บันทึกธุรกิจ(formula)
ยนตรกิจ ฯ/ฮอนดาทุ่มงบ 280 ล้านบาท /เคเอฟซี - พิซซาฮัท/เฟอร์มา ฯเปิดโชว์รูม/กรุงไทย ฯ
ยนตรกิจ ฯ
ก่อตั้งมูลนิธิ ลีนุตพงษ์
วิทิต ลีนุตพงษ์ รองประธานกรรมการ มูลนิธิ ลีนุตพงษ์ เปิดเผยว่า การก่อตั้งมูลนิธิมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นทุรกันดารอย่างเป็นรูปแบบชัดเจน และเพื่อเป็นการสานต่อแนวความคิดของ อรรถพร ลีนุตพงษ์ที่ยึดถือปฏิบัติมาตลอดช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่
สำหรับทุนในการจัดตั้งมูลนิธิ ลีนุตพงษ์ นำเงินบริจาคในงานสวดอภิธรรมศพ อรรถพร มาจัดตั้งมีคณะกรรมการทำงานจำนวน 15 คน โดยมี อรรถพงษ์ ลีนุตพงษ์ เป็นประธานกรรมการ
โดยโครงการการกุศลแรกที่ได้ดำเนินการไปแล้วคือ การแข่งขันกอล์ฟการกุศลเพื่อหารายได้ในการจัดซื้อสารานุกรม มอบให้แก่โรงเรียนขาดแคลนในจังหวัดนครพนม ซึ่งมูลนิธิ ฯจะคงดำเนินงานต่อไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้
ฮอนดาทุ่มงบ 280 ล้านบาท
เค ยามากูจิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า
บริษัทได้ร่วมกับผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนดา ทั่วประเทศกว่า 650 แห่งจัดสรรงบประมาณกว่า 280 ล้านบาท ดำเนินโครงการ ฮอนดา เพื่อสังคมไทย ประจำปี 2546
โดยครั้งนั้จะดำเนินกิจกรรมที่มุ่งเน้นส่งเสริมสังคมด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม การขับขี่ปลอดภัยรวมถึงกิจกรรมส่งเสริมสังคมในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษา ได้มีโครงการใหม่ "ดรีมโพรเจคท์" หรือโครงการสานฝันเพื่อการศึกษาไทยซึ่งเป็นโครงการตอบสนองลักษณะเฉพาะของสถานศึกษาในแต่ละพื้นที่
สำหรับโครงการ "ดรีม โพรเจคท์" มีหลักการคือ ให้การสนับสนุนสถานศึกษาที่ห่างไกลซึ่งภาครัฐไม่สามารถให้การสนับสนุนได้อย่างเต็มที่ โดยมีงบประมาณสนับสนุนตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 1ล้านบาท ต่อหนึ่งสถานศึกษา มีเป้าหมายดำเนินงานทั้งสิ้น 30 โครงการ ซึ่งลักษณะโครงการจะมีดังนี้
เช่น การสร้างห้องสมุด การสร้างอาคารเรียน การสร้างหอพัก หรือโครงการอาหารกลางวัน เป็นต้น
เคเอฟซี - พิซซาฮัท
จัดแรลลีการกุศล
บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ ผู้บริหารและผู้ให้สิทธิ์แฟรนไชส์ ร้านอาหาร บริการด่วน เคเอฟซี พิซซาฮัทในประเทศไทย ได้ก่อตั้ง โครงการ"เอเอฟซี-พิซซาฮัท เพื่อสังคม" ให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการสร้างโรงเรียนให้เด็กยากจนในชนบท รวมถึงการช่วยเหลือองค์กรต่างๆ เช่นบริจาคน้ำดื่มให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม บริจาคเงินให้สภากาชาดไทย เป็นต้น
สำหรับในปีนี้ ได้จัดการแข่งขัน แรลลี เคเอฟซี-พิซซาฮัท เพื่อสังคม สำหรับประชาชนทั่วไป เส้นทางกรุงเทพ ฯ -ปราจีนบุรี วันที่ 10-11 พค. นี้ เพื่อนำเงินรายได้จากการแข่งขันร่วมสมทบทุนกับโครงการ ฯ
เฟอร์มา ฯเปิดโชว์รูม
แฟร์รารี-มาเซราตี
พงษ์นรินทร์ เมธีวัชานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท เฟอร์มา มอเตอร์ สปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานแห่งใหม่นี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งอยู่ที่หลักสี่ บนพื้นที่มากกว่า 2 ไร่ ซึ่งมีการขยายช่องบริการรถยนต์ แฟร์รารี จำนวน 13 ช่อง
และรถยนต์ มาเซราตี จำนวน 16 ช่อง เพื่อรองรับในการให้บริการแก่ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นพร้อมทั้งทำให้ลูกค้าที่เข้ามารับบริการสามารถได้รับรถได้รวดเร็วทันใจ
พร้อมกันนี้เพื่อให้บรรลุนโยบายที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ในการนำรถเข้ามารับบริการและเข้ามาเยี่ยมชมโชว์รูม
สำหรับรถรุ่นใหม่ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในปีนี้ จะมีรถ แฟร์รารี รุ่น เอฟ 360 โมเดนา/เอฟ 360สไปเดอร์/575 เอม มาราเนลโล/456 จีที/จีทีเอ ในส่วนของ มาเซราตี จะนำรถสปอร์ท มาเซราตีสไปเดอร์ และคูเป ซึ่งหลังจากที่โรงงาน แฟร์รารี เข้ามาดูแลเทคโนโลยีการผลิตของ มาเซราตีส่งผลให้ในปัจจุบันเทคโนโลยีความล้ำสมัยต่างๆ ที่มีอยู่ใน แฟร์รารี ก็จะมีอยู่ใน มาเซราตี ด้วยซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี
กรุงไทย ฯ
ออกบัตร ออโทคาร์ด
นิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่าการออกบัตรวีซา/มาสเตอร์คาร์ดกรุงไทย-ออโทคาร์ดเป็นผลิตภัณฑ์นำร่องที่เจาะลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะซึ่งจะช่วยขยายธุรกิจได้เป็นอย่างดีโดยบัตรนี้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายทั้งชายและหญิง อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท/เดือนหรือมีเงินฝากในบัญชีกับสถาบันการเงินพอสมควร เป็นผู้ที่มีรถและใช้รถเป็นประจำ
รวมทั้งใส่ใจในการดูแลรถยนต์อยู่เสมอ และมักใช้จ่ายเพื่อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับรถซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ถือว่าใหญ่มาก เมื่อพิจารณาจากจำนวนรถยนต์ในประเทศไทย
สำหรับจุดเด่นของบัตรดังกล่าว คือ สิทธิประโยชน์และส่วนลดที่ครอบคลุมทุกเรื่องของรถยนต์เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรักรถอย่างเต็มที่ ได้แก่ กลุ่มประดับรถยนต์ กลุ่มเครื่องเสียงกลุ่มช่วงล่าง ยาง ล้อแมก กลุ่มบริการบำรุงรักษา กลุ่มอู่และศูนย์บริการกลุ่มบริการฉุกเฉินและประกันภัย และกลุ่มกิจกรรมพิเศษที่เปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น แรลลี คาราวาน เป็นต้นคาดว่าในปีนี้จะมีผู้สมัครบัตรวีซา/มาสเตอร์คาร์ดกรุงไทย-ออโทคาร์ด ประมาณ 30,000 รายในปี 2546
มิตซูบิชิแถลงนโยบาย ปี 2546
บริษัท เอ็มเอ็มซี สิทธิผล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ฯมีการคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์โดยรวมในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 450,000-470,000 คันเพิ่มขึ้นจากปี2545 ประมาณ 10-15 % โดยตลาดรถพิคอัพยังมีสัดส่วนอยู่เกือบ 60 %ซึ่งคาดว่าปีนี้จะแข่งขันรุนแรงมากยิ่งขึ้น ส่วนตลาดรถยนต์นั่งคาดว่าจะมีส่วนแบ่งประมาณ 30 % โดยมิตซูบิชิ ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 8 % หรือประมาณ 34,000-35,000 คัน
พร้อมกันนี้บริษัทได้มีการปรับภาพลักษณ์ใหม่โดยจะยึดหลัก 3 P คือ PERFORMANCE PASSIONและ PERFECTION ซึ่งจะเริ่มจากการทำแผนกส่งเสริมการขายใหม่ เน้นสมรรถนะ คือความแรงที่สะใจในการขับขี่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่จะเป็นตัวนำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ทำให้ มิตซูบิชิ
สำหรับในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ที่ผ่านมาได้เพิ่มเครื่องยนต์ 2,800 เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ ในรุ่น4WD เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความเร็วนอกจากนี้จะมีรถยนต์ที่เตรียมนำเข้ามาจำหน่ายอีก เช่น แลนด์เซอร์ เอโวลูชัน 8 แมกมาซึ่งเป็นรถขนาดกลางเครื่องยนต์ 3,500 ซีซี จากประเทศออสเตรเลีย และ มิตซูบิชิ แอร์ทเรค และกรันดิส ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ รถสเปศ แวกอน เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งซึ่งมีแผนจะนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้
เชลล์ ฯ
เชลล์ เพียวรา ประสบความสำเร็จ
ธีรพจน์ วัชราภัย ประธาน บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า
หลังจากที่ได้วางตลาดน้ำมันดีเซล "เชลล์ เพียวรา" เมื่อต้นปี 2545 ที่ผ่านมาโดยเริ่มจากการให้บริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ 150 แห่งในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑลพร้อมตั้งเป้าในปีแรกว่าจะมีลูกค้าหันมาใช้ เชลล์ เพียวรา ประมาณร้อยละ 20แต่ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ บริษัทจึงได้ขยายการให้บริการ เชลล์ เพียวรา ดีเซลในสถานีบริการน้ำมัน 488 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
สำหรับในปีนี้ บริษัท ฯ ยังคงเน้นที่จะสร้างการจดจำและการรับรู้ในตราสินค้าและคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมเหนือน้ำมันดีเซลตัวอื่น โดยมุ่งเน้นสร้างโอกาสทดลองใช้ผลิตภัณฑ์แก่ผู้บริโภคเพื่อให้รู้สึกได้ถึงความแตกต่างในเรื่องประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดน้ำมันดีเซลในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตร้อยละ 6ในขณะที่อัตราการเติบโตของน้ำมันดีเซลของเชลล์อยู่ที่ร้อยละ 10
มีส่วนแบ่งทางการตลาดของน้ำมันโดยรวมอยู่ที่ร้อยละ 17.7 คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 0.5
ผลิตภัณฑ์ 3เค ฯ
เปิดตัว สินค้าใหม่พร้อมบริการ
วีรวัฒน์ ขอไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ 3เค จำกัด เปิดเผยว่าจากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัท ฯตั้งเป้าที่จะครองอันดับหนึ่งในธุรกจแบทเตอรีในประเทศไทยทั้งนี้จากการเติบโตในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 15 % และบริษัท ฯ ได้คาดว่าในปีนี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า15 % หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับแผนงานของบริษัท ฯในปีนี้เพื่อให้บรรลุยอดขายนั้นจะเน้นที่กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตลาด คือแบทเตอรีเกรดสูง รุ่น PREMIUM ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าและอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบทเตอรีทั่วไป พร้อมกันนี้ยังได้ออกบริการ "ROADSIDEASSISTANT" บริการลากรถให้กับลูกค้าที่ใช้แบทเตอรีของบริษัท ในยามฉุกเฉินโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล จะสามารถเรียกใช้บริการได้ฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนครั้งบริการ และคาดว่าจะมีการขยายบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
เมร์เซเดส-เบนซ์
ประกาศรักษาแชมพ์ตลาดรถหรู
คาร์ล ไฮนซ์ เฮกค์เฮาเซน ประธาน บริษัท เดมเลอร์ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากภาพรวมของตลาดรถหรูในปีที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 11,272 คัน โดยแบ่งเป็นยอดขายของเมร์เซเดส-เบนซ์ 4,097 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่า 36 %ซึ่งบริษัทสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถหรูของประเทศไทยได้เป็นเวลา 2 ปีซ้อน และในปีนี้บริษัทคาดว่าจะรักษาความเป็นแชมพ์ในตลาดรถหรูต่อไปด้วยยอเขายที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5,100 คันรวมถึงการบรรลุเป้าหมาย 10,000 คันในอนาคต
สำหรับในปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นที่กาารนำเสนอเทคโนโลยี โดยได้แนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดไม่ว่าจะเป็นซีแอลเค กาบริโอเลต์/อี 55 เอเอมจี/ซี 32 เอเอมจี/เอสแอล 350 และ เอมแอล โมเดล 2003
ทั้งนี้บริษัทยังคงเน้นนโยบายการให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตเพื่อคุณภาพของรถยนต์เมร์เซเดส-เบนซ์ ทุกคันที่ออกจากโรงงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทยึดถือมาตลอดดังจะเห็นได้จากปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001:2000 จากบริษัท TUV RHEINLAND ซึ่งถือเป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานนี้
นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังได้วางแผนด้านการพัฒนาบุคลากรด้านต่างๆ
ทั้งภาคการผลิตที่เน้นการฝึกอบรมด้านเทคนิคทุกขั้นตอนการให้ความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริงของพนักงาน และการรักษามาตรฐานผู้จำหน่ายทั่วประเทศโดยเน้นการปรับปรุงรูปลักษณ์โชว์รูมให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : บันทึกธุรกิจ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51609