มาตรวัดตลาดรถ
ตัวเลขสวย
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนธันวาคม ปี '46 กับ '45
ตลาดโดยรวม เพิ่ม ,32.7 %
รถยนต์นั่ง เพิ่ม, 42.9 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ เพิ่ม, 38.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ลด ,33.9 %
[/table]
ปิดฉากกับยอดการขายประจำปี 2546 กันไปเรียบร้อย ด้วยตัวเลขสวยหรูเกินคาด ยอดการขายเพิ่มถึง30.3 % ยอดรวม 533,455 คัน คนฝันเฟื่องก็เชื่อว่า อีกสองปี
บ้านเราคงประกอบรถยนต์ออกมาเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศอยู่ในราวหนึ่งล้านคัน
ฟังหูไว้หูนะครับ เพราะอย่างไรเสียก็เป็นไปแค่ เก็บชิ้นส่วนที่ผลิตจากที่ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาประกอบเข้าเป็นตัวรถในเมืองไทย แล้วขายเป็นสินค้าเท่านั้นเองแต่เจ้าเทคโนโลยีต่างๆ เอาแค่เหล็กหล่อ เหล็กเหนียว ก็งงๆ กันแล้ว ว่าป่านนี้ยังไม่ได้มาตรฐานเสียที
โรงถลุงเหล็กก็ยังไม่มี ทำเป็นแค่เหล็กรีดร้อน รีดเย็นถลุงออกมาได้ก็ทำเป็นเหล็กเส้นใช้ในอุตสาหกรรมเท่านั้น ยังไม่ได้คุณภาพถึงขั้นมาตรฐานเลย
เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ การพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆ ก็ต้องเป็นเจ้าของยี่ห้อเท่านั้นดำเนินการกันมาเสร็จเรียบร้อยจากประเทศของรถยี่ห้อนั้น ไม่มีโอกาสได้เห็นดรออิงด้วยซ้ำบ้านเราเอาแค่ซื้อเครื่องมือพิเศษมาสำหรับซ่อม ตัวแทนก็บ่นกันหนาหูแล้ว เพราะตัวละเป็นแสนๆกว่าจะคืนทุนก็นมนาน
คงยังต้องคอยความเป็นจริงกันอีกนานนมนะครับว่าประเทศเราจะสามารถผลิตยานยนต์ได้อย่างจริงจัง แบบคุยได้เต็มปากเต็มคำมากกว่านี้
สองย่อหน้าที่ผ่านมานี้ต้องระมัดระวังการพิมพ์เป็นพิเศษ เพราะเดี๋ยวความหมายจะเปลี่ยน
ดูแค่ผลสำรวจการอ่านหนังสือของประชากรไทย เมื่อปี 2546 ที่ผ่านมานี่ก็ได้
จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ข้อมูลพื้นฐานมีสาระสำคัญ คือ ประชากรที่มีอายุ 6ปีขึ้นไป 57.8 ล้านคน เป็นผู้อ่านหนังสือจำนวน 35.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 61.2 ไม่อ่านหนังสือ 22.4ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 38.8
เพศชายมีอัตราการอ่านหนังสือสูงกว่าเพศหญิง (ร้อยละ 64.8 และร้อยละ 57.5)
ประชากรในกรุงเทพมหานคร มีอัตราการอ่านหนังสือสูงที่สุด ร้อยละ 81.6 ภาคกลาง 63.5 ภาคใต้61.1 ภาคเหนือ 59.2 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 52.8
เจาะลงไปที่พฤติกรรมการอ่านหนังสือของประชากร มีสัดส่วนการอ่านหนังสือพิมพ์สูงที่สุด ร้อยละ66.0 รองลงมาคือ อ่านนวนิยาย/การ์ตูน/หนังสืออ่านเล่น ร้อยละ 44.6
และอ่านตำราเรียนตามหลักสูตร ร้อยละ 40.0
ผู้อ่านหนังสือส่วนใหญ่ ร้อยละ 45.5 อ่านหนังสือที่บ้าน รองลงมาอ่านที่สถานศึกษา ร้อยละ 19.4มีเพียงร้อยละ 3.4 อ่านในห้องสมุด และร้อยละ 3.2 อ่านในที่อ่านหนังสือของหมู่บ้าน/ชุมชน
การสำรวจนี้กระทำจากการสัมภาษณ์ผู้มีอายุตั้งแต่ 6 ปี จำนวน 44,322 คน ก็นับว่าเป็นกลุ่มตัวอย่างมากพอควร แต่ก็ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า แค่เรื่องนิสัยการอ่านหนังสือก็อ่านกันแต่หนังสือพิมพ์ นวนิยาย/การ์ตูน/หนังสืออ่านเล่น กันเป็นส่วนใหญ่แล้วเมื่อไรความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่กระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองฟ้าอมรแห่งนี้
จะสามารถกระจายลงไปถึงหมู่บ้าน ชุมชน เหมือนกับการสนับสนุนสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ได้
เอ๊ะ มันเรื่องเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย
กลับมาถึงมาตรวัดตลาดรถ ที่เป็นรอบสุดท้ายของปี 2546 ที่แค่เดือนเดียว เติบโตกันขึ้นไปถึง 32.7 % ขายรวมจากงานมหกรรมยานยนต์ได้ 64,839 คัน ทำเอายอดรวมสิบสองเดือนเติบโต 30.3 %คิดเป็นจำนวนคัน 533,455 คัน
เดือนธันวาคม ยังไม่มีใครโค่นยักษ์ใหญ่ได้ โตโยตา ยังครองอันดับหนึ่ง ขาย 22,172 คัน เติบโตถึง49.1 % ส่วนแบ่งตลาด 34.2 % อันดับสอง อีซูซุ ขายมาแค่ 21 ปี หรือเปล่า ขายได้ 14,107 คันเติบโต 28.6 % ส่วนแบ่ง 21.8 % อันดับสาม ฮอนดา ขายรถแถมปากกาได้ 10,030 คัน เติบโต 27.2 %ส่วนแบ่ง 15.5 % น่าจะแถมเครื่องมือซ่อมช่วงล่างด้วยนะเนี่ย อันดับสี่ นิสสัน ทิ้งโค้งปลายปี ขาย5,986 คัน ส่งท้ายผู้บริหาร เติบโต 25.4 % ส่วนแบ่ง 9.2 % และอันดับห้า มิตซูบิชิ ขาย 3,832 คันน้อยกว่าปีก่อน 18.7 % ส่วนแบ่ง 5.9 %
ยอดรวมแชมพ์ประจำปี โตโยตา ขาย 188,604 คัน อีซูซุ ขาย 131,422 คัน ฮอนดา ขาย 69,069 คันนิสสัน ขาย 44,517 คัน มิตซูบิชิ ขาย 34,144 คัน ฟอร์ด ขาย 26,057 คัน และ มาซดา ขาย 10,374 คันที่เหลือนอกนั้นขายทั้งปีได้ต่ำกว่าหมื่นคัน
และขอรายงานผู้เสียภาษียอดเยี่ยมประจำปี แจกวาร์ ขายได้ 67 คัน โพร์เช ขาย 87 คัน เท่านั้นเองแต่แทบจะมองไม่เห็นในท้องถนน เพราะท่านทั้งหลายซื้อเอาไปเก็บ ไม่ได้เอามาใช้
แยกเป็นประเภทรถยนต์นั่ง ยอดเดือนธันวาคม เดือนเดียว ขายเพิ่ม 42.9 % ได้ 22,326 คันขณะที่รวมทั้งปี ขายเพิ่ม 42.3 % จำนวน 173,864 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน ยอดขายปากกา ฮอนดา พุ่งสูงปรี๊ด 9,326 คัน เพิ่ม 63.1 % ส่วนแบ่ง 41.8% ที่สองมีแต่ดาวน์ต่ำกับประกัน ไม่มีปากกา โตโยตา ขาย 8.566 คัน เพิ่ม 36.4 % ส่วนแบ่ง 38.4 %ที่สามมีทุกอย่าง นิสสัน ขาย 1,367 คัน น้อยกว่าปีก่อน 11.6 % ส่วนแบ่ง 6.1 % ที่สี่ ศูนย์เปอร์เซนต์เชฟโรเลต์ ขาย 911 คัน ส่วนแบ่ง 4.1 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 722 คัน ยังเพิ่ม 28.7 % ส่วนแบ่ง 3.2%
แชมพ์ประจำปี โตโยตา ถูกกระตุกหนวดเสือไปหน่อย 81,341 คัน ฮอนดา 59,311 คัน นิสสัน 11,357คัน มิตซูบิชิ 5,982 คัน และเมร์เซเดส-เบนซ์ 5,054 คัน
มาถึงกระบะหนึ่งตัน ไม่รวมขับเคลื่อน 4 ล้อ ยอดเดือนธันวาคม เดือนเดียว ขายเพิ่ม 38.8 % ได้31,396 คัน ขณะที่รวมทั้งปี ขายเพิ่ม 39.6 % จำนวน 262,728 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน อีซูซุ ขาย 11,527 คัน เพิ่ม 32.6 % ส่วนแบ่ง 36.7 % ที่สอง โตโยตา ขาย9,481 คัน เพิ่ม 68.0 % ส่วนแบ่ง 30.2 % ที่สาม นิสสัน ขาย 4,442 คัน เพิ่ม 43.1% ส่วนแบ่ง 14.1 %ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 2,665 คัน ลดลง 18.4 % ส่วนแบ่ง 8.5 % และที่ห้า ฟอร์ด ขาย 2,104 คัน เพิ่ม 55.7% ส่วนแบ่ง 6.7 %
แชมพ์ประจำปี อีซูซุ 109,025 คัน ที่สอง โตโยตา 78,760 คัน ที่สาม นิสสัน 31,002 คัน ที่สี่ มิตซูบิชิ21,599 คัน ที่ห้า ฟอร์ด 14,570 คัน
กระบะ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนเดียวขายได้ 3,411 คัน ลดลง 24.3 % ยอดรวม 12 เดือน ขายได้38,993 คัน ลดลง 12.9 %
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน โตโยตา ขาย 1,870 คัน เพิ่ม 1.1 % ส่วนแบ่ง 54.8 % ที่สอง อีซูซุ ขาย1,336 คัน ลด 18.5 % ส่วนแบ่ง 39.2 % ที่สาม มิตซูบิชิ ขาย 96 คัน ลด 76.9 % ส่วนแบ่ง 2.8 % ที่สี่ฟอร์ด ขาย 78 คัน ลดลง 82.0 % ส่วนแบ่ง 2.3 % และที่ห้า มาซดา ขาย 27 คัน ลด 67.9 % ส่วนแบ่ง 0.8 %
แชมพ์ประจำปี โตโยตา 17,320 คัน ที่สอง อีซูซุ 14,764 คัน ที่สาม ฟอร์ด 3,593 คัน ที่สี่ มิตซูบิชิ 2,316คัน ที่ห้า มาซดา 553 คัน
รถกิจกรรมกลางแจ้งหรือเอสยูวี ยอดขายเดือนเดียว 2,167 คัน ลดลง 33.9 % ยอดรวม 12 เดือน ขาย23,826 คัน ลด 20.4 %
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือน ฟอร์ด ขาย 812 คัน เพิ่ม 3,430.4 % ส่วนแบ่ง 37.5 % ที่สอง ฮอนดา ขาย501 คัน ลด 75.2 % ส่วนแบ่ง 23.1 % ที่สาม โตโยตา ขาย 347 คัน ลด 36.6 % ส่วนแบ่ง 16 % ที่สี่มิตซูบิชิ ขาย 127 คัน ลดลง 66.2 % ส่วนแบ่ง 5.9 % และที่ห้า มาซดา ขาย 111 คัน ส่วนแบ่ง 5.1 %
แชมพ์ประจำปี ฮอนดา 8,295 คัน ที่สอง ฟอร์ด 6,230 คัน ที่สาม โตโยตา 3,835 คัน ที่สี่ มิตซูบิชิ2,129 คัน ที่ห้า มาซดา 1,236 คัน
รถเพื่อการพาณิชย์ หรือรถบรรทุกนั่นแหละ เดือนเดียวเพิ่มเยอะ 121.8 % ขายได้ 2,781 คันขณะที่ยอดรวมขายเพิ่ม 85.5 % ได้ 18,881 คัน มี อีซูซุ นำอยู่ 1,244 คัน เพิ่ม 111.9 % ส่วนแบ่ง 44.7 % ที่สอง ฮีโน 1,073 คัน เพิ่ม 141.7 % ส่วนแบ่ง 38.6 % และที่สาม มิตซูบิชิ 222 คัน เพิ่มเหมือนกัน 131.3 % ส่วนแบ่ง 8.0 %
รถอเนกประสงค์ หรือรถตู้ขายได้ 785 คัน รวมทั้งปี 8,551 คัน เพิ่มเล็กๆ 2.6 % มี โตโยตา นำโด่งรวม6,015 คัน
สิ้นสุดปีกันไปอย่างชื่นมื่นด้วยตัวเลขยอดขาย แต่พอถึงตอนตรุษจีนบางบริษัทกลับไม่มีแตะเอียสักบาท ก็บอกได้อย่างหนึ่งว่าปีนี้มีการโยกย้ายค่ายกันสนุกสนานอีกปีหนึ่งเป็นการฉลองปีลิงไปเรียบร้อย ลิง ก็ต้องกระโดดโลดเต้น อยู่นิ่งเฉยไม่ได้
คนทำงานที่ไม่ชอบใจในองค์กรของตนเอง ก็จำเป็นต้องขวนขวายโยกย้ายกันเป็นธรรมดาแหละโดยเฉพาะโบนัสก็ไม่มี แตะเอียก็ไม่ได้ ตัวใครก็ตัวใครแหละครับ
สมตามชื่อปีจริงเชียว
เรื่องโดย : มือบ๊วย
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2547
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51944