พิเศษ(formula)
D-MAX IN HOKIKAIDO
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เชิญผมพร้อมคณะสื่อมวลชนไทยไปทดสอบรถ อีซูซุ ดี-แมกซ์ เครื่องยนต์ใหม่ ไอ-เทค 2,500 ดีดีไอ ซูเพอร์คอมมอนเรล ที่สนามทดสอบ อีซูซุ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ต่อไปนี้คือ ผลการทดสอบ และการเดินทางตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2548
สองวันแรก
ทดสอบ 2 สนาม
การทดสอบ มีขึ้นในวันที่ 2 ของการเดินทาง โดยวันแรกเราไปถึงสนามบินนาริตะในกรุงโตเกียวแต่เช้าตรู่ จากนั้นบินต่อจากสนามบินภายในประเทศฮาเนดะไปยังสนามบินชิน-ชิโตะเสะ ในฮอกไกโด เกาะเหนือสุดของญี่ปุ่น แล้วเข้าพักโรงแรม แกรนด์ นิว โอจิ กลางเมืองเล็กๆ เหงาๆ ที่ชื่อ โตมาโคไม
วันรุ่งขึ้นที่สนามทดสอบ อีซูซุ รายการเริ่มจากการกล่าวต้อนรับของ มร. เรียว ซาคาตะ กรรมการผู้จัดการคนใหม่ของ ตรีเพชร ฯ และการบรรยายรายละเอียดสนาม โดย มร. ยาซูโยชิ คิชิ กรรมการผู้จัดการของสนาม ซึ่งเล่าให้เราฟังว่าที่ฮอกไกโดนี้เป็น 1 ในจำนวนสนามทดสอบ 3 แห่งของ อีซูซุ ในญี่ปุ่น เปิดมาตั้งแต่ปี 1979 มีพื้นที่ถึงกว่า 4.4 ล้านตารางเมตร แบ่งออกเป็นสนามทดสอบรูปแบบต่างๆ อย่างหลากหลาย เช่น สนามทดสอบทางลื่น ทางขรุขระ ทางลูกคลื่น และ ทางทุรกันดาร
แต่เนื่องจาก อีซูซุ ดี-แมกซ์ 2,500 ดีดีไอ มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เราจึงได้ใช้สนามรูปหูโทรศัพท์ หรือ STRAINGHT LINE CURCUIT เพื่อทดสอบการประหยัดน้ำมัน ส่วนการทดสอบสมรรถนะไปลองกันใน HIGH SPEED CURCUIT
ก่อนเดินทางไม่กี่วัน รัฐบาลเราประกาศขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลพรวดเดียวลิตรละ 3 บาท ทำให้คุณสมบัติเรื่องความประหยัดของเครื่องยนต์ 2,500 ดีดีไอ ซูเพอร์คอมมอนเรลเพิ่มความสำคัญขึ้นทันที
เครื่องยนต์ตัวนี้รหัส 4JK1-TC อยู่ในอนุกรม ไอ-เทค ขนาด 2,500 ซีซี พร้อมเทอร์โบอินเตอร์คูเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า หรือ 85 กิโลวัตต์ ที่ 3,600 รตน. แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,200 รตน. โดยในการทดสอบประหยัดน้ำมัน กำหนดให้วิ่งหนึ่งรอบสนาม ระยะทาง 4.4 กม. ภายในเวลา 6 นาที หลังจากนั้นเครื่องมือที่ติดตั้งไว้ในรถจะคำนวณอัตราความสิ้นเปลืองที่เราทำได้ แบ่งเป็นอัตราเฉลี่ยตลอด 1 รอบ กับอัตราประหยัดสูงสุดในช่วงทดสอบพิเศษระยะทาง 1 กม.
ระหว่างทดสอบ หิมะปลายฤดูหนาวของฮอกไกโดโปรยปรายลงมา พร้อมกับลมพัดแรงเป็นอุปสรรคไม่น้อย แต่นักทดสอบจากประเทศน้ำมันแพง ก็ทำสถิติประหยัดกันได้ไม่เลวทีเดียวโดยสถิติดีที่สุดประเภทอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 23.9 กม./ลิตร ส่วนช่วงทดสอบพิเศษ 1 กม. ทำได้ 25.1 กม./ลิตร
จากนั้นเราก็ย้ายสนามทดสอบ หลังจากอัดอั้นมาจากการขับประหยัด ซึ่งต้องใช้ความเร็วต่ำอย่างสม่ำเสมอ มาสนามนี้เลยใส่กันเต็มที่ เพื่อค้นหาสมรรถนะที่แท้จริงของรถ
HIGH SPEED CURCUIT เป็นสนามทดสอบรูปไข่ ระยะทาง 1 รอบ ยาว 5 กม. โค้งหัวและท้ายลาดเอียง 42 องศา ในไลน์บนสุดของโค้ง สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องหักพวงมาลัย ด้วยความเร็วถึง 200 กม./ชม. แต่เนื่องจากลมแรงมาก อาจไม่ปลอดภัยจากลมปะทะด้านข้างเจ้าหน้าที่ที่นั่งไปด้วยเลยไม่อนุญาตให้เราเหยียบถึงขนาดนั้น
อย่างไรก็ตามจากการทดสอบทั้ง 2 สนาม เราได้สัมผัสถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความประหยัด การออกตัว อัตราเร่ง รวมไปถึงการบังคับควบคุม และระบบรองรับของดี-แมกซ์ รุ่นนี้พอสมควร พบว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากเรื่องความประหยัด และน่าพอใจ ทุกหัวข้อที่เหลือ
ในบ้านเรานั้น ตรีเพชร ฯ ได้เคยจัดการทดสอบขับระยะทางกว่า 1,700 กม. จากเชียงใหม่ถึงมาเลเซีย ปรากฏว่าเครื่องยนต์ใหม่ของ อีซูซุ กินน้ำมันไปไม่ถึง 1 ถัง
นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมพิสูจน์ความแข็งแกร่ง ทนทาน โดยลงแข่ง และเข้าเส้นชัยครบทุกคัน ในรายการ "บาร์เซโลนา-ดาการ์ 2005"
เมื่อรวมกับผลการทดสอบที่ฮอกไกโด ซึ่งยืนยันถึงความประหยัดและสมรรถนะที่ดีของเครื่องยนต์ ไอ-เทค 2,500 ดีดีไอ ซูเพอร์คอมมอนเรล อีซูซุ ดี-แมกซ์ ก็น่าจะยืนหยัดเป็นผู้นำในตลาดพิคอัพบ้านเราได้อีกนาน
สามวันสุดท้าย
หิมะซัปโปโร ซากุระโตเกียว
จากโตมาโคไม เราเดินทางโดยรถบัส ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ไปตามถนนสายเล็กๆ มุ่งหน้าสู่นิเซโกะ สกีรีสอร์ท สองข้างทางเป็นทุ่งน้ำแข็งขณะที่หิมะตกหนักตลอด 3 ชม. จนถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ เกินกว่าที่เราจินตนาการไว้มาก
กิจกรรมแรกของเราที่นี่ คือการนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา ฮิกาชิยามะ "ฮิกาชิ" แปลว่าตะวันออก ส่วน "ยามะ" ก็คือภูเขา บริเวณยอดเขา ซึ่งสูงราว 1,000 เมตร นี้เป็นจุดสตาร์ทของพวกนักสกีที่ชำนาญแล้วเท่านั้น ส่วนพวกมือใหม่หัดขับเขามีลานให้ลองล้มลุกคลุกคลานกันด้านล่างติดกับตัวรีสอร์ท
ตำบลนิเซโกะ ในย่านฮิกาชิยามะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิเซโกะ ฮิกาชิยามะ พรินศ์ โฮเทลจะมีหิมะปกคลุมขาวโพลนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นิยมมาเล่นสกี และสโนว์บอร์ด รวมทั้งมาอาบน้ำแร่ร้อนในโรงแรมซึ่งมีบ่ออาบน้ำแร่ ทั้งในร่มและกลางแจ้งไว้บริการ แต่ผมไม่สามารถเอาภาพมาให้ดูได้เพราะเขานุ่งลมห่มฟ้ากันทั้งห้องตามสไตล์ญี่ปุ่น
เราพักที่นิเซโกะรีสอร์ท 1 คืน วันต่อมาออกเดินทางไปยังซัปโปโร เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโดโชคดีที่วันนี้ท้องฟ้าเปิด จึงมีโอกาสได้เห็น โยเตซัง หรือฟูจิน้อย น้องฝาแฝดของฟูจิยามะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น แต่พอไปถึงซัปโปโร หิมะก็ตกหนักไม่ต่างอะไรกับห่าฝนในฤดูมรสุม
หิมะในเมืองซัปโปโรไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คนที่นี่บอกกับเราว่าปลายเดือนมีนาคมอย่างนี้มันน่าจะหยุดตกไปแล้ว ดินฟ้าอากาศปีนี้วิปริตพอดู ก่อนเรามาไม่กี่วันก็เกิดแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นใกล้ๆ โตเกียวเสียด้วย
วันนี้มีโพรแกรมท่องเที่ยว 2 แห่ง แห่งแรกคือโรงงานผลิตชอคโกแลทอิชิยา ที่มีชื่อเสียงที่สุดของซัปโปโร ซึ่งนอกจากการผลิตของหวานที่นิยมกันทั้งโลกแล้ว เรายังได้ชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับชอคโกแลท และชอพพิงชอคโกแลทนานาชนิดอีกด้วย
ต่อมาได้ชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ ซัปโปโร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น เปิดมาตั้งแต่ปี 1987 โดยใช้ตึกโรงงานเก่าของซัปโปโร ชูการ์ คัมพานี สร้างเมื่อปี 1890 ในสมัยเมจิ เป็นสถาปัตยกรรมยุคแรกของเมืองซัปโปโร ที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
เบียร์ดังของญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ เริ่มผลิตตั้งแต่เมื่อ 129 ปีก่อน ด้วยเงินลงทุนเพียง 8,348 เยน ซึ่งเท่ากับ 100 ล้านเยนตามค่าเงินปัจจุบัน โดยใช้ดาวแดงหรือดาวเหนือเป็นสัญลักษณ์ ส่วนองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ซัปโปโร เบียร์ได้รับความนิยมก็คือฮอพส์ และบาร์เลย์คุณภาพดีรวมทั้งน้ำบริสุทธิ์จากธรรมชาติที่มีเฉพาะที่ฮอกไกโด
จากซัปโปโร เราบินกลับโตเกียวอีกครั้ง แม้จะอยู่ที่นั่นเพียงคืนเดียว แต่ยังโชคดีที่ทันได้เห็นดอกซากุระแรกรุ่น ซึ่งเพิ่งผลิบาน เป็นสัญญาณว่าเทศกาล "ฮานามิ" (เทศกาลชมดอกซากุระ) ที่โตเกียว ซึ่งซากุระจะบานสะพรั่งพร้อมกันทุกต้นยาวนานไม่เกิน 10 วัน ใกล้มาถึงแล้ว
เรื่องโดย : สายยศ สุวรรณหงษ์
ภาพโดย : สายยศ สุวรรณหงษ์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52500