เล่นท้ายเล่ม
เหมือนพ่อ เหมือนปู่
มีคนเคยถามผมว่า ทำไมนามสกุลสั้นจัง ? ผมบอกไปว่า พ่อเล่าให้ฟังเพราะปู่ชื่อ "โท"ครั้นถึงเมืองไทยจำเป็นต้องมีนามสกุล พ่อจึงแปลงจากคำว่า "โท" เป็นนามสกุลของผมมาจนทุกวันนี้
ครอบครัวของพ่อเป็นคนไทย ปู่ก็เป็นคนไทย ผมจึงเป็นคนไทยอยู่ในขนบประเพณีและวัฒนธรรมของไทยซึ่งผมรู้สึกดี ไม่เคยเสียใจที่เกิดเป็นคนไทย
วัฒนธรรมของไทย ก็คือวัฒนธรรมของพ่อ ของปู่ ไม่ได้หยิบยืมหรือลอกเลียนแบบมาจากไหนโดยเฉพาะจากเมืองอื่นหรือชาติอื่น
ความจริงขนบประเพณีของเราเป็นสิ่งที่สวยงาม ไม่มีอะไรจะขัดหูเคืองตาเรากินข้าวก็มีประเพณีแตกต่างไปจากชนชาวคริสต์ ซึ่งต้องขอบคุณพระเจ้าก่อนลงมือรับประทานแต่เรากินอิ่มหมีพีมันเรียบร้อยแล้วเราจึงยกมือไหว้ เป็นการขอบคุณแม่โพสพ ผู้รักษาดูแลให้เรามีข้าวกิน
ฝรั่งที่เราส่วนมากถือว่า มีวัฒนธรรมสูง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะชมเชยว่าวัฒนธรรมของไทยเรามีระดับความสูงเท่าเทียมกับเขา บางทีก็อาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำไป
ท่านที่เคยอ่านหนังสือ "เพื่อนนอน" ของ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช คงจำได้ว่า ครั้งที่คุณชายคึกฤทธิ์มีโอกาสได้แสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูด UGLY AMERICAN ร่วมกับพระเอกฝรั่ง มาร์ลอน แบรนโด นั้นนาย แบรนโดได้พูดถึงเมืองไทยและคนไทย
นายแบรนโด พูดว่า จะขอมามีบ้านอยู่ในเมืองไทย และจะให้ลูกๆ มาอยู่เมืองไทยเพราะว่าคนไทยเป็นผู้ดีกันทั้งเมือง กิริยามารยาทเรียบร้อย หน้าตาก็ยิ้มแย้มเบิกบานและแจ่มใสไม่มีทะลึ่งตึงตัง กระโดกกระเดกคนที่มีชื่อเสียงระดับเขาสามารถไปนั่งสนามหลวงดูการเล่นว่าวไทยอย่างสบายๆไม่มีใครมารบกวนกลุ้มรุมและกริ๊ดกร๊าดจนไม่เป็นการส่วนตัว
นายแบรนโด ไม่ได้พูดว่า คนไทยมีความเก่งเหนือกว่าพวกฝรั่ง แต่แกก็สารภาพจากหัวใจของแกว่าขนบประเพณีและวัฒนธรรมของคนไทยนั้น...เหลือกิน...
น่าเสียดายที่พวกเราพยายามตัดความเชื่อนี้ทิ้งไป เหตุที่ตัดทิ้งกันไปนี้ผมยังคิดไม่ตกว่าเป็นเพราะความไม่รู้เท่า หรือเป็นเพราะตั้งใจด้วยเชื่อเสียว่า วัฒนธรรมของต่างประเทศดีกว่าหรือเชื่อว่า หากทำอะไรกับชีวิตของเราแล้วควรต้องเป็น "สากล"
เราจึงมีความบ้าคลั่งแม้แต่ "วาเลนไทน์" ก็ยังนิยมว่าเป็นวันแห่งความรัก เป็นความรักแบบดิจิทอลรวดเร็วไม่ต้องเสียเวลาคิดมาก
กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่มีรากแก้ว เพียงลมพัดคราวหนึ่งก็อาจถอนรากโคนได้ฉะนั้น
ศาสนาหลักในชาติของเรา ก็เป็นพระพุทธศาสนา และเป็นพระพุทธศาสนาที่ไม่เหมือนใครประเทศไทยของเรามีความสงบร่มเย็นมาตลอด ก็เป็นเพราะเรามีพระพุทธศาสนาแบบไทย
ไม่มีพระภิกษุมานำหน้าขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนในพม่าไม่มีพระภิกษุป่วนเมืองจนถึงกับเผาตัวเองเหมือนในเวียดนาม
วัดวาอารามของเรา ปิดทองอร่ามและยังติดกระจกสีต่างๆ แลดูสดใสเหมือนกับเป็นวัตถุที่ลงยาและฝังด้วยเพชร จนแลละเลื่อม
ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ที่เราเห็นอยู่เหนือหลังคาวัดเป็นความงดงามแห่งความวิจิตรที่ไม่มีใครเหมือน
แม้ในการละครของไทย ก็เป็นความเพลิดเพลินที่แตกต่างกว่าการละครของผู้อื่นมีความกลมกลืนจนคนดูแล้วสามารถลืมความวิตกกังวล ลืมเรื่องน่ารำคาญอื่นๆ ไปได้ความสง่างามในท่ารำ ให้เราซาบซึ้งใจทุกๆ กระบวนท่า และทุกการเคลื่อนไหว เครื่องแต่งกายหรือCOSTUME ก็สวยงามและมีความหมายอยู่ในแต่ละชิ้น เป็นต้นว่า ชฎา หมายถึงเครื่องทรงของกษัตริย์หูกระต่ายเป็นของพลรบ
ขอให้เราดู การแสดงโขน เป็นตัวอย่างเถิดมีการแสดงของใครบ้างจะมียักษ์ที่น่าเกรงขามเหมือนยักษ์ในโขนของเราแค่วิธีการตรวจพลมีที่ไหนจะงดงาม คึกคัก เป็นระเบียบเช่นของเรา
ดนตรีก็อีกนั่นแหละ ไม่จำเป็นต้องมีตัวโนต ไม่จำเป็นต้องมีวาทยกร หรือคอนดักเตอร์ ไม่มีแสงไฟหรือไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟฟ้า เราก็เล่นได้ ท่วงทำนองก็ไพเราะ อ่อนหวาน ไม่ทะลึ่งตึงตังเหมือนอย่างที่นายแบรนโดพูดถึง
ภาพวาดก็เหมือนกัน ไม่มีใครเหมือนของเราท่านที่เคยไปเที่ยววัดพระแก้วคงไม่พลาดที่จะเห็นความงดงามของภาพฝาผนัง ตามระเบียงโบสถ์ซึ่งเล่าเรื่อง "รามเกียรติ์" ได้อย่างน่าประทับใจ และน่าภาคภูมิใจ
ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่ทราบว่า แม้สีที่เราเขียนวาดขึ้นมาสมัยนั้น ล้วนเป็น LOCAL CONTENTเป็นของไทยเราทั้งสิ้น ขาวก็ใช้ฝุ่น แดงก็ใช้ครั่ง น้ำเงินก็ใช้คราม เหลืองก็คือขมิ้นผสมกันแล้วจะให้เป็นสีอะไรก็ได้ไปเสียทั้งหมดทั้งสิ้น
ท่านทราบเช่นนี้แล้ว ผมมั่นใจว่า ท่านเองก็ต้องเกิดความภาคภูมิใจและภาพเขียนนี้ก็อายุอานามเกินกว่า 200 ปี
หรืออย่างน้อยที่สุด ท่านก็น่าจะตะลึงในความคงทนบ้าง
วิชาทำดอกไม้ ทั้งดอกไม้แห้งและดอกไม้สด เราก็ดูจะมีวัฒนธรรมมาแต่โบราณกาลวิเศษและสวยงามมาแต่ครั้งแผ่นดินสุโขทัย
ดอกไม้สดร้อยเป็นมาลัย กลีบหล่นร่วงเราก็เอามาเย็บเป็นดอกเป็นพุ่มได้ดอกไม้แห้งเราก็แกะมะละกอหรือไม้เป็นแม่พิมพ์ ชุบขี้ผึ้งให้เป็นดอกประดับเป็นพุ่มถวายพระในเวลาเข้าพรรษา
สมัยหนึ่ง ลูกผู้หญิงไทยถูกสอนให้รู้จักการปอกผลไม้สด เป็นวิชาติดตัวอีกอย่างหนึ่งมือที่จับลูกไม้นั้นต้องเบาเพื่อป้องกันความช้ำของลูกไม้ ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งจับมีดปอกต้องมั่นคงและหนักแน่น จึงจะสามารถทำลวดลายให้เกิดได้ เช่น มะปรางริ้ว
ใครทำได้อย่างเรา ?
อาหารไทย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง วิเศษมาแต่ไหนแต่ไรจนเดี๋ยวนี้ คุณทักษิณ นายก ฯ ของเรายังมีโครงการหลัก "ครัวไทยไปสู่โลก"
นี่ก็เป็นเพราะความวิเศษมหัศจรรย์ของอาหารไทยศิลปะและวัฒนธรรมของเราที่มีให้กับการปรุงอาหารไทย จริงอยู่ คนเราชอบกินของแปลก ๆเราเองก็ต้องมองดูคนอื่น เช่นทำขนมจีน มาจากการทำเส้นเหมือนเส้นมี่ซั่วของจีนแต่เครื่องเคียงประกอบเช่น น้ำยา ซาวน้ำ แกงเผ็ดต่างๆ นั้น จีนไม่มี เป็นจานที่เราคิดกันเองทั้งนั้น
วัตถุดิบต่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า INGREDIENT ของไทยเราก็วิเศษไม่เหมือนใคร ตั้งแต่ ตะไคร้ใบมะกรูด ขิง ข่า กระเทียม จนถึงพริกใหญ่บางช้าง
ผมคงไม่ต้องพูดถึง มวยไทย ศิลปะที่ บิ๊กซ้ง (ทรงชัย รัตนสุบรรณ) เรียกว่าเป็นมรดกไทยหรือพูดถึงการนวดแบบไทย ที่ไม่มีใครเหมือน เพราะเรานวดลงไปที่เส้นจนเดี๋ยวนี้ก็เป็นวัฒนธรรมที่สร้างความสนเท่ห์ให้กับฝรั่งไปแล้ว
ขบวนพระราชพิธีต่างๆ ทั้งทางบกและทางน้ำ ของเราก็กินขาดถึงซึ่งความพร้อมเพรียงอันบ่งบอกถึงความเป็นระเบียบวินัยของคนไทย
บทกลอนทั้ง โคลง กลอน กาพย์ และ ฉันท์ ของไทยเราก็เป็นที่ยอมรับของฝรั่งชาติยุโรป
ตู้ทองของเรางดงามสักเพียงไหน ผมอยากให้ท่านผู้อ่านไปหาดูได้ที่หอพระสมุดวชิรญาณท่านจะต้องยอมรับความสามารถของปู่ย่าตายายของเราที่เป็นคนไทย
ผ้าแพรนั้น เราทำได้เอง ทั้งเขียนและปัก ทั้งไหมและดิ้นแม้ในการผสมสีเข้ากันอย่างกลมกลืนเราก็ทำได้ ทำได้มาแต่โบราณกาล ดังเนื้อหาในเสภา"ขุนช้างขุนแผน" ตอนหนึ่งที่ว่า
"ม่านนี้ฝีมือวันทอง จำได้ไม่ผิดนัยตาพี่ เส้นไหมแม้นเขียนแนบเนียนดี สิ้นฝีมือแล้วแต่นางเดียว ฯ"
ผมจึงรู้สึกภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเกิดใหม่ได้ผมก็อยากเกิดเป็นคนไทยอีกนั่นแหละ
ท่านผู้อ่านรู้สึกเหมือนผมหรือไม่ ? หรือจะปล่อยทิ้งไม่สนใจเลือกรับแต่ของนอก ?
สมมติว่า ถ้าสักวันหนึ่งเบื้องหน้ามีคนไทยจิตใจพิเรนทร์สักคนคิดอ่านเลหลังพระที่นั่งอนันต์เพราะเห็นว่าหาประโยชน์อะไรไม่ได้ เลหลังไปดีกว่าได้ราคางาม
ท่านจะรู้สึกอย่างไรหรือ ?
เรื่องโดย : บรรเจิด ทวี
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : เล่นท้ายเล่ม
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52014