บริดจ์สโตน ดูเลอร์ เอ/ที 694

บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยางแบบออลเทอร์เรน รุ่น ดูเลอร์ 694สำหรับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ กระบะพันธุ์ดุ รุ่น ดูเลอร์ 694 ที่เน้นความสปอร์ทในการขับขี่ทุกสภาพเส้นทางโดยให้ผู้สื่อข่าวได้ทดสอบประสิทธิภาพของยางรุ่นใหม่ที่นำเข้ามาจำหน่ายจากประเทศญี่ปุ่นบนสภาพเส้นทางแบบครอสส์คันทรีที่มีทั้งทางเรียบและทางฝุ่น มีโค้ง เนิน หลุมบ่อ กลุ่มนักข่าวได้จับคู่กัน 2 คน/รถ 1 คัน ขับทดสอบยางกันคนละประมาณ 20 กม. โดยมีรถที่ใช้ทดสอบ 2 คัน คือ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใช้ความดันลมยาง 30 ปอนด์/ตร.นิ้ว และ โตโยตา ดี -โฟร์ดี ความดันลมยาง 26 ปอนด์/ตร.นิ้ว  ทดสอบในรูปแบบครอสส์คันทรี เส้นทางช่วงแรกเป็นทางเรียบบนทางหลวงบายพาสส์ช่วงไปปราณบุรี ระยะทางราว 10 กม.แล้วเลี้ยวซ้ายแยกเข้าทางลูกรังเรียบมุ่งสู่ฝายเก็บน้ำ บนทางวิ่งมีโค้งรูปแบบต่างๆสลับทางตรงให้ทดสอบการยึดเกาะถนน และวิ่งออกมาพบกับ เส้นทางเรียบอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนผู้ขับ เส้นทางช่วงที่ 2 จะเป็นทางลูกรังที่ค่อนข้างลื่น ทางตรงยาว สามารถใช้ความเร็วได้สูงพอสมควรบางช่วงมีหลุม บ่อ ที่ค่อนข้างอันตรายและเคยใช้เป็นเส้นทางแข่งขันครอสส์คันทรีมาก่อนบางครั้งต้องหักหลบสิ่งกีดขวางหรือเส้นทางชำรุด แบบกะทันหัน ข้างทางเป็นคูระบายน้ำถ้าควบคุมรถไม่ดีอาจพลัดตกลงไปได้ หลังจากนั้นก็วิ่งบนทางเรียบกลับมาสู่จุดเริ่มต้นรวมระยะทางทดสอบทั้งสิ้นประมาณ 40 กม. เท่าที่ได้ทดลองขับบนสภาพเส้นทางหลายรูปแบบทั้งทางเรียบและทางวิบากพอจะสรุปได้ว่ายางบริดจ์สโตน ดูเลอร์ 694 เมื่อนำมาใช้งานบนทางเรียบ ให้ความนุ่มนวลดีมาก ไม่กระด้าง นั่งสบายเสียงรบกวนจากหน้ายางอยู่ในระดับต่ำ การควบคุมบังคับแม่นยำ การเกาะถนนอยู่ในเกณฑ์ดีคุณภาพโดยรวมดีทีเดียว การใช้งานบนทางลูกรังให้การยึดเกาะถนนดีทั้งบนทางตรงและทางโค้งแม้ว่าขณะทดสอบจะใช้ความเร็วประมาณ 80-100 กม./ชม. บนผิวถนนลูกรังอัดแน่นปนทรายที่ลื่นมากก็ยังสามารถยึดเกาะผิวถนนได้เป็นอย่างดี จากการออกแบบให้หน้ายางมีพื้นผิวสัมผัสที่มากขึ้นลายดอกยางใหม่และรับแรงกระแทกได้เพิ่มขึ้น ดอกยางเป็นแบบบลอค 3 มิติตอบสนองการควบคุมได้อย่างมั่นใจ  ผลงานปี 2546 และแผนในอนาคต หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบยาง ในช่วงเย็น บริดจสโตน ฯ ได้แถลงผลประกอบการของปี 2546 เมื่อเทียบกับปี 2545 ผลปรากฏว่า ในส่วนของยางที่ติดตั้งมากับรถยนต์จากโรงงานประกอบ (OEM-ORIGINAL EQUIPMENT MANUFACTURING) มีส่วนแบ่งการตลาด 74 % เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2 %ประเภทตลาดทดแทนซึ่งผู้ใช้รถซื้อยางเปลี่ยน (REM-REPLACEMENT MANUFACTURING)มีส่วนแบ่งตลาด 50 % เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 % รวมยอดปีที่แล้วขายไปได้ทั้งสิ้น 6.5 ล้านเส้นในปีนี้คาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 6.9 ล้านเส้น โดยทาง บริดจสโตน ฯ จะเริ่มใช้แนวความคิดใหม่ที่ว่า"PASSION FOR EXCELLENCE" มีเป้าหมายในการพัฒนาให้บริดจ์สโตนเป็นยางที่ดีที่สุดและเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยาง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่ในปีนี้ บริดจสโตน ฯเข้ามาดำเนินการในประเทศไทยครบ 35 ปี ในปี 2003 ศูนย์บริการยางคอคพิท (COCKPIT) เปิดให้บริการทั้งสิ้น 83 แห่ง ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในอีก2-3 ปี ข้างหน้าจะเพิ่มปริมาณเป็น 150 แห่ง (90 % เป็นแฟรนไชส์) ส่วน ออโท บอย (AUTO BOY)ขณะนี้มีทั้งสิ้น 23 แห่ง และ ทรัค เซนเตอร์ (TRUCK CENTER) ซึ่งเป็นศูนย์บริการด้านยางรถบรรทุกจะเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในประเทศไทยปีนี้