จับตา(formula)
พินิจ งามพริ้ง
พินิจ งามพริ้ง ผู้อำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จบการศึกษาด้านสื่อสารมวลชนสาขาหนังสือพิมพ์ คณะนิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำงานที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ 7 ปี เคยทำข่าวเกี่ยวกับธุรกิจ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ได้ความรู้กว้างขวางขึ้นทั้งในเรื่องของคอนซูเมอร์โพรดัคท์ ข่าวรถยนต์ ข่าวกระทรวงอุตสาหกรรม และเรื่องของข่าวการเงิน
หลังจากนั้นไปทำงานด้านการตลาดกับ บริษัท สหวิริยาซิตี้ จำกัด เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 2 ปี ไปหาประสบการณ์ต่อที่สหรัฐอเมริกาอีก 1 ปี กลับมาทำงานที่ธนาคารกรุงเทพ ด้านสื่อสารภายในองค์กร ดูแลปรับเปลี่ยนวิธีคิดของพนักงานกว่า 2 หมื่นคน และอยู่ที่ธนาคารกรุงเทพประมาณ 2 ปี ได้เรียนรู้งานด้านประชาสัมพันธ์ ที่บริษัท โอกิลวี่พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นโรงเรียนด้านประชาสัมพันธ์ อยู่ที่นี่ 2 ปี ก็ไปเป็นที่ปรึกษา อาวุโส บริษัท ACA จำกัด หลังจากนั้นก็มาร่วมงานกับ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พินิจ ตัดสินใจมาร่วมงานกับ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นความท้าทาย และเป็นโอกาสที่ดี
"ผมไม่ได้มาเพียงต้องการผลตอบแทน แต่ความเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องทำงาน แต่ต้องตอบคำถามตัวเองว่ามีอะไรให้เราทำหรือเปล่า ไม่ใช่มาแล้วสบายๆ ก็ไม่อยากทำ มีสิ่งน่าตื่นเต้น สนุกสนาน ก็จะมีรสชาติทำให้เราอยู่ได้"
"ผมมองว่า มิตซูบิชิ เป็นสินค้ารากฐานที่เข้มแข็ง และมรดกที่สืบทอดมาเป็นเวลานาน คือ ความเป็นมอเตอร์สปอร์ท ซึ่งหากนำมาใช้อย่างถูกวิธีก็จะทำให้ มิตซูบิชิ ได้เปรียบ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มี แต่เป็นความท้าทายที่จะต้องก้าวไป คือ การรักษามรดกต้องขยายผลไปสู่คนทั่วไป นั่นคือ บุคลิกภาพของรถยนต์ มิตซูบิชิ ต้องชัดเจน จับต้องได้"
"ความท้าทายกับความยากที่มีอยู่ คือ จะทำอย่างไรที่จะให้บแรนด์ถูกสื่อออกไปให้ถูกต้อง คือ การนำมรดกมาใช้ให้ถูกต้อง อีกอย่าง คือ องค์กรใหญ่จะมีปัญหาเรื่องความคล่องตัว ในการดำเนินงาน ตัดสินใจ การทำเรื่องแปลกใหม่ หรือ ที่เรียกว่า กับดักแห่งความสำเร็จ เห็นได้จากที่ผ่านมาชื่นชมกับความสำเร็จเก่าๆ ทำแบบเดิม แต่เงื่อนไขทางธุรกิจ สังคม ตลาด การตัดสินใจซื้อเปลี่ยนไป ดังนั้นแนวทางแห่งความสำเร็จจะไม่เหมือนเดิม นั่นคือ สิ่งที่บริษัทใหญ่ๆ ที่เคยประสบความสำเร็จจะต้องคิด"
หน้าที่รับผิดชอบหลัก คือ การสร้างภาพลักษณ์ของสินค้า และองค์กร ให้คนไทยรักและชื่นชม มิตซูบิชิ อีกส่วนหนึ่ง คือ ทำอย่างไรให้ภาพลักษณ์ที่ดีถูกสื่อออกมาให้มากที่สุด
"ผมเพิ่งเริ่มต้นกับ มิตซูบิชิ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่พอใจกับผลงานมากนัก แต่อย่างน้อยถือเป็นช่วงเวลาที่ได้มีส่วนร่วมในการทำงาน ที่เห็นชัดเจน คือ กิจกรรมเพื่อสังคมที่ห่างหายไปนาน สามารถผลักดันมาได้ คือ โครงการขับขี่ปลอดภัยถวายในหลวง อาจจะไม่ใช่โครงการที่ใหม่ ถือว่าเป็นก้าวแรก และปีนี้เป็นปีที่สำคัญ ในฐานะองค์กรน่าจะปรับแผนงานเกี่ยวกับสังคม แผนงานที่จะทำต่อไป คือ การสื่อสารกับสื่อมวลชน ดีเลอร์ กลุ่มลูกค้า และที่สำคัญที่สุด คือ การสื่อสารกับบุคลากร
ส่วนที่ มาซดา เป็นหนึ่งในทีมที่สามารถทำให้ ซูม...ซูม เกิดการรับรู้ และเข้าใจ เพราะไม่มีใครนึกออกว่าคืออะไร ใช้เวลา 2-3 ปี ถือเป็นหนึ่งในทีม มีบทบาทสำคัญ เพราะในแง่ของแอดเวอร์ไทซิงไม่สามารถบอกความหมายได้ 100 % เพราะเป็นแค่เพลง แต่การอธิบายความหมายทำให้บุคลิกบแรนด์โดดเด่นต้องใช้ พีอาร์"
"จากประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ผมเรียนรู้มา คือ มูลค่าความสำคัญของบแรนด์ มีความสำคัญสูงสุด ถ้าบแรนด์ดี การลดราคาก็ไม่จำเป็น การใช้งบประมาณในการโฆษณาก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มมากมาย แต่ต้องมีบ้าง การทำให้เกิดบแรนด์ที่ดีมีหลายส่วน ไม่ใช่โฆษณาเพียงอย่างเดียว บแรนด์ที่ดีต้องมี 1. สินค้า และบริการที่ดี 2. ทำให้เกิดการรับรู้ 3. ภาพลักษณ์ 4. ความรู้สึกดีต่อบแรนด์ การร่วมแรงร่วมใจของคนในสังคมที่มีให้กับบแรนด์ 5. ช่องทางการจำหน่าย สุดท้าย คือ ความภักดีต่อบแรนด์ ซึ่งต้องทำให้พัฒนาและควบคู่กันไป ตัวอย่าง สตาร์บัค แทบไม่ต้องโฆษณา แต่มีความชัดเจนของบแรนด์ สามารถสร้างบแรนด์ได้"
"เป้าหมายในวันนี้ คือ ความสมดุลระหว่างยอดขายกับความพึงพอใจของลูกค้า ที่ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในเรื่องการทำงาน ยอดขาย คือ เป้าหมายขององค์กร ถ้าไม่รับก็เดินไปกับองค์กรไม่ได้ ส่วนความพึงพอใจ ไม่ว่าสื่อมวลชน ลูกค้า ผู้ร่วมหุ้น พนักงาน ต้องพึงพอใจในระดับที่ไปด้วยกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนเป้าหมายของชีวิตนั้นไม่ได้คาดหวังมากมาย ตั้งใจทำงานด้วยความสุข และเรารู้สึกว่าองค์กรได้อะไรจากเรา และทุกคนที่เกี่ยวข้องเราได้จากเขาบ้าง เขาได้จากเราบ้าง ก็จะไปด้วยกันได้ ไม่ได้หวังว่าจะร่ำรวยมีเงินมากมาย มีชื่อเสียง แต่อยากให้คนชอบเรา และมองเราในแง่ดี
เวลาว่างส่วนใหญ่ชอบเล่นฟุตบอล เล่นมาตั้งแต่อายุ 10 ปี เริ่มแรกอยากเป็นนักเตะอาชีพ ถือว่าเป็นความฝันสมัยเด็ก ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นการเล่นเพื่อสุขภาพ และสัมพันธภาพกับเพื่อนร่วมโลก เพราะฟุตบอลจะหาผู้บริหารมาเล่นน้อย เราก็จะให้หาเพื่อนร่วมเล่นที่เป็นนักศึกษา เด็ก คนทำงานทั่วไป นั่นเป็นตัวตนอีกแบบหนึ่ง เพราะวันธรรมดาจะเจอสื่อมวลชน นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงาน แต่ปัจจุบันเล่นฟุตบอลกับเด็กๆ ไม่ไหว หันมาดไรฟกอล์ฟ แต่ฟุตบอลยังไม่ทิ้ง ยังทำเวบไซท์ sheerthai.com"
"ผมเป็นคนที่อยากทำอะไรก็ทำเลยไม่รีรอไม่ต้องศึกษามาก ใช้ความรู้สึก อย่างเวบไซท์ รู้ว่ามีอินเตอร์เนท ตอนอายุ 29 พออายุ 31 เริ่มมีโอกาสใช้อินเตอร์เนทครั้งแรก พออายุ 33 เริ่มทำเวบไซท์ ลงทุนไปก่อน ไม่ได้คิดอะไรมากแค่อยากรู้ว่าทำอย่างไร อย่างตอนเป็นนักข่าว อยากทำกราฟิคดีไซจ์น ยังไม่รู้จักคอมพิวเตอร์ ก็ซื้อแมคอินทอชมาเครื่องหนึ่ง แล้วก็นั่งทำ ศึกษาไปเรื่อยๆ ใช้ความรู้สึก หัวใจ สมอง ก่อนมาอยู่ มาซดา ก็ขายรถเก่า ซื้อ มาซดา มาขับเลย คือ ใจไปก่อนเลย"
UPDATE
ที่เที่ยวล่าสุดที่ไป ส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปเที่ยว แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไปเยี่ยมญาติที่จังหวัด เชียงใหม่ และชุมพร
หนังเรื่องล่าสุดที่ดู ชอบดูหนังมาก เพราะปัจจุบันคนอ่านหนังสือน้อยลง มีความรู้ ความบันเทิงสำเร็จรูปจากภาพยนตร์ เรื่องล่าสุดที่ดูคือ MI-III ซึ่งเมื่อก่อนชอบหนังซีเรียส ปรัชญา ถือเป็นการเรียนรู้ แต่ตอนนี้ชอบดูหนังประวัติศาสตร์ ส่วนหนังแอคชันดูแล้ว สนุก ผ่อนคลาย และเป็นคนชอบดูคนเดียว
หนังสือเล่มล่าสุดที่อ่าน ตลิ่งสูง ซุงหนัก ของ นิคม รายวา อ่านแล้วชอบเพราะมีกลิ่นอายของชนบท เป็นเรื่องของคนเลี้ยงช้าง การทำงานศิลปะ สุดท้ายช้างตาย คนนำท่อนซุงมาแกะสลักเป็นรูปช้าง แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากของคนอีกมุมหนึ่งของโลก ในสิ่งที่มองว่าหากมีเงินก็ซื้อเลย แต่บางคนอยากได้แต่ยาก และหนังสือการตลาดของ PHILIP KOTHLER
เพลงล่าสุดที่ได้ฟังแล้วรู้สึกชอบ หากันจนเจอ ของ กบ เสวนิตย์ กับ ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณ ชอบเนื้อเพลงที่บอกถึงความแปลกของโลก มีความหมายที่ดี
เครื่องแต่งกายชิ้นล่าสุดที่ซื้อ นาฬิกา ข้อมือ ยี่ห้อ ไซโก สปอร์ททูรา ซื้อเพราะชอบมาก และใช้เงินมากด้วย เพราะปกติไม่นิยมบแรนด์เนม แต่ต้องมีบ้างเพื่อเสริมบุคลิก
คำพูดล่าสุดที่โดนใจคุณ เป็นคำพูดของ วาสโก ดา กามา ถ้าคุณทำลายกำแพงแห่งความกลัวลงได้ คุณจะได้ ค้นพบโลกใบใหม่ ฟังแล้วรู้สึกว่าน่าจะเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ หลายครั้งรู้สึกว่าคนที่มีประสบการณ์ มีศักยภาพ แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวเอง กลัว เพราะไม่รู้ว่าข้างหน้ามีอะไร ต้องขจัดออกไป
สินค้ารุ่นล่าสุดที่คุณอยากเป็นเจ้าของ ที่ดินประมาณ 1 ไร่ ติดแม่น้ำ ทะเล หรือลำธารก็ได้ เพราะมองว่าคนเราเกิดมาจากธรรมชาติ สุดท้ายก็ต้องกลับไปอยู่กับธรรมชาติ ไม่ต้องรอแก่ เมื่อรู้สึกพอใจ ก็ทำในสิ่งที่อยากทำ
ผลงานล่าสุดที่คุณภูมิใจ ทำให้ นิตยสาร "ฟอร์มูลา" มาสัมภาษณ์เรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของงาน
บั้นปลายชีวิตที่คิดไว้ล่าสุด ไปอยู่บ้านบนที่ดินที่ซื้อ เพราะต้องการไปอยู่กับธรรมชาติ ปลูกผัก
ขอบคุณ ร้านอาหารเฮงจุ้ย ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : ธีรวิทย์ โตจันทร์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : จับตา(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52864