บทความ
สงกรานต์ยมบาลงานน้อยลง
เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ยังคงรักษามาตรฐานความสนุกสนาน และบรรยากาศของความเป็นประเพณีวัฒนธรรมประจำชาติเอาไว้ได้ค่อนข้างจะเป็นที่น่าพอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้พอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดปัญหาล่วงละเมิดหรือล่วงเกินทางเพศ อันเนื่องมาจากการยั่วยุอารมณ์ของบรรดาสาวๆ ที่ตั้งใจ และจงใจที่แต่งตัวแต่งกายออกมาเล่นน้ำสงกรานต์ตามท้องถนนซึ่งเคยปฏิบัติกันมาช้านานจนเกือบจะกลายเป็นประเพณีนิยมอยู่แล้ว
ปีนี้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องและมีความห่วงใยต่อสิ่งที่ไม่ดีไม่งามที่เกิดขึ้น ทำลายบรรยากาศอันดีงามของเทศกาลสงกรานต์ที่สร้างสมมาช้านานแล้ว จึงได้กำหนดมาตรการใหม่ขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจังเป็นครั้งแรก
ห้ามสาวๆ แต่งกายในชุดสายเดี่ยว ชุดเกาะอก และชุดลื่นๆ ที่ล่อแหลมต่อการยั่วยุอารมณ์ทางเพศออกมาเล่นน้ำสงกรานต์อย่างเด็ดขาด ถึงแม้ว่าการกวดขันในมาตรการนี้จะสามารถตีกรอบและควบคุมได้ในบางสถานที่และในบางแห่ง อย่างเช่น ในบริเวณย่านถนนข้าวสารก็ตามแต่ แต่ก็นับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งอยู่เหมือนกัน
อย่างน้อยภาพที่ปรากฏเผยแพร่บนจอโทรทัศน์ก็ลดความอุจาดตาไปไม่น้อยทีเดียว
สงกรานต์ปีนี้ ถ้าจะมีผู้เสียผลประโยชน์และเสียความรู้สึกมากที่สุดน่าจะเป็น "ยมบาล" ผู้ที่มีหน้าที่นำเอาดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไปพิจารณาโทษในขุมนรก ตามคติความเชื่อของคนไทยเรามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ปีนี้ ยมบาลมีงานทำน้อยลงอย่างผิดสังเกต
จากสถิติช่วงเทศกาลสงกรานต์รวม 10 วัน ในปีที่แล้ว 2547 มีผู้ประสบอุบัติเหตุทางการจราจรบนท้องถนน เสียชีวิตทั้งสิ้น 654 ศพ บาดเจ็บจนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั้งหมดรวม 34,448 คน
ประเภทรถที่มีส่วนร่วมในการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดประมาณ 80 % คือ รถจักรยานยนต์รองลงมาคือรถกระบะ
สงกรานต์ปีนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และในระยะช่วงเวลาที่เท่ากันคือ 10 วันมีผู้ประสบอุบัติเหตุทางการจราจรบนท้องถนนเสียชีวิตรวม 522 ศพ บาดเจ็บทั้งหมดเหลือเพียง 16,395 คน
ประเภทรถที่มีส่วนร่วมในการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ 80 % ยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ และรองลงมาคือรถกระบะเหมือนเดิม
จากสถิติคนตายและคนบาดเจ็บ จะเห็นได้ว่า ปีนี้สามารถลดจำนวนลงได้อย่างมาก ตายลดลงกว่า 20 % บาดเจ็บลดลงกว่า 50 %
ทั้งนี้ทั้งนั้นว่ากันว่าเป็นเพราะฝีมือการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปี 2548 ที่เน้นในเรื่องการรณรงค์โครงการ "10 วันอันตราย" และโครงการ "เมาไม่ขับ" และ "ตั้งสติก่อนสตาร์ท" อย่างแท้จริง ซึ่งป่านนี้คงจะได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลกันเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
และจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ปรากฏออกมาชัดเจนว่ารถจักรยานยนต์เป็นองค์ประกอบและเป็นตัวการสำคัญในการก่ออุบัติเหตุมาโดยตลอดทำให้ต้องย้อนภาพมามอง "แกงค์ "ซิ่ง" มอเตอร์ไซค์บนท้องถนน" กันอีกครั้ง
วันก่อนเห็นภาพข่าวบนจอโทรทัศน์เกี่วกับแกงค์ "ซิ่ง" มอเตอร์ไซค์บนท้องถนนนี่แหละจะเป็นในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือในต่างจังหวัดแห่งใดแห่งหนึ่งนี่แหละ
ยังหัวค่ำอยู่แท้ๆ พวกกวนเมืองยังเหิมเกริมยกขบวนมอเตอร์ไซค์นับได้เป็น 10 เป็น 100 คันใช้ถนนหลวงเป็นที่ขับแข่งกันอย่างสุดมันในอารมณ์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยกทัพเข้าจับกุมแกงค์มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ก็ยังแสดงความอหังการ "ซิ่ง" หลบฉากหลบหนีการจับกุมอย่างสนุกสนาน แต่ก็มีบางคันที่ต้องเรียกว่าซ่าเกินร้อย ชิ่งหลบหลีกด้วยการขับย้อนศรบนถนนจนเกิดชนเข้ากับรถพิคอัพที่ขับมาตามปกติเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แหลกเละไปทั้งคนและรถ...สมน้ำหน้า
แต่ก็ต้องแสดงความเสียใจกับเจ้าของรถกระบะด้วยเป็นอย่างยิ่ง ไหนจะต้องได้รับความเสียหายอย่างหนักจากรถกระบะที่ถูกชน ยังต้องมาเสียเวลา และเสียความรู้สึกกับข้อหาที่ถูกยัดเยียดทางกฎหมาย "ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อืนเสียชีวิต" อีกด้วย กว่าจะเอาตัวรอดในคดีความก็คงต้องเสียเวลาทำมาหากินไปอีกนานทีเดียว
จากเรื่องของแกงค์ "ซิ่ง" มอเตอร์ไซค์แข่งรถบนท้อง "ถนน" ก็มาถึงอีกมาตรการหนึ่งที่กำลังจะมีการนำมาใช้ตีกรอบให้กับนัก "ซิ่ง" โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ในการขับขี่ในเขตกรุงเทพมหานคร
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร จะเริ่มการกวดขันจับกุมรถมอเตอร์ไซค์ที่มีการดัดแปลงท่อไอเสีย จนทำให้เกิดเสียงดังเกินมาตรฐาน คือเสียงดังเกินกว่า 95 เดซิเบลขึ้นไปอย่างเข้มงวด ถ้าเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานที่ว่านี้จะต้องถูกปรับทันที 1,000 บาท และจากนั้นก็จะต้องนำรถไปปรับปรุงไม่ให้เกิดเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานอีกด้วย
โดยมาตรการนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยให้เกิดการลดมลภาวะทางเสียงแล้ว ก็น่าจะส่งผลไปถึงพวกแกงค์ "ซิ่ง" มอเตอร์ไซค์ด้วย เพราะถ้ามอเตอร์ไซค์ "ซิ่ง" โดยไม่มีเสียงดังแล้วย่อมจะ "ไม่อินเทรนด์" อย่างแน่นอน
และนี่ถ้าทำกันอย่างจริงๆ จังๆ ก็น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะขจัดพวกแกงค์กวนเมืองให้หมดไปจากท้องถนนได้เหมือนกัน
เรื่องโดย : หลวงเลียบเมือง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52497