สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
คาร์ล โยฮัน ซานเดสโย
นับจากการเข้ารับตำแหน่งในประเทศไทย คาร์ล โยฮัน ซานเดสโย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด สามารถนำพา โวลโว ให้ก้าวเดินต่อไปในตลาดรถยนต์เมืองไทย กับภาระการแข่งขันกับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง บีเอมดับเบิลยู และเมร์เซเดส-เบนซ์
จนกระทั่งวันนี้ คาร์ล วางนโยบายต่อไปของ โวลโว คือการสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเพื่อเปลี่ยนแนวความคิดของลูกค้า ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลา แต่นั่นคือ เป้าหมาย
"ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ คาร์ล โยฮัน ซานเดสโย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของ โวลโว ปีนี้ไว้อย่างไร ?
คาร์ล : ปัจจุบัน โวลโว ถือว่ามีสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกิจกรรมกลางแจ้งและรถตรวจการณ์ โดยเฉพาะ โวลโว เอกซ์ซี 90 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้วได้รับความนิยมอย่างมากซึ่งต่อไปบริษัทคงจะเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าที่มีอยู่มากขึ้น
ทั้งนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเพื่อเปลี่ยนแนวคิดของลูกค้าที่มองว่า โวลโว
เป็นสินค้าที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งจะต้องสร้างความเข้าใจทั้งภายนอกและภายใน
สื่อสารต่อไปให้รู้ว่าเป็นสินค้าดี มีรูปทรงไม่น่าเบื่อ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่ในส่วนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะการเปลี่ยนความคิดของคนนั้นต้องใช้เวลา เช่น ลูกค้ายังยึดติดกับเลข 3 ตัว เช่น 940 ต้องให้ความเข้าใจว่าสินค้าที่หลากหลายของบริษัทนั้นมีตั้งแต่ เอส ที่หมายถึงรถเก๋ง วี หมายถึง รถตรวจการณ์ และเอกซ์ซี คือ รถกิจกรรมกลางแจ้ง ต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจมากยิ่งขึ้น
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าตลาดในประเทศไทยจะเติบโตไปในทิศทางใด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ?
คาร์ล : ปี 2546 ตลาดโดยรวมเติบโตขึ้น 40 % สำหรับรถยนต์นั่ง รถส่วนบุคคล รถกิจกรรมกลางแจ้งลดลง 10 % แต่ถ้าเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งระดับพรีเมียม เช่น เอกซ์ซี 90 เติบโตและมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 50 % นับจากยอดขายในช่วงเดือน กรกฎาคม-ธันวาคมส่วนตลาดรถหรูลดลง 5-10 % สำหรับในปีนี้ คาดว่าตลาดรถหรูจะเติบโตประมาณ 25 %ส่วนตลาดรถเก๋งเติบโตประมาณ 20 %
ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใดตลาดในส่วนของรถกิจกรรมกลางแจ้งถึงได้ลดลง ?
คาร์ล : รถกิจกรรมกลางแจ้งทั่วไปที่ไม่ใช่รถพรีเมียมในปี 2545 มียอดรวมประมาณ 2,500 คันส่วนในปี 2546 มีตลาดรวมลดลงเหลือ 2,300 คัน แต่สำหรับรถพรีเมียมในปี 2545 ตลาดมีแค่เพียง300 คัน จนกระทั่ง โวลโว ได้มีการเปิดตัว เอกซ์ซี 90 ทำให้ตลาดเติบโตขึ้นถึง 600 คัน โดยเป็นของโวลโว ถึง 300 คัน
ฟอร์มูลา : ปัจจัยอะไรที่คุณคิดว่าทำให้ตลาดเติบโตมาจนถึงปัจจุบันนี้ ?
คาร์ล : นอกจากกฎหมายต่างๆ แล้ว ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตกว้างๆ มีอยู่ 3 ปัจจัยคือ 1. การเงิน 2.สภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไป และ 3. ความมั่นใจ เห็นได้ชัดว่าปีที่แล้วคนไทยมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจทั่วไปและทั่วโลกดีขึ้น และคนซื้อรถเพราะความมั่นใจ ถึงแม้ว่าจะมีภาวะต่างๆ เกิดขึ้นก็ตาม
สำหรับในปีนี้โดยรวมแล้วดี แต่ยังมีความกังวลในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐ ฯ ที่มีผลกับเมืองไทยด้วย รวมถึงสถานกาณ์การเมืองของไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาคใต้ โรคระบาดซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงได้
ฟอร์มูลา : ปีที่แล้ว โวลโว มียอดขายรวมเท่าใด และปีนึ้ตั้งเป้าไว้เท่าไร ?
คาร์ล : ในปี 2546 มียอดขาย 1,300 คัน สำหรับในปีนี้ตั้งเป้าขั้นต่ำไว้ที่ 1,600 คัน
ฟอร์มูลา : อะไรคือข้อแก้ไขและควรปรับปรุงเป็นอันดับแรกของ โวลโว ?
คาร์ล : มองสภาพตอนนี้ ถือว่าดีมากในระดับหนึ่ง ถ้าไม่มีปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาแล้วเกิดขึ้นทำให้ชะลอการซื้อ หรือทำให้ตลาดคงที่ ตลาดรถหรูมีอยู่ประมาณ 5 % ของตลาดรถทั้งหมด ก็น่าที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 10 % ซึ่งถ้าถึง ณ จุดนั้น โวลโว ก็พร้อมที่จะพัฒนาในด้านต่างๆ เพื่อให้อยู่ในตลาด 1 ใน 3 ของตลาดรถหรู
หากการพัฒนาเศรษฐกิจ หรือเศรษฐกิจยังดีเหมือนกับในปัจจุบัน ภายใน 2-3 ปี
ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 5,000 คัน เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าในปีนี้ตลาดรวมทั้งหมดของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะเป็นอย่างไร ?
คาร์ล : ตลาดในปี 2546 มียอดขายรวมประมาณ 530,000 คัน โดยในปีนี้คาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 600,000 คัน โดย 35 % จะเป็นรถนั่งส่วนบุคคล ที่เหลือจะเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ และอื่นๆ ซึ่งในปี 2546 ตลาดรถหรูมียอดขาย 8,300 คัน ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 คัน
ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่วางไว้สำหรับการแข่งขันในตลาดคืออะไร ?
คาร์ล : สิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการอยู่คือการพัฒนาเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายโดยมีการแต่งตั้งเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม รวมถึงการลงทุนเครื่องมือต่างๆ
โดยในปัจจุบันมีเครือข่ายทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัด คือ 22 แห่ง
ฟอร์มูลา : ถ้าเช่นนั้นในปีนี้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ?
คาร์ล : โดยปกติจะมีการลงทุนแล้วในทุกปี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรถใหม่หรือแม้แต่การปรับปรุงตัวแทนจำหน่าย หรือการช่วยเหลือดีเลอร์ในเรื่องต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งนี้เพื่อรองรับการแข่งขันในตลาดที่คาดว่าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสำหรับลูกค้า กิจกรรมสังคม รวมถึงการสนับสนุนการแข่งขันกีฬา
ฟอร์มูลา : สินค้าใหม่ที่จะแนะนำใหม่ในปีนี้มีอะไรบ้าง ?
คาร์ล : รถใหม่ในปีนี้จะมี วี 50 รวมถึงการไมเนอร์เชนจ์ รถรุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
ฟอร์มูลา : ในส่วนโรงงานคุณมีนโยบายอย่างไรบ้าง ?
คาร์ล : ในส่วนของโรงงานปัจจุบันใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ 40 % ในการผลิตรถ
ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจว่าจะเพิ่มชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ด้วยว่าจะเป็นอย่างไรนอกจากนี้ในเรื่องของการส่งออกสินค้าจากโรงงานนั้นนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากโดยอนาคตจะมีการส่ง เอกซ์ซี 90 ไปประเทศอินโดนีเซีย และบรูไน เพิ่มขึ้นอีกด้วยโดยในปีที่ผ่านมาได้มีการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนไปจำหน่ายในต่างประเทศ มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 4,000 ล้านบาท
สำหรับรถที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศนั้น จะส่งออกไปที่ประเทศอินโดนีเซีย และมาเลียในปีนี้จะส่งออกเพิ่มอีกประเทศหนึ่งคือ บรูไน โดยรถที่ส่งออกไปจำหน่ายจะเป็น รุ่น เอส 40/60/80/วี 40/70 และปีนี้จะส่ง เอกซ์ซี 70 และ 90 เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่า โวลโว มีจุดอ่อนและจุดแข็งอย่างไร ?
คาร์ล : จุดแข็งของ โวลโว คือ ความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง มีคุณภาพ รักษาสิ่งแวดล้อมการดีไซจ์นที่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต มีความโดดเด่น ขับสนุก ส่วนจุดอ่อน คือต้องเปลี่ยนความคิดของคนใหม่ว่าโวลโว เป็นรถที่ดี ขับสนุก แต่ตรงจุดนี้ต้องใช้เวลา เพราะ โวลโว เป็นรถที่มีอดีตยาวนานและหากจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนความคิดของคนที่ไม่ค่อยมีความรู้หรือความเข้าใจของลูกค้าทั่วไป ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องสื่อสารให้มากขึ้น รวมถึงการขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
เพิ่มขึ้นอีกด้วย
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51977