สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
วิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา
ผลิตภัณฑ์สัญญาณกันขโมยกำลังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้รถและมีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างรุนแรงรวมถึงโดยมีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ ทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้ามาจากต่างประเทศ
"ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ วิบูลย์ ว่องศิลป์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออโตเมติก บิสซิเนส กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ สัญญาณกันขโมยมานานกว่า 12 ปี
ฟอร์มูลา : การดำเนินธุรกิจสัญญาณกันขโมยเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร ?
วิบูลย์ : ผมเริ่มจากการซื้อสัญญาณกันขโมยมาติด แต่ก็ไม่ดี เพราะสมัยก่อนไม่มีคนติด ติดไม่ดี ติดมั่วด้วยความอยากชนะ ใช้เวลาติดตั้งหนึ่งสัปดาห์ กว่าจะสำเร็จ ก็ทำให้รู้สึกลึกซึ้งอย่างยิ่งและมองว่าเรื่องกันขโมยไม่ยาก จนถึงทุกวันนี้ผมซึมซับ เพราะบริษัทมีการวิจัยและพัฒนาความคิดใหม่ๆ โรงงานต่างประเทศที่มีสินค้าใหม่จะส่งมาให้บริษัททดสอบทำให้เราสามารถรองรับในเรื่องการบริการได้เต็มที่ นั่นคือที่มา
ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องรถยนต์หาย ที่ดูเหมือนสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ?
วิบูลย์ : ต้องตำหนิภาคราชการไม่ยอมเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับประเทศจีนที่ไม่ยอมเปิดเผยเรื่องไข้ซาร์ส สุดท้ายแก้ไม่ทัน เหมือนกับทุกวันนี้ศูนย์ปราบปราม พยายามปิดตัวเลขไม่เปิดเผยเหมือนในอดีตสุดท้ายตัวเลขของการหายของรถยนต์ไม่เคยลดลง จะมีอยู่ปีเดียวคือ 2543 ที่ลดลงเพราะสถิติยอดขายลดลง ตราบใดที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขมร ลาว และเวียดนามยังมีความต้องการพัฒนา ก็ไม่สามารถป้องกันได้ โอกาสรถหายยังมีอยู่ดีการเปิดข้อมูลจะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของรถระวังเองนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดเพราะไม่มีใครจะรักรถเท่ากับเจ้าของรถ
ปัจจุบันรถในประเทศไทยหายประมาณ 4,000 คัน รถจักรยานยนต์ 20,000 กว่าคัน/ปี แต่ยังไม่เปิดเผยซึ่งน่าจะเปิดเผยเพื่อให้คนระวัง ตัวอย่าง ประเทศมาเลเซีย บังคับให้รถทุกคันติดกันขโมยและตัวถอยรวมถึงไฟถอยดวงที่ 3 ซึ่งถือว่าเป็นความปลอดภัย ประเทศนั้นรถหายน้อยมาก
ฟอร์มูลา : เอบีจี มีสินค้ามากมายหลายยี่ห้อ มีเกณฑ์การแบ่งตลาดอย่างไรบ้าง ?
วิบูลย์ : กลุ่มลูกค้าบริษัทจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ โดยยึดหลักที่คุณสมบัติของสินค้า คือ 1. ระดับล่างหรือกลุ่มซีทีคาร์ กลุ่มทำงานที่มีรายได้น้อย ราคาพร้อมติดตั้งชุดละประมาณ 4,000 บาท และ 6,000 บาท สำหรับ โออีเอม และ AG GUARD 2. กลุ่มวัยรุ่น หรือ RAKON ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็วเรื่องสีสัน รูปแบบ ความแปลกใหม่ของรีโมท จะมีราคาอยู่ประมาณ 6,500-7,500 บาท 3. กลุ่มของ เอบีที หมายถึงกลุ่มที่พร้อมจะมีครอบครัวแล้ว ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่กว้างอายุระหว่าง 25- 30 ปีขึ้นไป และ 4. กลุ่ม USA ที่จะมีสินค้า BLACK WIDOW COMPUSTAR MAGICAR WHEELS WALLSTREETER EXCALIBUR โดยสินค้าของบริษัทแต่ละกลุ่มจะแบ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด มีการแบ่งแยกกลุ่มโรงงาน กับกลุ่มตลาดให้เป็นคนละกลุ่ม จึงไม่มีการแข่งขันกันเอง รวมถึงสินค้าแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ฟอร์มูลา : สัญญาณกันขโมยของบริษัทนำเข้ามาจำหน่ายมาจากที่ใดบ้าง ?
วิบูลย์ : สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ย้ายฐานมามาเลเซียหมดแล้ว ใช้สิทธิ์อาฟตา ไต้หวันก็มียกเว้นประเทศจีน
ฟอร์มูลา : สินค้าที่ขายดีที่สุดคือรุ่นใด ?
วิบูลย์ : ปัจจุบันนี้จะเป็นรุ่น พิคอัพ อลาร์ม เนื่องจากตลาดรถพิคอัพในประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและกำลังเติบโตนั่นคือเหตุผลที่บริษัทแนะนำผลิตภัณฑ์นี้ออกสู่ตลาด และอีกรุ่นหนึ่ง คือ ซีทีคาร์
ฟอร์มูลา : ในด้านการบริการแบ่งเป็นแต่ละยี่ห้อหรือไม่ ?
วิบูลย์ : การบริการจะมีมาตรฐานเหมือนกันหมดทุกยี่ห้อ ไม่ว่าสินค้านั้นจะอยู่ในกลุ่มใดโดยหลักการของการบริการคือ วันแรกที่ติดตั้งเสร็จจะได้รับ สแตนดาร์ด เซอร์วิศ 1 ใบซึ่งใช้ได้ทันทีที่ใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการ หรือสาขา โดยเป็นใบแรกเพื่อรอกรมธรรม์กับใบคูปองบริการภายใน 1 เดือน
ฟอร์มูลา : ในฐานะที่เป็นผู้นำในเรื่องของสัญญาณกันขโมย คุณวางแผนงานการตลาดในอีก 3 ปี
ข้างหน้าไว้อย่างไร ?
วิบูลย์ : อันดับแรกจะต้องดูตลาดว่าแนวโน้มมีรถยนต์ใหม่ออกมาหรือไม่อันดับต่อมาดูที่ปริมาณดีมานด์ ซัพพลาย เช่น รถใหม่ที่ออกมามีสัญญาณกันขโมยหรือไม่อย่างตอนนี้ดูได้ว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ในเมืองไทย เป็นรถพิคอัพ บริษัทจึงได้ส่งสินค้าพิคอัพ อลาร์ม ออกมา
12 ปีที่ผ่านมาของการดำเนินธุรกิจนี้ ยุ่งยาก จุกจิก ถ้าไม่รักจริง ทำไม่ได้ ในการบริการอย่างครบวงจรซึ่งจุดนี้บริษัทรถยนต์ไม่ได้สนใจ เพราะบริษัทรถไม่สามารถบริการได้ 24 ชม. และไม่เหมือนกับรถยนต์รถยนต์โอกาสเครื่องเสียน้อยมาก สามารถที่จะหาช่างแก้ได้แต่ถ้าเป็นสัญญาณกันขโมยเสียไม่มีใครแก้ได้ เห็นได้ว่าอาชีพของเราเป็นอาชีพเชี่ยวชาญเฉพาะทางต้องรู้ลึกถึงจะทำได้โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย
ข้อสำคัญที่สุดคือเรื่องนโยบายของรัฐบาล นั่นคือ หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลผมทุ่มเทกับสิ่งนี้มากกว่าปกติเพราะเห็นว่านโยบายของรัฐบาลกำลังไปสู่ชนบทประเทศไทยเป็นประะทศที่ใหญ่ความต้องการใช้รถสูงมาก จึงเป็นสาเหตุให้บริษัทมีทีมขาย 3 ทีมแต่จะขายสินค้าคนละอย่างกัน 2 ปีที่ผ่านมาเห็นว่าเราเติบโต และมาถูกทาง
ฟอร์มูลา : เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับตลาดมีอะไรบ้าง ?
วิบูลย์ : ปัจจุบันนี้ก็มีเทคโนโลยี ABT-Z ที่เป็นเทคโนโลยีแห่งความภาคภูมิใจในฐานะที่เป็นผู้นำเราต้องเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาถ้าเมื่อไรเราหยุดการเปิดรับก็จะเป็นเหมือนอยู่ในตลาดอันดับ 2 และ3 หรือเป็นอันดับ 1 ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นนโยบายของบริษัทจึงค่อนข้างที่จะเปิดรับไม่ว่าเทคโนโลยีนั้นจะต้องลงทุนมากน้อยเพียงใดก็ตามอย่างเช่น ABT-Z บริษัท ร่วมกับ ออดิโอวอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์ ส่วนซอฟท์แวร์ ร่วมกับฮัทชินสัน สมมติว่าคุณจอดรถแล้วหาย คุณสามารถสั่งให้รถหยุดได้ทั่วประเทศไทยไม่ว่าจะสั่งจากที่ใดก็ตาม โดยสั่งเข้าไปที่ศูนย์ที่ตอบรับด้วยระบบคอมพิวเตอร์แล้วสั่งเซทรหัสความจำด้วยตัวเอง และสั่งข้อความ 8 ข้อด้วยตัวเองไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์ประเภทใดก็ตาม ข้อความทั้งหมดจะถูกสั่งผ่านระบบดาวเทียมของฮัทชินสันยิงไปที่ตัวรถ ซึ่งก็จะเหมือนกับเพเจอร์ ไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนคุณจะได้รับหมดซึ่งตัวนี้ก็เหมือนกับว่าจะสั่งให้รถหยุด รถร้อง หรือสั่งให้คลายลอค แล้วแต่ฟังค์ชัน 1-8 ข้อโดยระบบนี้ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มขึ้นในตัวรถด้วย
ฟอร์มูลา : เริ่มโครงการแล้วหรือยัง ?
วิบูลย์ : โครงการนี้เริ่มดำเนินการแล้ว และมีลูกค้าที่ใช้แล้วด้วยแต่เราต้องยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจคือตัวแปร คือบางอย่างคนไม่ได้ใช้ทุกวัน เลยมีความรู้สึกว่าไม่คุ้มแต่ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้นำจะคุ้มหรือไม่คุ้ม เราก็ต้องทำ ยกตัวอย่างทำไมโทรศัพท์มือถือต้องมีคลับสมาชิก ซึ่งเป็นการคืนกำไรให้ผู้บริโภค หรือแม้กระทั่งค่ายเทปเพลงเหมือนเป็นการประสานงาน บริษัทเติบโตมา 12 ปี ถ้าไม่มีเทคโนโลยี เช่น BIO FINGER PRINTบริษัท
โนทบุคได้ใช้ เราเป็นผู้นำสัญญาณกันขโมย เราต้องทำ ถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเมืองไทยเปิดตัวพร้อมกับสหรัฐอเมริกา
ฟอร์มูลา : ABT-Z กับ BIO FINGER PRINT แตกต่างกันอย่างไร?
วิบูลย์ : ABT-Z ใช้ความจำในการสั่งรหัส เหมือนเอทีเอม แต่ BIO FINGER PRINT หมายถึงการใช้พันธุกรรมของตัวเราเอง เป็นชีวพันธุกรรม ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยแต่เป็นการหยิบเรื่องใกล้ตัวขึ้นมาเป็นประโยชย์ ดัดแปลง
เพราะลายนิ้วมือของคนเราไม่มีใครเหมือนกันเลยในโลกนี้ ก็เหมือนกับที่เรากำลังศึกษา SMS มันเป็นการซื้ออนาคตมากกว่า อย่างล่าสุด เทคโนโลยี ABT-Z ก็มีบริษัทเช่าซื้อรถ เริ่มมาติดต่อบริษัทรถขนเงิน ก็มาติดต่อ เรื่อง BIO FINGER PRINT เพราะคนอื่นขึ้นไปขับก็ไม่สามารถขับเอาเงินไปได้ มีกลุ่มเฉพาะทางที่ต้องการใช้
ล่าสุด บริษัทเราทำให้กับ ฮีโน 5,000 คัน อันนี้คือความภูมิใจของเรา ฮีโน ต้องการรีโมทเซนทรัลลอคซึ่งขณะนี้บริษัทก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตั้งสัญญาณให้ และเหตุที่ทำให้รถ ฮีโน เพราะ ฮีโนเป็นรถ 24 โวลท์มันเป็นความท้าทาย ถ้าให้ไปทำรถ 12 โวลท์บริษัทไม่ทำเพราะจะไปกระทบตลาดอาฟเตอร์มาร์เกทของบริษัท
เร็วๆ นี้ ญึ่ปุ่นจะให้ทำรถบรรทุกเล็ก ฮีโน อีกซึ่งจะเห็นได้ว่ารีโมทเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ไม่ได้ใช้เฉพาะรถเก๋ง รถพิคอัพแล้วแต่ปัจจุบันได้พัฒนาไปถึงรถบรรทุกแล้ว
ฟอร์มูลา : มีแนวคิดที่จะนำระบบ ABT-Z ไปผสมผสานกับระบบเนวิเกเตอร์หรือไม่ ?
วิบูลย์ : จริงๆ แล้วด้วยประสบการณ์ที่บริษัททำมาเป็นเวลานาน ระบบนี้ในเมืองไทยยูคอมทำอยู่แล้วซึ่งบริษัทก็ได้เคยเข้าไปคุยมาแล้ว ตอนนี้ในสหรัฐอเมริกาใช้แล้ว ในหลายประเทศใช้แล้วส่วนนี้คือโครงการที่จะเข้ามาใช้ในปีหน้า แต่ผมยังเห็นว่าไม่จำเป็นมาก เพราะมองดูแล้วค่าใช้จ่ายสูงนี่คือนโนบายเรา ที่สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัท คือ คุณภาพ และราคายุติธรรมนี่เป็นแค่อารมณ์ในการค้นหา ถามว่าเทคโนโลยีนี้มีไหม มี แต่เรายังไม่มีโครงการ
โครงการในปีหน้าบริษัทจะทำเรื่องระบบการส่ง MESSAGE (SMS)ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบอยู่ถ้าระบบสมบูรณ์ก็จะใช้ได้กับสัญญาณกันขโมยที่เจ้าของรถไม่ต้องโทรเรียกคนขับรถแต่ให้กดที่รีโมทสั่งสัญญาณไปที่รถเรียกคนขับรถมาก็ได้ซึ่งเทคโนโลยีเรื่องกันขโมยเราถือว่าล้ำหน้าไปไม่ต่ำกว่า 3 ปีในตลาด อย่างเช่น SMS หรือตัวที่ใช้โทรศัพท์มือถือ กันขโมยรถร้องจะมีสัญญาณโทรเข้ามือถือคาดว่าระบบนี้ปีหน้าจะเริ่มนำมาใช้ได้แล้ว
ขณะเดียวกันในเรื่องของ ABT-Z ก็อยู่ในตลาดแล้ว ซึ่งสามารถที่จะใช้ร่วมกันได้ ระบบดาวเทียมจะเป็นประโยชน์กับกันขโมยระดับล่างด้วย และจะทำให้ลูกค้ากลุ่มซิทีคาร์สามารถใช้ระบบนี้ได้นี่คือกลยุทธ์ที่จะเข้าไปในทุกกลุ่มลูกค้าของบริษัท แต่สิ่งสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง นั่นคือ การบริการและการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี อย่างเช่น แอนตีโคลนนิง หรือแม้แต่ระบบถอย อุปกรณ์เสริมต่างๆที่ถือว่าช่วยในการป้องกันทั้งสิ้น
ถือว่าในปัจจุบันสัญญาณกันขโมยของบริษัทครบวงจร หรือแม้แต่การติดตั้งก็มีชุด SAFE QUICK Y-SOCKET ( ชุดสายไฟนิรภัยสำหรับติดตั้งสัญญาณกันขโมยรถยนต์) ซึ่งเป็นชุดติดตั้งสายไฟนิรภัยสำเร็จรูป โดยที่บริษัท ได้ร่วมกับบริษัท แอร์โร ซึ่งมันเหมือนกับเป็นครอบครัวหนึ่ง หรือเมืองเมืองหนึ่ง ที่ผมอยากจะเรียกว่า ไฮเทคโนโลยี ซิที ที่มีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการบริการ ชุดสายไฟ นี่คือเหตุที่เราถือว่าเริ่มที่จะเข้าสู่การขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ นั่นก็คือ เครื่องเสียง ซึ่งหลายคนถาม ปัจจุบันบริษัทมีพนักงาน 157 คน แบ่งเป็น ออฟฟิศ แวร์เฮาส์ สาขาต่างๆ โดยในอนาคตก็จะมีร่วมกับดีเลอร์ใหญ่ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่
ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีสัญญาณกันขโมยรถจักรยานยนต์หรือไม่ ?
วิบูลย์ : กำลังร่วมกับมหานครเทคโนโลยีโดยให้ทุนในเรื่องของการวิจัยและพัฒนาสัญญาณกันขโมยรถจักรยานยนต์ที่ดีที่สุดเพื่อเป็นเทคโนโลยีของไทย แล้วจ้างให้ที่อื่นผลิต นี่คือความก้าวหน้าของเอบีจี
ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด เอบีจี ถึงได้รุกตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ ?
วิบูลย์ : ผมคิดมานานแล้ว แต่ใช้หลักการที่ว่า ตราบใดที่ยังไม่ครบวงจรหรือไม่สมบูรณ์แบบในธุรกิจสัญญาณกันขโมย หรือยังไม่ 100 % ในเรื่องความไว้วางใจเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับทั้งดีเลอร์ และผู้ใช้ 12 ปีที่ผ่านมา กันขโมยถือว่าเป็นผู้นำไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า ที่มีนำเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5-6 ประเทศและในแต่ละประเทศนั้นบริษัทสั่งซื้อสินค้าปีหนึ่งเป็นจำนวนมากซึ่งจุดนี้ก็เลยมีความคิดว่าความสมบูรณ์แบบเรื่องสัญญาณกันขโมย เอบีที ถึงจุดที่วางใจได้แล้วมีบริการ 24 ชม. มีทีมวิจัยและพัฒนา
ฟอร์มูลา : ก่อนเข้ามาทำตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ ได้มีการศึกษาตลาดอย่างไรบ้าง ?
วิบูลย์ : ศึกษามามาก แล้วก็ค่อนข้างจะกลัว เพราะว่าตลาดเครื่องเสียงไม่มีกติกาเลยเป็นสินค้าที่ไม่ต้องบริการหลังการขาย เป็นสินค้าที่ใช้ความรู้สึก ไม่มีอะไรบอกได้ ขึ้นอยู่กับราคาเจ้าของบอกว่าอะไรดี ผู้บริโภคไม่มีสิทธิ์รู้ เพราะได้แค่ฟังอย่างเดียว ไม่เหมือนกันขโมยทดสอบได้เองแต่เครื่องเสียงมีตัวผันแปรมาก
ฟอร์มูลา : เอบีจี พร้อมแล้วหรือยังสำหรับตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ ?
วิบูลย์ : เราพร้อมแล้ว โดยเริ่มต้นจากศูนย์ และตอนนี้เริ่มที่จะก้าวแล้ว สินค้าพร้อมแล้วสิ่งสำคัญกว่าทื่อื่นเราจะมีการตรวจเชคสินค้าก่อนออกสู่ตลาดในอนาคตจะทวีความรุนแรงและแตกต่างมากขึ้นปีนี้จะไปอย่างความเข้าใจ การตลาดจะไม่ทุ่มมากแต่ในปีหน้าแน่นอน เพราะในปีนี้ยังมีวิกฤติอยู่ ปีนี้เป็นเพียงการแนะนำตัว แต่ในปีหน้าไม่มีการหยุดเพราะเรามีทีมพร้อมโดยเฉพาะของเครื่องเสียง
ฟอร์มูลา : เลือกสินค้าอย่างไร ?
วิบูลย์ : สินค้าที่จะทำ ต้องมีที่มาที่ไป เมื่อศึกษาแล้วจึงเลือกสินค้ายี่ห้อ BRAVOX (บราวอกซ์) จากประเทศ บราซิล เพราะโรงงานเป็นที่รู้จัก และไม่ซ้ำกับใคร ไม่ได้ตั้งเป้าเป็นอันดับหนึ่งและไม่ต้องการแข่งกับใคร
ฟอร์มูลา : สินค้าจะจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใด ?
วิบูลย์ : จะจับกลุ่มลูกค้าในกลุ่ม บี ถึงเอบวก เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพนำเข้ามาจากต่างประเทศราคาประมาณตั้งแต่ 7,500-10,000 บาท ขึ้นไป แล้วแต่รุ่นของสินค้าเพราะจะมีหลายระดับเหมือนกับกันขโมย
ฟอร์มูลา : ช่องทางการจัดจำหน่ายจะเป็นอย่างไร ?
วิบูลย์ : สินค้าของเราจะพยายามไม่ให้ร้านค้าแข่งขันกันเองโดยจะพยายามกระจายสินค้าไปยังช่องทาง และร้านค้าที่แตกต่างกัน
ฟอร์มูลา : 12 ปี ของ เอบีจี คุณรู้สึกภาคภูมิใจ และคิดว่าประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ?
วิบูลย์ : ปีแรก มีพนักงาน 4 คน ปัจจุบัน มี 157 คน ยอดขายปีแรก ตั้งใจเดือนละ 20 ชุดแต่ปัจจุบันมียอดขายเดือนละ 5,000 ชุด ภูมิใจในครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น คนในครอบครัวขยันทุกคน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : ราชวัตร แสงจันทรา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51677