ชีวิตคือความรื่นรมย์
เทิดศักดิ์ศรี "100 ปีศรีบูรพา"
นอกเหนือพุทธภาษิตที่เราคุ้นเคยมานานว่า "สัจจัง เว อมตาวาจา-ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย" แล้วมีสำนวนจากนิยายจีนที่คุ้นหูคุ้นตานักอ่านอีกสำนวนหนึ่งว่า "สวรรค์มีตา ฟ้าคุ้มครองแผ่นดินจ้องดูแล" หรือที่เป็นกำลังใจคนทำดีเสมอว่า "ทำความดี ร้อยปีไม่สาย"
ณ วันนี้ สัจจะก็ได้พิสูจน์ความจริงให้เห็นว่า กุหลาบ สายประดิษฐ์หรือที่นักอ่านคุ้นเคยตัวหนังสือจากบทประพันธ์ต่างๆ ทั้งในนามจริง และนามปากกา ศรีบูรพาอิสสรชน อุบาสก ฯลฯ ได้รับการประกาศยกย่องว่าเป็น "บุคคลสำคัญของโลก"โดยการรับรองขององค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)หลังจากที่ผู้ทรงอำนาจทางการเมืองไทยยุคหนึ่งตราหน้าว่าเป็น "กบฎสันติภาพ"
กุหลาบ สายประดิษฐ์เป็นนักเขียนยุคบุกเบิกของวงวรรณกรรมยุคใหม่ของไทยที่คนไทยและชาวโลกรู้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดังคู่กันมากับนักเขียนเอกๆ ที่เรียกว่านักเขียนชั้นครูของไทยไม่ว่าจะเป็น โชติ แพร่พันธุ์ หรือ ยาขอบ มาลัย ชูพินิจ หรือ แม่อนงค์ หรือเรียมเอง มจ. อากาศดำเกิง รพีพัฒน์ อบ ไชยวสุ หรือ "ฮิวเมอริสต์" ฯลฯ หลายคนที่เรารู้ในนาม "กลุ่มสุภาพบุรุษ"
เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดประกอบความน่าชื่นชมยิ่งนัก ทั้งเป็นการยืนยันว่าการศึกษาของไทยในประมาณหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมานั้น เป็นการศึกษาที่ทรงคุณภาพน่าพิศวงด้วยว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมปีที่ 6-7-8 ในสมัยนั้นแม้ไม่ได้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศและการค้นคว้าก็มีน้อยในวงจำกัดแต่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาเพียงแค่นั้นก็สามารถออกมาทำงานหนังสือพิมพ์และต่อมากลายเป็นนักเขียนนักประพันธ์ที่มีผลงานการประพันธ์ลุ่มลึกเหลือเกิน ทั้งๆ ที่การสื่อสารกับโลกวิทยาการภายนอกยังเป็นไปด้วยความคับแคบและยุ่งยากอย่างยิ่ง
กุหลาบ สายประดิษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2448 เริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่อายุ 17-18 ปีโดยร่วมกับเพื่อนในชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ออกหนังสือประจำห้องและเริ่มก้าวเข้าสู่วงการหนังสืออย่างจริงจังเมื่อปี 2466
กุหลาบ สายประดิษฐ์ ถือว่าเป็นนักเขียนที่ครบเครื่องคือเขียนหนังสือได้ดีทุกประเภทเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่นหลายๆ คน เขียนทั้งร้อยแก้วและร้อยกรองนอกจากนวนิยายและเรื่องสั้นอันมีค่าแล้ว ยังมีผลงานเขียนมากทั้งบทความด้านการเมือง ศาสนา ปรัชญา สังคม วิชาการ เรื่องแปล ฯลฯ
มีผลงาน ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นอมตะมากมาย ยกตัวอย่าง นวนิยายเรื่องเด่นๆที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำ ๆ หลายครั้ง เช่น สงครามชีวิต ข้างหลังภาพ (เรื่องนี้และหลายเรื่องได้รับการนำเสนอในมิติภาพยนตร์ ละครและละครโทรทัศน์หลากหลายหน) ลูกผู้ชาย มารมนุษย์ จนกว่าเราจะพบกันอีก แลไปข้างหน้า ฯลฯ นวนิยายและเรื่องสั้นหลายเรื่องได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศหลายภาษา
มีเรื่องสั้นชั้นครูที่เป็นที่กล่าวถึงอยู่ในหมู่ผู้อ่านจนบัดนี้ เช่น ขอแรงหน่อยเถอะ คำขานรับ ฯลฯ มีบทกวี (กลอนเปล่า) ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก เช่น อาชญากรผู้ปล่อยนกพิราบ มีผลงานแปล (และเรียบเรียง) ที่ขึ้นชื่อเด่น เช่น เขาถูกบังคับให้เป็นขุนโจร (เรื่องจากชีวิตจริงของขุนโจรก้องโลก) เรื่อง "แม่" อันโด่งดัง (ของนักประพันธ์เอกของโลกคือ แมกซิม กอร์กี)
มีบทความอันเป็นที่กล่าวถึงด้วยความยกย่อง เช่น มนุษยภาพ เบื้องหลังการปฏิวัติ 2475 ดูนักศึกษามธก. ด้วยแว่นขาว ฯลฯ มีความเรียงทางพุทธศาสนาที่ลุ่มลึกชัดเจน เช่น ชุด "อุดมธรรม" (แต่ก็ถูกมนุษย์ผู้ไม่รู้จัก กุหลาบ สายประดิษฐ์ ดีหาว่านิยมคอมมิวนิสต์) ฯลฯ แม้กระทั่งสารคดี เช่นข้าพเจ้าเห็นมา เป็นต้น
กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นคนที่ทำงานอย่างจริงจังด้วยการทุ่มเท มีชีวิตการดำรงชีวิตทั้งในอาชีวปฏิญาณและชีวิตครอบครัวที่เป็นแบบฉบับน่ายกย่องด้านชีวิตครอบครัวได้ร่วมชีวิตกับผู้รู้ใจคนที่มีรสนิยมอย่างเดียวกัน คือชนิด (
)ผู้ใช้นามปากกา "จูเลียต" นักเขียนไทยผู้มีฝีมืองานเขียนนวนิยายและเรื่องสั้นนอกจากนั้นเธอมีผลงานแปลอันโด่งดังคือเรื่อง เหยื่ออธรรม (จากผลงานอมตะของนักเขียนเอกชาวฝรั่งเศส วิคเตอร์ ฮูโก)
กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ได้รับยกย่องในชั้นครูนักเขียนรุ่นน้องหลายคนที่ได้รับโอกาสทางการเขียนและการเจียระไนเมื่อ กุหลาบ เห็นแววจากการทำงานในหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการและเป็นบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่นเสนาศึกษาและแผ่วิทยาศาสตร์ สุภาพบุรุษ (ซึ่งท่านเป็นเจ้าของ-บรรณาธิการแล้วเป็นศูนย์รวมนักเขียนมือทองที่เรียกกลุ่ม "สุภาพบุรุษ") นอกจากนั้นท่านยังเป็นประธานกรรมการก่อตั้งสมาคมหนังสือพิมพ์เมื่อปี 2484และเป็นเลขาธิการคนแรกของสมาคม
ต่อมาก็ได้รับเลือกตั้งเป็นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยด้วยเมื่อปี 2488-2489
นอกจากได้รับยกย่องเป็นนักคิด-นักเขียน-นักหนังสือพิมพ์ที่ดีเด่นแล้วยังได้รับยกย่องเป็นนักมนุษยธรรม นักศาสนา นักประชาธิปไตย นักเสรีภาพแต่เป็นนักต่อสู้ที่ไม่เคยมีพฤติกรรมต่อต้านหรือเรียกร้องสิ่งใดก้าวร้าวรุนแรงตรงข้ามกลับสุภาพและใช้เหตุใช้ผล
นอกจากผลงานจะได้รับความนิยมทั้งในยามมีชีวิตและหลังที่ท่านจากไปแล้วเกียรติยศชื่อเสียงยังเป็นที่ยอมรับจากสาธารณชนอย่างกว้างขวางอีกด้วย หลังจากจากโลกนี้ไปเมื่อปี 2517 รัฐบาลประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนได้จัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ และเมื่อญาติมิตรที่รักสนิทได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่อัฐิที่ได้เชิญมาจากประเทศจีนในปี 2531 แล้วมิตรผู้น้องคือ สุวัฒน์ วรดิลกได้ร่วมกันนำเงินที่เหลือจากทำบุญครั้งนั้น ตั้งเป็น "กองทุนศรีบูรพา" ขึ้นเพื่อมอบแก่นักคิด-นักเขียน-นักหนังสือพิมพ์ที่ได้วัตรปฏิบัติน่ายกย่องตามแนว กุหลาบ สายประดิษฐ์จากปี 2531 มีบุคคลที่รับรางวัลอันทรงคุณค่าและมีเกียรติน่าภาคภูมิใจนี้ จากคนแรกคือ ศักดิชัยบำรุงพงศ์ (เสนีย์ เสาวพงศ์) มาจนถึงปีที่ 15 รวม 15 คนแล้วคือ ธีรยุทธ บุญมี และ ดร. เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ในปีนี้
ที่น่าภาคภูมิใจแก่ครอบครัวรวมทั้งญาติมิตรแห่งวงวรรณกรรมไทยคือในการประชุมองค์การยูเนสโกที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2546 นี้เอง องค์การได้มีมติประกาศยกย่องและให้จัดงานฉลองในวาระ 100 ปี ชาตกาลของ "นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ (ศรีบูรพา) ในวันที่ 31 มีนาคม 2548"ในฐานะบุคคลสำคัญของโลก (เช่นที่ได้ประกาศยกย่องคนไทยมาก่อนหน้านี้ แล้ว 10 พระองค์ (ตามลำดับกาล) คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (21 มิถุนายน 2505)สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ (28 เมษายน 2506) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (24 กุมภาพันธ์ 2511) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ( 1 มกราคม 2524) สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส (11 ธันวาคม 2533) พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ (25 สิงหาคม 2534) สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ( 1 มกราคม 2535)พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (ทรงครองราชย์ 50 ปี เมื่อ 9 มิถุนายน 2539) สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ( 11 พฤษภาคม 2543) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ( 20 กันยายน 2546)
นอกจากนั้นก็มีบุคคลสำคัญของไทย 4 คนคือ พระสุนทรโวหาร (ภู่ 26 มิถุนายน 2529)พระยาอนุมานราชธน (14 ธันวาคม 2531) ศาสตราจารย์ ดร. ปรีดี พนมยงค์ (20 กันยายน 2543) และ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล (24 ตุลาคม 2546) และอีก 1 เหตุการณ์คือ ฉลองครบ 700 ปีการสถาปนาเมืองเชียงใหม่
นี่คือเกียรติยศที่ต้องบันทึกไว้ด้วยความภูมิใจเป็นที่ยิ่งและสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจะร่วมกับองค์กรต่างๆ จะเริ่มจัดงานฉลอง ตั้งแต่ 31 มีนาคม 2547 จนถึง 31 มีนาคม 2548
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51907