มาตรวัดตลาดรถ
อนาคต
กว่าจะได้อ่าน "ฟอร์มูลา" ฉบับนี้ ผลการประท้วงคงลงเอยไปหมดแล้ว แต่ที่เชื่อว่ายังไม่ลงเอยก็เรื่องสามจังหวัดทางใต้นั่นแหละครับ เรื่องมันหมักหมมมานาน แถมมีคนอยากช่วยเยอะ ก็เลยต้องมีรายการย้ายล้างบางกันหน่อย
แต่เรื่องของเราไม่เกี่ยวกันนะครับ เรื่องของเรามันเกี่ยวข้องกับตัวเลข ที่ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายหลายเรื่องแต่ยอดการขายรถยนต์ก็ไม่รู้สึกกระทบกระเทือนแต่อย่างใด เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ยังมีความเจริญเติบโตขึ้นไปอีก 23.5 % ขายกันทั้งตลาด 49,044 คัน พอคิดยอดสองเดือนก็ยังโตอยู่ 20.2 % ขายได้รวม 93,167 คันนี่ถ้าว่าตามประสาการตลาดก็ต้องว่า ยอดขายรวมปีนี้จะเกินหกแสนคันแน่นอน
ถ้ารถรามันติดมากหน่อยก็คงไม่ว่ากัน เห็นป้ายแดงวิ่งกันให้เกลื่อนถนน ขายรถมีแคมเปญทุกค่ายขนาดค่ายยุโรปยังยอมลงมาเล่นดอกเบี้ย 0 % บางค่ายก็โละสตอครถเดโมกันให้สนุกสนาน ไม่ต้องพูดถึงค่ายรถญี่ปุ่นเลย เรียกว่าลูกค้าอยากได้อะไร แทบจะประเคนให้หมด ขอแค่เอารถออกไปจากโชว์รูมให้ได้เถอะ
คุยเรื่องสัพเพเหระกันหน่อยนะครับ อย่าเพิ่งเครียดเรื่องแคมเปญเลย
อีกไม่นานเกินรอ คนไทยก็จะได้ใช้บัตรพลาสติค เป็นบัตรประจำตัวประชาชน แบบอเนกประสงค์หรือเรียกว่า SMART CARD แล้ว มาตรฐานบัตรคร่าวๆ ก็มี
มีคุณสมบัติตามมาตรฐานสากล มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปี โดยใช้วัสดุPOLYETHYLENE TEREPHTHALATEโดยสอดคล้องกับมาตรฐาน JAVA CARD 2.1.1 และ GLOBAL PLATFORM 2.0.1 หรือสูงกว่า บรรจุข้อมูล PUBLIC KEY INFRASTRUCTURE (PKI)ในบัตร ฯ และป้องกันไม่ให้สามารถแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
งานนี้ ก. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเจ้าภาพ โปรดติดตามตอนต่อไป
นั่นเป็นเรื่องในอนาคต แต่เรื่องในอดีต กระผมบังเอิญว่าได้ยินข่าวเรื่อง การก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย มาตั้งแต่ยังชั้นประถมศึกษา พอมาอายุปูนนี้ได้ข่าวว่า ตอนนี้ รฟท. ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสม เป็นการรองรับและสนับสนุนการเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งกับประเทศเพื่อนบ้านจ่ายค่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาไปแล้ว 14.94 ล้านบาท
ขณะนี้อยู่ระหว่างการเขียนแบบแนวทางสํารวจปักหมุด วางแนวศูนย์กลางทางและกําหนดระยะทางพร้อมเขตทางในช่วงแรก ระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตรในปี 2547 และอีกประมาณ 123 กิโลเมตร ในปี 2548
โครงการนี้ใช้วงเงินงบประมาณในการก่อสร้าง 24,161 ล้านบาท
คาดว่ากระผมจะได้เห็นโครงการนี้สำเร็จลุล่วง ภายในชาตินี้หรือไม่ ยังไม่สามารถรายงานได้นะครับคงต้องติดตามตอนต่อไปอีกเช่นกัน
อ้อ บังเอิญเพิ่งเดินทางสายใต้กลับมาหมาดๆ ขอรายงานข่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างทางหลวงพิเศษสายทางกระบี่-ขนอม 4 ช่องจราจรโดยก่อสร้างทางเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือน้ำลึกฝั่งทะเลอันดามันกับท่าเรือน้ำลึกฝั่งอ่าวไทย ระยะทาง 133 กิโลเมตร ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จเรียบร้อย
แต่ประมาณว่างบประมาณค่าทำป้ายยังไม่ออกหรือยังไงก็ไม่ทราบ กระผมรู้สึกชีวิตสับสนมากเมื่อต้องขับรถบนถนนเส้นนี้ หรือผ่านไปผ่านมา เพราะบรรดาป้ายทั้งหลายที่ท่านเอามาติดมันกลับทิศทางให้วุ่นไปหมด หรือกระผมจะความรู้น้อย คิดตามท่านที่ทำป้ายไม่ทันก็ไม่ทราบได้นะครับ
เพราะท่านคิดกันแบบข้าราชการ ไม่ได้คิดแบบคนเดินดินธรรมดา งง ครับ งงจริงๆ
หลังจากที่เราผ่านเรื่องสัพเพเหระกันพอควร ก็กลับมาเข้าเรื่องตัวเลขตามระเบียบ
เดือนกุมภาพันธ์ เดือนเดียว ตลาดยังเดือดอยู่ 23.5 % ขายกันได้ 49,044 คันโดยไม่หวั่นเกรงไข้หวัดนกแต่ประการใดแชมพ์หน้าเดิม โตโยตา ขาย 18,206 คัน เพิ่มขึ้น 25.4 % ส่วนแบ่ง 37.1 % อันดับที่สองก็เจ้าเก่า อีซูซุ ขาย 12,181 คัน เพิ่มขึ้น 17.7 % ส่วนแบ่ง 24.8 %อันดับสามคนหน้าเดิมเช่นกัน ฮอนดา ขาย 6,592 คัน เพิ่มเหมือนกัน 17.4 % ส่วนแบ่ง 13.4 %อันดับสี่ก็ยังเจ้าเก่า นิสสัน ขาย 3,419 คัน เพิ่ม 25.4 % ส่วนแบ่ง 7.0 % และอันดับห้าก็เจ้าเก่า มิตซูบิชิขาย 3,139 คัน เพิ่มเยอะหน่อย 45.2 % ส่วนแบ่ง 6.4 %
ยอดรวมเดือนเดียวอันดับไม่มีการเปลี่ยนแปลงแยกเป็นประเภทรถยนต์นั่ง ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.9 %ขายได้แค่ 14,528 คัน ขณะที่รวมสองเดือน เพิ่มแค่ 0.4 % ขาย 28,508 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ ฮอนดา ขาย 6,171 คัน เพิ่ม 27.6 % ส่วนแบ่ง 42.5 % ที่สอง โตโยตา ขาย 5,899 คันลด 17.0 % ส่วนแบ่ง 40.6 % นอกจากนั้นขายได้ต่ำกว่าพันคันทั้งนั้น ที่สาม นิสสัน ขาย 754 คันเพิ่ม 28.2 % ส่วนแบ่ง 5.2 % ที่สี่ เมร์เซเดส-เบนซ์ ขาย 433 คัน เพิ่ม 4.1% ส่วนแบ่ง 3.0 %และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 414 คัน ลด 10.2 % ส่วนแบ่ง 2.8 %
ผู้เสียภาษีให้รัฐสูงสุด โพร์เช และ แจกวาร์ ขายเท่ากัน เจ้าละ 6 คัน แสดงว่าคนมีสตางค์ยังมีอยู่เยอะครับ
ประเภทรถกระบะหนึ่งตัน ยอดรวมเดือนเดียว 25,597 คัน ตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น 35.9 % ขณะที่รวมสองเดือนเพิ่ม 38.2 % ขาย 48,247 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ อีซูซุ ขาย 10,395 คัน เพิ่ม 20.7 % ส่วนแบ่ง 40.6 % ที่สอง โตโยตา ขาย 8,127 คันเพิ่ม 52.3 % ส่วนแบ่ง 31.7 % ที่สาม นิสสัน ขาย 2,428 คัน เพิ่ม 24.3 % ส่วนแบ่ง 9.5 % ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 2,385 คัน เพิ่ม 103.2 % ส่วนแบ่ง 9.3 % และที่ห้า ฟอร์ด ขาย 1,280 คัน ลด 4.3 % ส่วนแบ่ง 5.0 %
รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ยอดรวมเดือนเดียว ตลาดเติบโตลดลง 19.7 % ขายได้ 2,567 คัน ขณะที่รวมสองเดือน ลดลง 27.8 % ขาย 4,640 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ โตโยตา ขาย 1,341 คัน ลด 0.4 % ส่วนแบ่ง 52.2 % ที่สอง อีซูซุ ขาย 1,027 คันลด 16.0 % ส่วนแบ่ง 40.0 % ที่สาม ฟอร์ด ขาย 88 คัน ลด 71.9 % ส่วนแบ่ง 3.4 %ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 49 คัน ลด 76.8 % ส่วนแบ่ง 1.9 % และที่ห้า นิสสัน ขาย 36 คัน ลด 34.5 % ส่วนแบ่ง 1.4 %
รถกิจกรรมกลางแจ้งหรือเอสยูวี ยอดรวมเดือนเดียว ตลาดเติบโตลดลง 21.6 % ขายได้ 1,411 คันขณะที่รวมสองเดือน ลดลง 29.2 % ขาย 2,876 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ ฟอร์ด ขาย 449 คัน เพิ่ม 56.4 % ส่วนแบ่ง 31.8 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 379 คันลด 47.9 % ส่วนแบ่ง 26.9 % ที่สาม โตโยตา ขาย 241 คัน ลด 27.8 % ส่วนแบ่ง 17.1 %ที่สี่ ซูซูกิ ขาย 94 คัน เพิ่ม 30.6 % ส่วนแบ่ง 6.7 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 80 คัน ลด 51.2 %ส่วนแบ่ง 5.7 %
รถอเนกประสงค์อื่นๆ เพิ่ม 52.6 % ยอดรวม 2,503 คัน นำโดย อีซูซุ ขายได้ 757 คัน
นั่นคือสภาวะตลาดรถยนต์โดยรวมของประเทศ ที่มีคนฝันเฟื่องว่าเราจะผลิตรถได้หนึ่งล้านคัน/ปีในเร็ววันนี้ ก็เป็นเรื่องดี เพราะตอนนี้มีหลายค่ายที่ได้รับการสนับสนุนจาก บีโอไอ ไปเรียบร้อยและกำลังเดินหน้าสร้างโรงงานประกอบอยู่ก็หลายเจ้า แถวอยุธยา ก็เตรียมขยายโรงงานอีกเพื่อไว้รับโครงการในฝัน ที่จนป่านนี้ยังสรุปออกมาเป็นรูปธรรมไม่ได้เสียที
ก็ยังดีนะครับ ดีกว่านั่งดูหน้ากันไปวันๆ เพราะไม่มีอะไรจะทำ กระผมจะได้มีเหตุมานำเสนอต่อผู้มีอุปการคุณอย่างสม่ำเสมอ
แถมรับสตางค์ด้วยสิครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52055