มุมมองนักออกแบบ
กลยุทธ์ พันธมิตรธุรกิจกับโลกรถยนต์
คงจะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในโลกธุรกิจยุค ไอที มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่ละบริษัทต่างต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อใช้แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาเป็นของตนให้มากที่สุด และที่น่าจับตาเวลานี้ ได้แก่ กลยุทธ์ "พันธมิตรธุรกิจ" หรือ "BRAND COLLABORATION"
เราได้เรียนรู้กลยุทธ์ย้อนยุค (RETRO FUTURISM) ของ J MAYS นักออกแบบรถยนต์ชื่อดัง กับผลงานมากมาย อาทิ เช่น โฟล์คสวาเกน บีเทิล (เต่า) ใหม่ ฟอร์ด จีที 40 และ ฟอร์ด ธันเดอร์เบิรด์ กันไปแล้ว ซึ่งต่อมาอีกหลายบริษัท ก็ทำตามกลยุทธ์นี้ และประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า ด้วยวิธีการเดียวกัน คือ การนำเอามูลค่าที่สะสมอยู่ใน บแรนด์ (BRAND) ออกมาขายนั่นเอง
บแรนด์ แต่ละ บแรนด์ มีมูลค่าที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการสร้างของแต่ละบริษัท ว่าให้ความสำคัญด้านนี้เท่าใด ใครให้ความสำคัญมาก ในอนาคตก็จะสบาย เพราะสินค้าจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกหลายเท่าตัว ยกตัวอย่างเช่น บริษัท บีเอมดับเบิลยู แห่งเยอรมนี ที่เคยเข้าครอบครอง โรเวอร์ กรุพของอังกฤษ ที่มีรถในเครือหลากหลายยี่ห้อ ก็เลือกที่จะนำบาง บแรนด์ ที่มีมูลค่าของ โรเวอร์ มาทำต่อนั่นก็คือ "มีนี" ซึ่งเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า บีเอม ฯ สามารถใช้มูลค่าของ บแรนด์ มีนี ได้อย่างเกินคุ้มจริงๆเพราะปัจจุบัน บีเอม ฯ สามารถฟันกำไรจากยอดขาย มีนี ได้อย่างมหาศาลทั่วโลก
อีกตัวอย่าง ที่ไม่ใช่รถยนต์ที่อยากจะเล่าให้ฟัง ก็คือ บริษัท ซัมซุง จากแดนโสม ที่สามารถสร้าง บแรนด์ได้อย่างรวดเร็วจนบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ต้องหันมามองกลยุทธ์การสร้าง บแรนด์ ของบริษัทนี้เท่าที่จำความได้เมื่อประมาณ 10 ปี ที่แล้ว สินค้าของเกาหลีนั้นถือได้ว่าไม่ค่อยจะมีคุณภาพสักเท่าไร อาจเปรียบเหมือนกับสินค้าจีนตอนนี้ ถ้าจะเทียบกับสินค้าญี่ปุ่นในขณะนั้นถือว่ายังห่างชั้นอยู่อีกหลายขุมแต่ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นที่จะเป็น บแรนด์ ระดับโลกให้ได้ ซัมซุง จึงใช้กลยุทธ์สร้าง บแรนด์ อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้มีความสวยงามที่สุดเป็นอันดับแรก โดยส่งพนักงานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ ไปศึกษาต่อในสถาบันด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก เช่น ART CENTER ในสหรัฐอเมริกาเป็นต้น ทำให้ภาพลักษณ์สินค้ารุ่นใหม่ๆ ของ ซัมซุง สวยงามน่าใช้ขึ้นทันที ซึ่งใช้งบประมาณในด้านการออกแบบนี้มากที่สุดในโลกก็ว่าได้ ดังนั้นในเวลาเพียงไม่ถึง 10 ปี จากสมัยก่อนที่ใครใช้โทรทัศน์ ยี่ห้อ ซัมซุง ก็อาจจะมีเสียง "ยี้" ตามหลังมา ปัจจุบันภาพลักษณ์ของ ซัมซุง น่าจะเบียดกับเจ้าตลาดโลกอย่าง โซนี มาติดๆ เรียกได้ว่าสร้าง บแรนด์ สำเร็จจนฝังเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกของผู้บริโภคแล้วว่า ถ้าใช้ ซัมซุง จะรู้สึกเท่ ดูมีรสนิยม ระดับโลกขึ้นมาซะงั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งยากมากขึ้น ถ้าต้องมาเป็นศัตรูกัน คงต้องแตกหักไปข้างหนึ่งแน่ๆ แนวคิดการใช้กลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจจึงเกิดขึ้น เช่น ขณะนี้ โซนี ก็จ้างทาง ซัมซุง ผลิตจอ แอลซีดี ให้ เพราะ ซัมซุงผลิตได้มากและถูกกว่าที่ โซนี ผลิตเอง เป็นต้น เท่ากับว่าใครถนัดด้านใดก็มาร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง หรือแม้กระทั่งการแตกไลน์สินค้าไปสู่ตลาดใหม่ๆ ก็สามารถทำได้ เช่น รองเท้ากีฬาที่เดิมจะออกแบบมาเพื่อการกีฬาเพียงอย่างเดียว ปัจจุบัน บริษัทรองเท้ากีฬาร่วมมือกับดีไซจ์เนอร์ชื่อดังได้สร้างสินค้า บแรนด์ ลูกขึ้นมาในสไตล์แฟชัน ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกหลายเท่าตัว
การใช้กลยุทธ์พันธ์มิตรทางธุรกิจนี้ จึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน เพราะทุกคนจะได้ผลประโยชน์แบบ WIN/WIN สามารถเพิ่มยอดขาย และเปิดตลาดใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
คราวนี้เราลองมาดูวงการรถยนต์สิว่าเขาร่วมมืออะไรกันบ้าง ?
เริ่มจาก แฟร์รารี น่าจะเห็นได้ชัดที่สุด หลังจากสร้าง บแรนด์ จนมีมูลค่าและเป็นที่จดจำว่ารถสปอร์ทที่ดีที่สุดแรงที่สุด คือ เจ้าม้าลำพอง นาม "แฟร์รารี" ก็ได้ร่วมกับ บริษัทผลิตอุปกรณ์กีฬา "พูมา" อย่างเป็นทางการในการผลิตสินค้า MOTOR SPORT FASHION ที่มีตั้งแต่รองเท้า เสื้อ กางเกง กระเป๋า ชุดแข่ง และอีกมากมาย ซึ่งถือว่า พูมา ได้ใช้ภาพลักษณ์ของโลโก แฟร์รารี ดัน บแรนด์ ของตนเอง ขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลกได้ตามความคาดหมาย จากที่เมื่อ 20 ปี ก่อนตลาดเป็นของอดิดาส มาโดยตลอดต่อมาก็ถูกแซงด้วย ไนคี ตอนที่ ไทเกอร์ วูดส์ ดังเป็นพลุแตก
จากนั้น อดิดาส ก็พัฒนาสินค้าขึ้นมาได้สูสี แต่มวยรองอย่า พูมา ก็สามารถใช้กลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจดันตัวเองขึ้นมาเทียบเท่าเจ้าตลาดทั้ง 2 ได้อย่างงดงาม
นอกจาก พูมา แล้ว แฟร์รารี ยังร่วมกับ เอเซอร์ บริษัท ผลิตคอมพิวเตอร์ รายใหญ่ของโลกผลิตโนทบุครุ่นแฟร์รารี ออกมา โดยตัวถังด้านบนของตัวคอมพิวเตอร์จะทำด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่ใช้สร้างตัวถังรถแข่ง F 1 นั่นเอง ซึ่งดูแล้ว แฟนๆ แฟร์รารี ต้องไม่พลาดที่จะซื้อไว้ใช้แน่ๆ
จะเห็นได้ว่าการสร้าง บแรนด์ นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เมื่อ บแรนด์ ของคุณมีค่าขึ้นมาแล้ว หลายๆบริษัท ก็อยากที่จะมาร่วมพันธมิตรธุรกิจกับ บแรนด์ ของคุณ ซึ่งเหมือนกับ แฟร์รารี ที่ตอนนี้อยู่เฉยแท้ๆ ก็สามารถหารายได้จากโลโกม้าลำพองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
นี่แหละครับพลังของกลยุทธ์พันธมิตรธุรกิจ วันนี้คุณ ดูแล บแรนด์ ของคุณดีแล้วหรือยัง ?
เรื่องโดย : "แมนดีไซจ์น"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52843