดิน สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2549
คาราวานรถโบราณครั้งนี้ มีทั้งสิ้น 32 คัน นำทีมโดย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ออกเดินทางจากบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า มุ่งหน้าสู่ จ. นครปฐม จุดหมายแรก คือนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อคณะคาราวานมาถึงพ่อแม่พี่น้องชาวนครปฐม ให้ความสนใจถ่ายรูปร่วมกับรถโบราณมากมาย
พิธีตีธงปล่อยขบวนรถอย่างเป็นทางการ มี ประสาท พงศ์ศิวาภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี หลังจากนั้นคาราวานได้เคลื่อนขบวนถึงพระราชวังสนามจันทร์ เข้าสู่กลิ่นอายบรรยากาศย้อนยุคแผ่นดินสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า
หลังจากแวะพักรับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม ริเวอร์ เสร็จเรียบร้อย ขบวนได้เคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ร่วมเปิดงานลานวัฒนธรรมสืบสานงานศิลป์ และได้ชมประติมากรรมหุ่นขี้ผึ้งที่ผลิตจากไฟเบอร์กลาสส์ แห่งแรกของประเทศไทย ที่นี่สมาชิก ฯ ยังได้ร่วมฟังการขับเสภา จาก ครูแจ้งคล้ายสีทอง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง (คีตศิลป์) ประจำปี 2538 อีกด้วย
จากนั้นคาราวานรถโบราณ ได้มุ่งหน้าสู่ ถนนพุทธมณฑลสาย 5 เพื่อจุดหมายสุดท้าย คือ หอภาพยนต์แห่งชาติ "เสียง ศรีกรุง" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับภาพยนตร์โบราณ ทำให้ทราบประวัติของภาพยนตร์ที่ผ่านมาในรอบ 100 ปี ที่นี่มีสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับหนังในอดีตอย่างเช่น แม่นาค หรือ หนังเรื่องสุดท้ายของ มิตร ชัยบัญชา คือ ภาพยนตร์เรื่อง อินทรีแดง รวมถึงได้ร่วมชมการฉายภาพยนตร์แบบในอดีต (แอบเห็นท่านนายกสมาคม ฯ รีบวิ่งเข้าคิวเพื่อรอชมเป็นคนแรกเสียด้วย) ที่หอภาพยนตร์แห่งนี้ มีการโชว์ "รถหนังขายยาโบราณ" คันเดียวในประเทศไทย สมาชิกบางคนบอกว่า เห็นรถคันนี้แล้วเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีตจริงๆ
ก่อนเดินทางกลับ บรรดาสมาชิก ฯ ได้ร่วมกันปลูก ต้นลีลาวดี เป็นที่ระลึก ต่อจากนั้นเป็นพิธีมอบเกียรติบัตร และโล่เกียรติยศแก่เจ้าของรถที่เข้าร่วมคาราวาน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครโดยสวัสดิภาพ
23 กันยายน 2549 สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยนัดรวมตัวกันอีกครั้ง งานนี้ได้รับความร่วมมือจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เช่นเคย จัดคาราวาน "เยือนเมืองมรดกโลก นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา"
คาราวานรถโบราณ เคลื่อนขบวนสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดหมายแรกครั้งนี้ คือ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสถานที่ใหญ่โต ภายในเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับงานหัตถกรรมทั้งสิ้น
จากนั้นคาราวานได้เคลื่อนขบวน มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา เมื่อขบวน ฯ เดินทางมาถึงหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร สมาชิกได้แวะนมัสการพระพุทธไตรรัตนนายก (ซำปอกง) และร่วมสักการะศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก พร้อมให้อาหารปลาบริเวณหน้าวัด
หลังอิ่มบุญกันแล้ว คาราวานได้เคลื่อนขบวนสู่ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 6 ระหว่างการเดินทาง ผ่านสถานที่สำคัญมากมายเช่น วัดราชประดิษฐาน พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เมื่อคาราวาน ฯ มาถึง และจอดรถกันเป็นระเบียบเรียบร้อย น้องๆ จาก โรงเรียนสุนทรวิทยา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น สมาชิก ฯ รับประทานอาหารกลางวัน ที่นี่ พร้อมชมการแสดง รำหมู่ดาบ 2 มือ ชุดวีระเทพ รวมถึงการต่อสู้ด้วยง้าวและกระบี่ จากโรงเรียนสำนักดาบวังหน้า
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย คราวนี้สมาชิก ฯ เปลี่ยนอิริยาบถจากการขับ มาเป็นนั่งรถชมวิวกันบ้างสมาชิกขึ้นรถพ่วงพร้อมด้วยมัคคุเทศก์ใจดี อย่าง อาจารย์มณฑล เงินหิรัญ นำพาเราออกจากหน้าศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา ตลอดทางอาจารย์คอยให้ข้อมูลของเมืองอย่างละเอียด
สมาชิกได้นั่งรถพ่วง นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญมากมาย เช่น พระปรางค์วัดราชบูรณะ รวมถึงชมกรุเครื่องทองในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่สำคัญมีโอกาสนมัสการพระพุทธนิมิตรพิชิตมารโมลีศรีสรรเพชรบรมไตรโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ ณ วัดหน้าพระเมรุ
หลังจากนั้น ได้นมัสการพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพระนครศรีอยุธยา ที่ยังไม่ถูกทำลายเช่นเดียวกัน อยากบอกว่า แอบได้ยินสมาชิก ฯ บางคน ที่ได้ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอดีตแล้ว เกิด ซึ้ง บอกกับผู้ติดตามว่า "ผมรักประเทศไทยจังครับ"
หลังจากนั้น คาราวานได้เคลื่อนขบวนไปโรงแรม กรุงศรีริเวอร์ ก่อนเคลื่อนขบวนมาที่ สถาบันอยุธยาศึกษาเพื่อเข้าชมบ้านเรือนไทย ซึ่งเป็นศูนย์ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
เมื่อสมาชิก ฯ มาถึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก เพิ่มศักดิ์ สีทองสุรภณา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งมอบเกียรติบัตรแก่สมาชิกที่เข้าร่วมคาราวานในครั้งนี้ ต่อด้วยการร่วมชมการแสดงโขนยกรบ การแสดงละครใน ชุดย่าหรันตามนกยูง รวมถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน ชุดพลอง และไม้สั้น หลังจากนั้นขบวนรถโบราณได้เคลื่อนพลไปตามถนนภายในตัวเมือง เพื่อชมทัศนียภาพตอนกลางคืน
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ นายกสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย ฝากความในใจทิ้งท้ายไว้ว่า
"ความจริงเมืองโบราณกับรถโบราณ เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดี เหมือนกับเป็นเนื้อคู่ที่มาเจอกัน คนรักรถโบราณส่วนใหญ่ พื้นฐานจะเป็นคนชอบวัตถุโบราณอยู่ด้วย และพระนครศรีอยุธยา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยของโบราณมากมาย ซึ่งน่าดู และต้องชมว่าคณะผู้จัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำได้ดีมาก ทางคณะสมาคม ฯ ของเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และภายในปีนี้ ทางสมาคม ฯ จะพาไปเที่ยวกันอีกประมาณเดือนธันวาคม จะไปที่ชะอำ เหมือนเดิม แต่ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าเดิม เป็นแนวหัวหินย้อนยุค พวกเราจะแต่งตัวย้อนยุคกัน"
แล้วพบกันแน่อีกที ที่หัวหิน
เรื่องโดย : ปาจรีย์ ทัศนาญชลี
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53005