มาตรวัดตลาดรถ
มีแต่รุ่ง
รื่นเริงสุขสำราญกันอีกปีหนึ่ง เมื่อยอดการขายในงานมหกรรมยานยนต์ ทะลุความคาดหมายทำเอาเจ้านายกระผมเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ออกอาการทักทายลูกน้องเป็นว่าเล่นแถมด้วยยอดการขายรถยนต์ทั้งตลาดในเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทะลุทะลวงขึ้นไปถึง 42,946 คัน โตถึง 23.8 % แต่พอรวมทั้งสิบเอ็ดเดือน เจริญเติบโตถึง 30.0 % ขายกันทั้งตลาด 468,619 คัน
อันที่จริงก็น่าแปลกอยู่นะครับ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยแทบจะต่ำติดดินสถาบันการเงินก็พยายามเก็บตัว ไม่กระโตกกระตากให้เป็นข่าว ส่วนของหนี้สินที่ตกเป็น เอนพีแอลก็ยังคงเป็น เอนพีแอล อยู่เช่นเดิม แบงค์ก็ยังต้องวิ่งหาเงินมากันเป็นทุนสำรองกันอุตลุด
แล้วทำไมผู้คนถึงพากันควักกระเป๋ามาถอยรถป้ายแดงกันเป็นว่าเล่น
จะบอกว่ามีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมายั่วน้ำลายผู้บริโภค ก็เป็นแค่กระแสเท่านั้น ส่วนรุ่นอื่นๆที่ขายกันอยู่ดั้งเดิม ก็ยังคงจำหน่ายกันได้เป็นปกติ โดยดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนานแถมประกันชั้นหนึ่ง กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานประจำรถไปเสียแล้วไม่ได้มีเจ้าไหนล้มหายตายจากกันไป
แถมยังมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า จะมีคนเอารถจากมาเลย์เข้ามาขายในเมืองไทยแถมตั้งท่าจะประกอบเข้าไปอีก รถจากค่ายยุโรปก็ตั้งท่าว่าจะเข้ามาประกอบในเมืองไทย ซีอีโอ ค่ายรถยนต์จากนานาประเทศ ก็แวะเวียนกันมาคำนับที่ตึกไทยคู่ฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ก็ยังแสดงว่าตลาดบ้านเรายังคงเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง
แต่ที่น่ายินดีไปกว่านั้น ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ พณหัวเจ้าท่าน ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องรถขนาดเล็กว่าควรจะแจ้งเกิดในบ้านเรากันได้เสียที หลังจากที่ล้มหายตายจากกันไปหลายเจ้าแล้วแถมตั้งหัวขบวนเพื่อดูแลนโยบายไปเรียบร้อย คาดว่าจะประมาณรถแห่งชาติ หรืออะไรทำนองนั้น
ก็น่าจะเรียกได้ว่า นี่เป็นนิมิตใหม่ของวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศที่แต่งตั้งบุคคลจากภาคเอกชนที่มีฝีมือ เพื่อมากำกับดูแลนโยบาย เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเพื่อปรับกระบวนทัศน์ของเหล่าข้าราชการทั้งหลายว่าควรจะทำงานให้ทันกับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นับวันจะยิ่งแพร่ขยายอย่างรวดเร็ว
ก็ได้แต่หวังในทางที่ดีนะครับ ว่าจะสามารถเขย่าอุตสาหกรรมนี้ ให้รุดหน้าไปได้อย่างน้อยที่สุดให้เร็วกว่าเต่าคลานสักหน่อย ก็ยังดี
ก็ไม่รู้ว่าท่านจะใช้วิทยายุทธให้สามารถกระตุ้น ขุดเอากรุที่ฝังอยู่แถวถนนพระราม 6 ให้ปรับกระบวนลุกขึ้นมาทำงานให้ทันกับภาคเอกชนได้หรือเปล่า ?
เอาน่า ลงมือทำยังดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย จริงไหมครับ
กลับมาเรื่องมาตรวัดตลาดรถของเราดีกว่า
ก็ยังคงป็นเรื่องธรรมดา ที่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ทั้งกระบะหนึ่งตัน รถบรรทุกหกล้อ สิบล้อ รถลากรถแวน ยังคงเจริญเติบโตได้ใกล้เคียงกับสภาพตลาดโดยรวม และยังมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 60 %ของตลาดเช่นเดิม
เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตลาดเติบโตจากแรงขับของแคมเปญ ไม่ว่าค่ายเล็กค่ายน้อย มีหมด โตถึง 23.8 % ขายได้ 42,946 คัน ในขณะที่ยอดรวม 11 เดือน โตขึ้นไป 30.0 % ยอดการขาย 468,619 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือนเช่นเคยเจ้าบุญทุ่ม ลงโฆษณาขาว/ดำ ไม่เป็น ต้องสีเท่านั้น โตโยตา ขาย 16,320 คัน โตมากกว่าตลาด 42.5 % ส่วนแบ่งตลาด 38.0 % อันดับสอง แถมทองเท่านั้น อีซูซุ ขาย 11,222 คัน เพิ่ม 25.9 % ส่วนแบ่งยังคงเพิ่มเล็กน้อย 26.1 % อันดับสาม หันมาคุยกับปากการาคาแพงมองต์บลังค์ ฮอนดา ขาย 3,613 คัน เพิ่มนิดเดียวเพราะน้องแจ๊ดเพิ่งออกตลาด ยังไม่มียอดขายเท่าไร 6.3 % ส่วนแบ่งลดลงจากปีก่อน 8.4 % อันดับสี่ ปีนี้แคมเปญทั้งปี มิตซูบิชิ ขาย 3,055 คัน เพิ่มขึ้น 25.1 % ส่วนแบ่ง 7.1 % อันดับสี่ นิสสัน ยังปรับกระบวนท่าภายในไม่เสร็จ คนไทยก็เริ่มน้อยลง คนญี่ปุ่นก็เริ่มเพิ่มขึ้น คนผมสีทองก็เริ่มเพิ่มขึ้น ขาย 3,117 คัน ลดลง 12.4 % ส่วนแบ่ง 7.3 %อันดับห้า ปีนี้แคมเปญทั้งปี มิตซูบิชิ ขาย 3,055 คัน เพิ่มขึ้น 25.1 % ส่วนแบ่ง 7.1
แชมพ์ 11 เดือน โตโยตา 166,432 คัน อีซูซุ 117,315 คัน ฮอนดา 59,039 คัน นิสสัน 38,531 คัน มิตซูบิชิ 30,315 คัน
ตำแหน่งผู้เสียภาษีให้แก่รัฐยอดเยี่ยม โพร์เช ขายได้ 12 คัน และ แจกวาร์ ขาย 8 คัน
หันมามองตลาดรถยนต์นั่ง เดือนเดียวโตถึง 57.8 % เพราะมีน้องใหม่เข้าตลาดสองรุ่น นี่ขนาดยังเพิ่งเริ่มส่งมอบนะ ขายกันได้ 12,346 คัน เพิ่ม 57.8 % ยอดรวมโต 42.2 % ขาย 151,538 คัน
แชมพ์ประจำรุ่นเจ้าเก่าเช่นเคย โตโยตา ขายรถหลากรุ่น 6,529 คัน เพิ่มขึ้นน่าตกใจ 75.3 % ส่วนแบ่ง 52.9 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 3,057 คัน เพิ่มถึง 95 % ส่วนแบ่ง 24.8 % ที่สาม นิสสัน ก้นมน ขาย 978 คัน ลดลง 1.6 % ส่วนแบ่ง 7.9 % ที่สี่ เชฟโรเลต์ ติดอันดับเป็นครั้งแรกขายสองรุ่นได้ 468 คัน ส่วนแบ่ง 3.8 % และที่ห้า เมร์เซเดส-เบนซ์ ขาย 414 คัน เพิ่มเยอะ 14 % ส่วนแบ่ง 3.4 %
รวม 11 เดือน แชมพ์ยังคงเป็น โตโยตา 72,775 คัน ฮอนดา 49,985 คัน นิสสัน 9,990 คัน มิตซูบิชิ 5,260 คัน และ เมร์เซเดส-เบนซ์ 4,809 คัน
มาถึงรถยอดนิยม กระบะหนึ่งตัน ไม่รวมขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤศจิกายนเดือนเดียว 23,178 คันเพิ่ม 29.9 % ยอดรวม 11 เดือน ขายได้ 231,332 คัน เพิ่ม 39.7 %
แชมพ์ประจำเดือนเช่นเคย อีซูซุ 9,226 คัน เพิ่มขึ้น 29.3 % ส่วนแบ่ง 39.8 % ที่สอง โตโยตา ขาย 7,554 คัน เพิ่มถึง 52.0 % ส่วนแบ่ง 32.6 % ที่สาม มิตซูบิชิ ขาย 2,359 คัน เพิ่ม 62.5 % ส่วนแบ่ง 10.2 % ที่สี่ นิสสัน 1,969 คัน ลด 17.5 % ส่วนแบ่ง 8.5 % และที่ห้า ฟอร์ด ขาย 1,171 คัน ส่วนแบ่ง 5.1 %
ส่วนกระบะ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนเดียวขายได้ 2,916 คัน ลดลง 31.4 % ยอดรวม 11 เดือน ขาย 35,582 คัน ลด 11.6 %
แชมพ์ประจำเดือน ได้แก่ โตโยตา 1,469 คัน ลด 17.9 % ส่วนแบ่ง 50.4 % ที่สอง อีซูซุ ขาย 1,253 คัน ลด 12.7 % ส่วนแบ่ง 43.0 % ที่สาม มิตซูบิชิ ขาย 90 คัน ลด 72.1 % ส่วนแบ่ง 3.1 % ที่สี่ ฟอร์ด 75 คัน ลด 85.2 % ส่วนแบ่ง 2.6 % และที่ห้า มาซดา ขาย 24 คัน ลด 73.6 % ส่วนแบ่ง 0.8 %
รถเพื่อการพาณิชย์ที่แท้จริง ก็หกล้อ สิบล้อนั่นแหละครับ เดือนเดียวเพิ่มเยอะ 97.0 % ขายได้ 1,812 คัน 11 เดือนเพิ่ม 80.4 % ขาย 16,100 คัน มีแชมพ์ อีซูซุ ขาย 739 คัน เพิ่ม 126.0 % ส่วนแบ่ง 40.8 % ที่สอง ฮีโน ขาย 733 คัน เพิ่ม 91.4% ส่วนแบ่ง 40.5% และที่สาม มิตซูบิชิ ขาย 183 คัน เพิ่ม 103.3 % ส่วนแบ่ง 10.1 %
รถกิจกรรมกลางแจ้งหรือเอสยูวี ยอดขายเดือนเดียว ขายได้ 1,406 คัน ลด 45.3 % ยอด 11 เดือน ลด 18.8 % ขายได้ 21,662 คัน
แชมพ์ประจำเดือน ได้แก่ ฟอร์ด 503 คัน เพิ่ม 5,488.9 % ส่วนแบ่ง 35.8 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 362 คัน ลด 78.8 % ส่วนแบ่ง 25.7 % ที่สาม โตโยตา ขาย 223 คัน ลด 51.5 % ส่วนแบ่ง 15.9 % ที่สี่ ซูซูกิ 79 คัน เพิ่ม 11.3 % ส่วนแบ่ง 5.6 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 68 คัน ลด 57.8 % ส่วนแบ่ง 4.8 %
รถประเภทอื่น ก็คงแค่แวนเท่านั้น โตเล็กๆ 16.1 % ขาย 778 คัน รวมแต่ต้นปีเพิ่ม 3.4 % ขาย 7,766 คัน มีโตโยตา ครองแชมพ์ 545 คัน
คนในวงการเองก็ล้วนแต่ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะมองอนาคตแล้วมีแต่จะรุ่งใครต่อใครก็หันมาประคบประหงมอุตสาหกรรมรถยนต์กันทั้งนั้นเมื่อตอนงานมหกรรมยานยนต์ได้ยินเสียงคุยกันแต่เรื่องโบนัส ว่าใครได้เท่าไร เกทับ บลั๊ฟกันสนุกสนาน
ปีนี้ ปีหน้า ยังเชื่อได้ว่า อุตสาหกรรมนี้ จะยังคงรุ่งเรืองต่อไป อาจจะในแบบไม่ค่อยหวือหวาแต่ตัวเลขก็เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ จนกว่าดอกเบี้ยจะกลั้นไม่ไหว เริ่มขยับขึ้นนั่นแหละ ยอดขายก็จะค่อยๆคงที่ คงเส้นคงวา
อย่าเพิ่งขึ้นดอกเบี้ยเลยนะเจ้าประคู้น ขอโบนัสดีๆ อีกสักปีเถอะน่า
เรื่องโดย : มือบ๊วย
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51910