มาตรวัดตลาดรถ
ต้อนหมูเข้าเล้า
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์
เดือนตุลาคม ปี '46 กับ '45
ตลาดโดยรวม เพิ่ม 23.2 %
รถยนต์นั่ง เพิ่ม 37.9 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ เพิ่ม 39.5 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ลด 43.7 %
ถึงแม้จะมีอุบัติภัยในหลายท้องที่ทั่วประเทศ
แต่ยังคงมีผู้เพิ่มจำนวนประชากรบนท้องถนนอยู่สม่ำเสมอ
ยอดการขายรถยนต์ทุกประเภทในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ยังคงเพิ่มขึ้น 23.2 %
คิดเป็นจำนวนคันทั้งสิ้น 46,186 คัน สิริรวมสิบเดือน 425,682 คัน เพิ่มขึ้น 30.7 %
ก็ต้องยอมรับกันว่า แนวทางการบริหารประเทศของ คนเมืองเหนือ ชื่อเมืองใต้ ท่านนี้
สามารถกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจได้อย่างน่าชื่นใจ ถึงแม้ดอกเบี้ยเงินฝากจะยังคงต่ำติดดินก็ตามที
ไม่ต้องพูดถึงดอกเบี้ยบัตร
พลาสติค ที่ยังคงติดเพดานด้านบนโน้น อย่างมั่นคง โดยไม่มีใครทำอะไรได้
แถมค่าผิดนัดชำระยังมีแถมเข้ามาอีก เป็นน้ำจิ้ม
ก็ได้แต่บ่นกันไปนะครับ เพราะเห็นพกกันคนละหลายๆ ใบทั้งนั้น คนแถวนี้เองก็เถอะน่า
ก็ยังดีกว่ากู้จากแขกโพกผ้า ที่เฝ้าทวงเช้าทวงเย็น หลบหลีกกันไม่มีพ้น นี่มีส่งมาแต่จดหมายทวงหนี้
ไม่มีใครรู้ใครเห็น เปิดซองดูเอาเองก็แล้วกัน
มาเรื่องของเราดีกว่า ว่าเหตุไฉน รถยนต์ถึงได้ขายดิบขายดี แล้วสภาวะเศรษฐกิจเนี่ยดีจริงหรือ ?
จะว่าเศรษฐกิจดี ก็คงพูดได้ เพียงแต่ว่าแคมเปญของบริษัทรถยนต์ ที่ถาโถมกันทุกยี่ห้อ
เรียกว่าดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซนต์ ดาวน์นิดเดียว ผ่อนนาน จนเป็นปู่
มีปรากฏในหนังสือพิมพ์เป็นประจำวัน ไม่เว้นแม้แต่รถค่ายยุโรป ที่ทนนั่งเฉยไม่ไหว
จนเดี๋ยวนี้ต้องแถมเพิ่มค่าบำรุงรักษาตามระยะทางกันแล้ว
เรียกว่ามีสตางค์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ถอยรถป้ายแดงมาขี่ได้ทันที ก็เลยตอบคำถามเรื่องเศรษฐกิจดี
ไม่ตรงประเด็น
แต่ถ้าบรรดาตึกระฟ้าที่ยังทิ้งร้างสร้างไม่เสร็จทั้งหลาย ที่เราๆ ท่านๆ เห็นกันทั่วกรุงนั่นแหละ
ถ้าบรรดาตึกพวกนี้จะเริ่มการก่อสร้างใหม่ หรือทำให้เสร็จนั่นแหละ
กระผมถึงจะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะไปดีจริงๆ ไม่โกหกแน่นอน
คุยเรื่องความก้าวหน้าของข้าราชการผู้กินเงินเดือนจากภาษีอากรของเราดีกว่านะครับ
กรมสรรพากรได้เริ่มอำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ใช้เลขประจำตัวประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร แทนเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้หัก ณ
ที่จ่ายโดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรอีก
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดเก็บภาษี
และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีและผู้จ่ายเงินได้
รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้ใช้เลขประจำตัวประชาชน
เป็นเลขประจำตัวหลักแห่งชาติที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ไม่มีเลขประจำตัวประชาชน
ตามกฎหมายว่าด้วยทะเบียนราษฎร ได้แก่ คนต่างด้าว
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
รวมทั้งบุคคลธรรมดาที่จะจดทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีธุรกิจเฉพาะ
ยังคงต้องมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร สำหรับการปฏิบัติตามประมวลรัษฏากรต่อไป
เรียกว่างานนี้เตรียมต้อนหมูเข้าเล้าชนิดไม่มีพลาด ลงว่าต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อไรละก้อ
ชื่อของท่านจะไปปรากฏที่กรมสรรพากรทันที ดิ้นไม่หลุดหรอกครับ ส่วนผู้ประกอบการ
อีกหน่อยเครือข่ายอินเตอร์เนทของราชการเชื่อมโยงกันหมด เมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละครับ
เอ๊ะ แล้วนี่จะเรียกว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดีหรือเปล่า ?
กลับหลังหันมาเรื่องมาตรวัดตลาดรถกันดีกว่า ยอดการขายเดือนเดียวตุลาคม
พุ่งสูงแบบมีทั้งคนมีความสุข และมีทั้งคนอกหักพอสมควร ขายกันได้เพิ่ม 23.2 % 46,186 คัน
ยอดรวมตั้งแต่ต้นปี เพิ่ม 30.7 % 425,682 คัน คาดว่าปลายปีนี้ ห้าแสนต้นๆ เป็นเรื่องที่น่าเป็นไปได้
ตำแหน่งแชมพ์ยอดรวมประจำเดือน โตโยตา ยังคงนอนมา
ขายแถมแคมเปญชนิดต้องทำเป็นตารางให้ดู เพราะแคมเปญเยอะจนคนขายเองก็งง ขายได้ 16,376
คัน เพิ่มขึ้น 35.1 % ส่วนแบ่งตลาด 35.5 % อันดับสอง อีซูซุ ขายรถแถมทองเป็นอาชีพ 11,819 คัน
เพิ่มขึ้น 31.5 % ส่วนแบ่ง 25.6 % อันดับสามดาวน์ต่ำ ดอกเบี้ยน้อย ผ่อนนาน นิสสัน ขาย 5,392 คัน
เพิ่มขึ้น 30.4 % ส่วนแบ่ง 11.7 % อันดับสี่ ฮอนดา ขายลดลงเล็กน้อย เพราะของแถมน้อย 4,910 คัน
ลดลง 0.2 % ส่วนแบ่ง 10.6 % และอันดับห้า มิตซูบิชิ นี่ก็อย่าได้เดินผ่านแถวหน้าโชว์รูมเชียว
เดี๋ยวเซลส์จะมาฉุดขึ้นไปซื้อรถ ขาย 2,469 คัน ลดลง 2.4 % ส่วนแบ่ง 5.3 %
ยอดรวมสิบเดือน โตโยตา 150,112 คัน อีซูซุ 106,093 คัน ฮอนดา 55,426 คัน นิสสัน 35,414 คัน และ
มิตซูบิชิ 27,260 คัน
พอแยกประเภทเป็นรถยนต์นั่ง ขายเดือนเดียว 13,405 คัน เพิ่ม 37.9 % รวมสิบเดือนเพิ่ม 40.9 %
ทั้งตลาด 139,201 คัน
แชมพ์ประจำเดือน โตโยตา ขาย 6,495 คัน เพิ่มขึ้น 38.0 % ส่วนแบ่ง 48.5 % ที่สอง ฮอนดา 4,168 คัน
เพิ่ม 105.5 % ส่วนแบ่ง 31.1 % ที่สาม นิสสัน ลดลงเยอะ ขาย 1,035 คัน ลด 21.8 % ส่วนแบ่ง 7.7 %
ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 597 คัน เพิ่ม 6.2 % ส่วนแบ่ง 4.5 % และที่ห้า เชฟโรเลต์ 394 คัน ส่วนแบ่ง 2.9 %
ผู้เสียภาษียอดเยี่ยม แฟร์รารี 1 คัน มาเซราตี 1 คัน แจกวาร์ ขายได้ 3 คัน และ โพร์เช ขาย 2 คัน
ประเภทซื้อไปเก็บนั่นแหละครับ เพราะวันธรรมดาไม่เคยเห็นวิ่งบนถนนเลย
รถกระบะหนึ่งตัน ไม่รวมขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนตุลาคม ขายเดือนเดียว 24,496 คัน เพิ่มขึ้น 39.5 %
รวมสิบเดือนเพิ่ม 40.9 % ขายไปทั้งหมด 208,154 คัน
แชมพ์ประจำเดือน อีซูซุ ขาย 9,493 คัน เพิ่ม 36.1 % ส่วนแบ่ง 38.8 % ที่สอง โตโยตา ขาย 7,746
คันเพิ่ม 64.4 % ส่วนแบ่ง 31.6 % ที่สาม นิสสัน ขาย 4,216 คัน เพิ่ม 55.8 % ส่วนแบ่ง 17.2 % ที่สี่
ฟอร์ด ขาย 1,207 คัน ลด 5.0 % ส่วนแบ่ง 4.9 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 1,073 คัน ลด 15.0 %
ส่วนแบ่ง 4.4 %
ส่วนกระบะหนึ่งตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขายเดือนเดียว 3,078 คัน ลด 29.2 % รวมสิบเดือนลด 9.2 %
ขายไปทั้งหมด 32,666 คัน
แชมพ์ประจำเดือน อีซูซุ ขาย 1,354 คัน ลด 16 % ส่วนแบ่ง 44.0 % ที่สอง โตโยตา ขาย 1,295 คัน ลด
23.8 % ส่วนแบ่ง 42.1 % ที่สาม มิตซูบิชิ 326 คัน เพิ่ม 9.4 % ส่วนแบ่ง 10.6 % ที่สี่ ฟอร์ด 72 คัน ลด
87.5 % ส่วนแบ่ง 2.3 % และที่ห้า มาซดา 26 คัน ลด 76.8 % ส่วนแบ่ง 0.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้งหรือเอสยูวี ยอดขายเดือนเดียว 2,093 คัน ลด 43.7 % รวมสิบเดือน ลด 15.9 %
ขายไปทั้งหมด 20,256 คัน
แชมพ์ประจำเดือน ฟอร์ด ขาย 729 คัน 14,480 % ส่วนแบ่ง 34.8 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 526 คัน ลด
80.9 % ส่วนแบ่ง 25.1 % ที่สาม โตโยตา ขาย 308 คัน ลด 26.7 % ส่วนแบ่ง 14.7 % ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย
306 คัน ลด 6.4 % ส่วนแบ่ง 14.6 % และที่ห้า ซูซูกิ ขาย 92 คัน ลด 17.9 % ส่วนแบ่ง 4.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจว่า เจ้าของซื้อไปใช้งานจริง เดือนเดียวเพิ่ม 117.5 % ขายได้
1,968 คัน รวมสิบเดือนเพิ่ม 78.5 % ยอด 14,288 คัน แชมพ์ อีซูซุ 969 คัน เพิ่ม 152.3 % ส่วนแบ่ง
49.2 % ที่สอง ฮีโน 702 คัน เพิ่ม 99.4 % ส่วนแบ่ง 35.7 % และมิตซูบิชิ ขาย 167 คัน เพิ่ม 103.7 %
ส่วนแบ่ง 8.5 %
รถอเนกประสงค์อื่นๆ ที่เหลือแค่รถตู้นั่นแหละ ขายลดลง 4.3 % ได้ 717 คัน รวมสิบเดือนเพิ่มแค่ 2.1 %
6,988 คัน แชมพ์เช่นเคย โตโยตา ขาย 532 คัน
นั่นคือความเป็นไปในยุคที่รัฐบาลเสียงข้างมากควบคุมอยู่ เหลือเวลาอีกแค่ปีเดียว
ฤดูกาลเลือกตั้งก็จะมาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นเราคงได้เห็นปี่กลอง มโหระทึกลั่นสนั่นแน่
แถมเป็นตัวช่วยให้ยอดขายรถเพิ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เรียกว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ก็คงได้รู้กันเร็วๆ นี้แหละ
แต่ย้ายแม่พระธรณีแล้ว ไม่ดูแลกันให้ดี ปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุ
ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นลางอะไรให้ใครสะดุ้งสะเทือนหรือเปล่า เพียงแต่พรรคฝ่ายตรงข้ามท่านน่ะ
หัวเราะกันกลิ้งกับพื้นไปเรียบร้อยแล้วละครับ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51850