บทความ
จับชีพจรตลาดรถยนต์เชียงใหม่
ปีนี้งาน "มหกรรมยานยนต์ภาคเหนือ ครั้งที่ 1" ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ปลุกตลาดรถยนต์ในเชียงใหม่ให้คึกคักอย่างเห็นได้ชัด
"ฟอร์มูลา" จับชีพจรตลาดรถเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคเหนือ ที่มีประชากรกว่า 1.6 ล้านคน ซึ่งเริ่มพลิกผันเจ้าตลาดจากพิคอัพ สู่เก๋งขนาดเล็ก พร้อมเศรษฐกิจโตอย่างต่อเนื่อง จากการลงทุนเพื่อรองรับโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ
สภาพภูมิศาสตร์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าละเมาะ และภูเขา เนื้อที่ประมาณ 20,107 ตารางกิโลเมตร มีที่ราบอยู่บริเวณตอนกลางตามสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง มี 22 อำเภอ และ 2 กิ่งอำเภอ เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ขณะนี้มีการลงทุน เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และสนับสนุนการท่องเที่ยว ด้วยการสร้างถนนวงแหวน อุโมงค์ บริเวณรอบนอก เนื่องจากสภาพแออัดในเมือง ทำให้ต้องขยายออกนอกเมือง รวมถึงนำระบบขนส่งมวลชนมาใช้ แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากติดปัญหาเรื่อง การประชาสัมพันธ์ และเส้นทาง ที่ต้องมีการศึกษาและแก้ไข เพื่อตอบสนองให้ตรงตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น
ตลาดรถยนต์เชียงใหม่ ถือว่าเป็นตลาดใหญ่รองจากกรุงเทพ ฯ มีรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เข้ามาจำหน่าย ปีที่แล้วเติบโตเพิ่มขี้นประมาณ 10 % ตลาดใหญ่จะเป็นพิคอัพ 60 % ที่เหลือเป็นเก๋ง 40 % แต่ 50 % ของตลาดรถเก๋งจะเป็นรถขนาดเล็กที่มีเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,500 ซีซี ที่เหลือเป็นตลาดเครื่องยนต์ 1,600-3,000 ซีซี ส่วนปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้น 7 % ซึ่งจะมากกว่ายอดรวมทั้งประเทศที่คาดการณ์ว่าจะเติบโต 5 %
แต่เดิมพระเอก คือ รถจักรยานยนต์ แต่เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้รถจักรยานยนต์ มีจำนวนลดลง เปลี่ยนมาเป็นรถพิคอัพมือสอง ซึ่งแต่เดิมรถพิคอัพจะเป็นที่นิยมมากทั้งนอกเมืองและในเมือง เนื่องจากรถเก๋งมีราคาสูง แต่ปัจจุบันคนในเมืองเริ่มใช้รถเก๋งมากขึ้น สาเหตุเพราะเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางภาคเหนือ มีมหาวิทยาลัย 5-6 แห่ง เป็นเมืองนักศึกษา เพราะรถพิคอัพ 4 ประตู มีอัตราภาษีเพิ่ม ทำให้รถมีราคาแพงขึ้น
นอกจากนี้การเอื้อประโยชน์ทั้งเรื่องเงินดาวน์ อัตราดอกเบี้ย ทำให้นักศึกษา ข้าราชการ นิยมใช้รถกันมากขึ้น รถเก๋งจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,500 ซีซี นอกจากนี้รถที่จดทะเบียนในเชียงใหม่จะมาจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น ลำพูน พะเยา เนื่องจากบางยี่ห้อไม่มีตัวแทนในจังหวัดนั้นๆ รวมถึงบริษัทไฟแนนศ์ต่างๆ ทำให้ตัวเลขยอดจดทะเบียนเกินจริงประมาณ 20 %
[table]
สถิติจำนวนรถจดทะเบียนใหม่ระหว่างปี 2544-2548,
ปี รถจดทะเบียน/คัน,
ปี,รถจดทะเบียน
2544, 40932
2545, 54169
2546, 68247
2547, 71521
2548, 75019
[/table]
ที่มา กรมการขนส่งจังหวัดเชียงใหม่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาดรถเก๋งจะมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น แต่หากมองโดยรวม ความนิยมก็ยังมีอยู่เพียงแค่ในเมือง หรือกลุ่มนักศึกษา ข้าราชการ เท่านั้น แต่ตลาดใหญ่จริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นรถพิคอัพ เพราะประชาชนรอบนอกยังเป็นเกษตรกร
ศรีวิไล ไชยซาววงค์ ประธานชมรมผู้ค้ายานยนต์ จังหวัดเชียงใหม่
"ชมรมผู้ค้ายานยนต์จังหวัดเชียงใหม่ เกิดขึ้นเมื่อกว่า 10 ปี เป็นการรวมตัวเพื่อจัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์ ซึ่งจะมีสมาชิกทั้งบริษัทรถยนต์ ไฟแนนศ์ และประกันภัย
ตลาดรถยนต์ในเชียงใหม่นับว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เพราะว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวไม่มีผลกระทบ ต่างมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งแต่เดิมไม่คิดว่าจะเติบโตรวดเร็ว รวมถึงคนเชียงใหม่นิยมนำรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ส่วนตัวมาใช้ ถึงแม้ว่าจะมีระบบขนส่งมวลชนมาให้บริการ ก็ไม่ได้รับความนิยมเหมือนกรุงเทพ ฯ
คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจำนวนรถคงจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวมากขึ้น จะเห็นได้จากการเปิดไนท์ซาฟารี การจัดงานสวนพฤษศาสตร์โลก เพื่อเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
สำหรับการจัดงาน "NORTHERN MOTOR EXPO" ถือว่าเป็นการจุดประกายให้กับเชียงใหม่ คาดว่าปีหน้าจะมีบริษัทรถยนต์เข้าร่วมมากกว่านี้ เนื่องจากเป็นครั้งแรกทำให้ยังไม่ค่อยมั่นใจ แต่จากความสำเร็จในครั้งนี้เป็นเครื่องวัดได้กับการทำงานในปีต่อไป"
ดร. นิตย์ วังวิวัฒน์ ที่ปรึกษา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ และ กรรมการผู้จัดการ สยามนิสสัน เชียงใหม่ (7260-7265)
"จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าเป็นตลาดใหญ่รองจากกรุงเทพ ฯ มีรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อจำหน่าย ครั้งเมื่อเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำในปี 2541 มียอดจดทะเบียนเพียง 3,000 คัน และเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ในปี 2542 เป็น 4,000 คัน ปี 2543 เพิ่มขึ้นกว่า 6,000 คัน แต่จะเห็นว่าจากปี 2542 มาปี 2543 ตลาดเริ่มเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 40 % จนกระทั่งในปี 2546 มีรถจดทะเบียน 9,749 คัน และปี 2547 เพิ่ม 1,1834 คัน เพิ่มขึ้น 27 % จนกระทั่งปี 2548 มียอดจดทะเบียน 12,259 คัน แต่เพิ่มขึ้นแค่ 6 % แสดงให้เห็นว่าตลาดโตแบบถดถอย
สำหรับในปีนี้ คาดว่าคงจะเติบโต แต่คงไม่มาก เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดไม่เหมือนกับกรุงเทพ ฯ จึงต้องมีการผลักดันพอสมควร ซึ่งพอมีการจัดงาน "NORTHERN MOTOR EXPO" ที่ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 คัน ก็จะทำให้มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น คิดว่าคงเป็นยอดการจำหน่ายรถทั้งเดือน และเมื่อนำไปรวมกับการซื้อนอกงาน และคนที่อื่นมาซื้อที่เชียงใหม่ คาดว่าจะทำให้มียอดประมาณ 1,500-1600 คัน
ยอดจำหน่ายรถของจังหวัดเชียงใหม่ อันดับ 1 เป็น โตโยตา รองมาเป็น อีซูซุ ตามด้วย ฮอนดา และ มิตซูบิชิ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมียอดจดทะเบียนประมาณ 13,000-14,000 คัน
แต่หากมองแล้วปัจจุบันเศรษฐกิจรากหญ้าเริ่มมีปัญหาสำหรับต่างจังหวัด เพราะเมืองไทยเศรษฐกิจจะเน้นเติบโตในกรุงเทพ ฯ โดยเฉพาะเรื่องการส่งออก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เพราะช่วงก่อนดูเหมือนมีเงินใช้จ่าย เพราะได้เครดิทมากมาย แต่ตอนนี้ถึงช่วงเวลาของการใช้หนี้
ส่วนตลาดรถ นิสสัน ปัจจุบันมีแต่รถรุ่นเก่าจำหน่าย รวมถึงรถเก๋งเล็กก็ไม่มี ปี 2549 นี้ คาดว่าจะมี ทรีดา มาแทน ซันนี และสิ้นปีนี้หรือประมาณ ต้นปีหน้า จะมีรถพิคอัพเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งด้วยสาเหตุนี้ทำให้ยอดจำหน่ายลดลงต่อเนื่อง จากเดิมมีมาร์เกทแชร์เกือบ 12 % ปัจจุบันเหลือแค่ 5 % ในเชียงใหม่นี้มียอดขายเพียงแค่ปีละ 600 จากเดิม 1,000 คัน
ดังนั้นการทำตลาดของ นิสสัน จึงต้องหันไปเดินเข้าหาลูกค้ามากกว่ารถยี่ห้ออื่น ที่ส่วนใหญ่จะมีรถใหม่ออกสู่ตลาด ลูกค้าจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเอง ซึ่งในการทำการตลาดของ นิสสัน ถือว่าเป็นสินค้าที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในต่างประเทศ ได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 2 ของตลาด ซึ่งคาดว่า 2-3 ปี ข้างหน้า จะฟื้นฟูให้ นิสสัน เป็นที่นิยมเหมือนกับในต่างประเทศ
อยากให้รัฐบาลผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางสี่เหลื่ยมเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องของระบบการเงิน การทาง และความปลอดภัยต่างๆ ส่วนเรื่องของรถยนต์ที่ผ่านมาบริษัทรถยนต์ต่างๆ ทำการตลาดอย่างเข้มข้น ต่อสู้กันอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รถยนต์มียอดจำหน่ายเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ที่น่าเป็นปัญหาในปัจจุบันจะเป็นเรื่องของดอกเบี้ยที่มีอัตราเพิ่มขึ้น"
สุทธิพงศ์ จินดาศิลป์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โตโยต้า เชียงใหม่ จำกัด (7271-7286)
"จังหวัดเชียงใหม่เน้นเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลัก เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี รวมถึงโครงการต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น การจัดงาน "มหกรรมพืชสวนโลก" จะมีผู้เข้าร่วมประชุมถึง 22 ประเทศ คาดว่าจะทำให้ตลาดรถเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 7 % ซึ่งจะมากกว่าทั่วประเทศที่คาดว่าจะเติบโตเพียง 5 % เนื่องจากประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้น
แต่เดิมรถพิคอัพจะเป็นที่นิยมมาก ทั้งในเมืองและนอกเมือง เนื่องจากรถเก๋งมีราคาสูง แต่ปัจจุบันคนในเมืองใช้รถเก๋งมากขึ้น จากเหตุผลด้านราคา ความคุ้มค่า สะดวกสบาย โดยเฉพาะรถซิทีคาร์ สามารถซื้อเป็นของขวัญให้แก่บุตรหลานได้ ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัว ยารีส เพียงไม่ถึงเดือน ที่มียอดจองกว่า 100 คัน
สำหรับยอดขายปีที่แล้ว โตโยตา เชียงใหม่ มียอดรวมทั้งสิ้น 6,000 คัน ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 7,000 คัน
โดยสัดส่วนของรถพิคอัพและรถเก๋งนั้นขึ้นอยู่กับซัพพลาย เพราะปัจจุบันยังมียอดจองรถพิคอัพอยู่เป็นจำนวนมาก และ ยารีส ถือเป็นเซกเมนท์ใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาด รวมถึงปัจจุบัน รถตู้ ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะรถตู้ คอมมิวเตอร์ เป็นโมเดลใหม่ มีขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ใช้รถตู้เก่าหันมาเปลี่ยนใหม่เป็นจำนวนมาก
สำหรับสภาพการแข่งขันในเชียงใหม่ จะเน้นการบริการลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการเข้าไปหาลูกค้ามากขึ้น แทนที่การให้ลูกค้าเดินเข้ามาโชว์รูม พร้อมกับเน้นการจัดกิจกรรมในบริเวณรอบนอกจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่อยู่ห่างไกล
เชียงใหม่จะมีเศรษฐกิจที่เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการส่งเสริมในหลายด้านจากภาครัฐ ทั้ง หอประชุม
ตลาดกลาง เอสเอมอี โรงแรม รวมถึงการขยายถนน ที่จะมีทั้งอุโมงค์ วงแหวน และรถราง ในอนาคต"
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52796