เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ดับเบิลแชมพ์ของ แฟร์รารี อีกสมัย
บนเส้นทางการแข่งขันศึก ฟอร์มูลา วัน ประจำฤดูกาลปี 2002 แม้ว่าจะขาดสีสันเร้าใจ ลดความตื่นเต้นลงไปมาก หลังจากสมรภูมิแห่งนี้ถูกผูกขาดชัยชนะโดยทีม แฟร์รารี ไปโดยปริยายด้วยการคว้าแชมพ์ไปครองทั้งหมด 11 สนาม ของการแข่งขันที่ผ่านมาทั้งหมด 13 สนาม เหลือการแข่งขันอีกเพียง 4สนามสุดท้ายที่เหลือ รูเบนส์ บาร์ริเชลโล มีสิทธิ์เข้าป้ายเป็นอันดับแรกหลังจาก ชอง ทอดท์ ผู้บริหารทีมแฟร์รารี ชาวฝรั่งเศส ออกมาประกาศจะผลักดัน "รูบินโญ" ขึ้นแทนรองแชมพ์โลกให้ได้ด้วยทุกวิถีทางเพื่อให้ทีม แฟร์รารี ปฏิบัติภารกิจในปี 2002 อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าจำเป็นจะต้องใช้ "ทีมออร์เดอร์" ก็ตาม ซึ่งครั้งหนึ่งทางทีมเคยกระทำเรื่องฉาวโฉ่ในรายการ ออสเตรีย กรองด์ปรีซ์มาแล้ว จนกระทั่งถูกทาง เอฟไอเอ ลงโทษปรับเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณ 40 ล้านบาท
ทีม วิลเลียมส์ ยังคงเป็นทีมเดียวที่มีความเป็นไปได้ในการเบียดลุ้นชิงอันดับรองแชมพ์โลกกับ บาร์ริเชลโลหลังเสร็จศึก ฮังการี กรองด์ปรีซ์ นักขับทั้ง 2 ของทีมมีคะแนนสะสม 40 คะแนนเท่ากัน ตามาด้วยทีม แมคลาเรน ส่วนทีม เรอโนลต์ ต้องขับเคี่ยวกับทีม เซาเบอร์ เพื่อชิงอันดับ 4 ประเภททีมจนถึงโค้งสุดท้ายอย่างแน่นอน
เยอรมนี กรองด์ปรีซ์
มิคาเอล คว้าแชมพ์ในบ้านเกิด
หลังจาก มิคาเอล ชูมาเคร์ สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์การแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน ด้วยการคว้าแชมพ์โลก 5 สมัยมาหมาดๆ ในศึก ฝรั่งเศส กรองด์ปรีซ์ สนามต่อมาที่บ้านเกิดของเขา มิคาเอล ทะยานF2002 ผ่านธงตราหมากรุกไปเป็นคันแรก แบบม้วนเดียวจบอีกครั้ง ที่ ฮกเคนไฮน์ เซอร์กิท ในรายการเยอรมนี กรองด์ปรีซ์ เป็นครั้งที่ 2 ของเขาที่มาคว้าแชมพ์ได้ที่รายการนี้ หลังจากเคยทำเอาไว้เมื่อปี1995 ขณะสังกัดทีม เบเนททัน และการคว้าชัยชนะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 62 ในชีวิตการแข่งขันพร้อมกับทำสถิติการคว้าแชมพ์รวม 9 สนามในหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดอยู่ในขณะนี้ที่เราเคยทำเอาไว้เทียบเท่า"เจ้าหนวดหิน" ไนเจล แมนเซลล์ อดีตแชมพ์โลกชาวอังกฤษ ปัจจุบันหันไปสนใจในกีฬา กอล์ฟ จนถึงขั้น เป็นผู้จัดการแข่งขันรายการ ยูโรเพียน ซีเนียร์ ทัวร์ ในปีหน้า
มิคาเอล ชูมาเคร์ นักขับวัย 33 ปี ชาวเยอรมัน พ่อลูก 2 รายนี้ ยังมีเวลาเหลือมากพอกับการโค่นสถิติเดิมในอีก 5 สนามที่เหลือของฤดูกาล โดยในปีนี้คว้าแชมพ์ไป 9 สนามจาก 12 สนามที่ผ่านมา ส่วนอีก 3สนามแบ่งกันไปคนละสนามระหว่าง ราล์ฟ ชูมาเคร์/เดวิด คุลธาร์ด และรูเบนส์ บาร์ริเชลโล
ทีม วิลเลียมส์ นับว่าประสบความสำเร็จในรายการนี้เช่นกัน ด้วยการขึ้นโพเดียมในอันดับ 2 และ 3 ฮูอันปาบโล มนโตยา เข้าป้ายอันดับ 2 ตามมาด้วย ราล์ฟ ส่วนอันดับ 4/5 และ 6 เป็นของ บาร์ริเชลโล/คุลธาร์ดและไฮด์เฟลด์
การแข่งขันในรายการนี้มีรถจบการแข่งขันเพียง 9 คันเท่านั้น จาก 21 คันที่ออกจากจุดสตาร์ท นักขับที่ไม่ได้ลงแข่งขันยังคงเป็น อเลกซ์ ยัง นักขับน้องใหม่ชาวมาเลเซียของทีม มินาร์ดี เช่นเดิม ทำเวลาในรอบคลอลิฟายเกิน 107 % ของเวลาผู้ทำโพลโพสิชันได้ นับว่าเป็นสนามที่ 3 แล้วที่ อเลกซ์ ยัง ทำเวลาไม่ผ่านรอบควอลิฟาย
ฮกเคนไฮม์ เซอร์กิท สนามประลองความเร็วในรายการนี้ แต่เดิมเป็นสนามทดสอบของค่ายรถระดับหรู เบนซ์แห่งเยอรมนี ถูกนำมาเป็นสนามแข่ง ฟอร์มูลา วัน เป็นครั้งแรกในปี 1970 เนื่องจากสนาม นืร์บวร์กริงก์ ได้ทำการปรับปรุงสนามใหม่ มีเรื่องน่าเศร้าใจที่ยังอยู่ในความทรงจำ จิม คลาค อีกหนึ่งตำนานนักแข่งได้มาเสียชีวิตที่สนามแห่งนี้ในการแข่งขัน ฟอร์มูลา 2000 เมื่อปี 1968
การแข่งขันในปีนี้ได้มีการปรับปรุงสนามขึ้นใหม่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น ความยาวต่อรอบเท่ากับ 4.574 กม.แข่งขันรวม 67 รอบ ระยะทางรวม 306.458 กม. มิคาเอล ทำความเร็วต่อรอบได้ดีที่สุด 1 นาที 16.462วินาที และทำเวลาในรอบควอลิฟายดีที่สุดด้วยเวลา 1 นาที 14.389 วินาที
แจกคี อิกซ์ สังกัดทีม แฟร์รารี ถูก โจเชน รินดท์ (JOCHEN RINDT) ทะยานรถ โลทัส เฉือนเข้าเส้นชัยคว้าแชมพ์แรกของรายการนี้เพียงเสี้ยววินาที
ในรายการนี้มี นักขับ 4 รายที่มาคว้าแชมพ์ 3 สมัยด้วยกัน คือ ฮูอัน มานูเอล ฟันโจ/แจคกี สจวร์ท/เนลสัน ปิเกต์และ อาร์ยทัน เซนนา
ในปี 1998 มิคา ฮัคคิเนน มาคว้าแชมพ์ได้ที่เซอร์กิทแห่งนี้ ด้วยเวลาที่เร็วกว่า เดวิด คุลธาร์ด เพื่อนร่วมทีมแมคลาเรน เพียง 0.427 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นเวลาสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์ การแข่งขันในรายการ เยอรมนีกรองด์ปรีซ์
รูเบนส์ บาร์ริเชลโล คว้าแชมพ์แรกในชีวิต เอฟ 1 ได้ที่สนามแห่งนี้ เมื่อปี 2000 โดยสตาร์ทจากอันดับ18 หลังจากลงแข่งขันเป็นครั้งที่ 82 ส่วน นิคิ เลาดา มาประสบอุบัติเหตุอย่างแรงที่สนามแห่งนี้เมื่อปี1976 จนได้สมญานามว่า "นักขับกระดูกเหล็ก" ในปีต่อมา เลาดา กลับมาคว้าแชมพ์ได้ในเซอร์กิทแห่งนี้เป็นผลสำเร็จ
รายการ เยอรมนี กรองด์ปรีซ์ ฤดูกาลปี 2002 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 50 หลังจากถูกบรรจุอยู่ในตารางการแข่งขันฟอร์มูลา วัน ในปี 1951 โดยการแข่งขันจัดขึ้นรวม 3 เซอร์กิทด้วยกัน ตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมาเยอรมนี กรองด์ปรีซ์ จัดขึ้นที่ ฮกเคนไฮม์ รวม 25 ครั้ง ที่ นีร์บวร์กริงก์ เซอร์กิท 24 ครั้ง และที่ เออุส (AVUS) เพียงครั้งเดียว เมื่อปี 1959 ส่วนในปี 1960 รายการ เยอรมนี กรองด์ปรีซ์ ไม่มีบรรจุอยู่ในตาราง
มิคาเอล เก็บ 10 แต้มเต็มในสนามบ้านเกิด มีแต้มสะสมรวม 12 สนาม 106 แต้ม
[table]ผลการแข่งขัน เยอรมนี กรองด์ปรีซ์
อันดับ, ผู้ขับ, ทีม, เวลารวม
1, มิคาเอล ชูมาเคร์, แฟร์รารี, 1 ชั่วโมง 27 นาที 52.078 วินาที
2 ,ฮูอัน ปาบโล มนโตยา, วิลเลียมส์, + 10.503 วินาที
3,ราล์ฟ ชูมาเคร์, วิลเลียมส์, + 14.466 วินาที
4, รูเบนส์ บาร์ริเชลโล, แฟร์รารี ,+ 23.195 วินาที
5, เดวิด คุลชาร์ด, แมคลาเรน, + 1 รอบ[/table]
ฮังการี กรองด์ปรีซ์
แฟร์รารี แชมพ์โลกทีม 4 สมัยซ้อน
หลังจาก แฟร์รารี F2002 ผ่านจุดฟินิชที่ ฮังกาโรริง เซอร์กิท ทั้ง 2 อันดับแรก หลังจบการแข่งขันรวม 77 รอบสนาม ส่งผลให้แชมพ์โลกประเภททีมผู้ผลิตตกเป็นของ แฟร์รารี ไปในทันที พร้อมกับการคว้าแชมพ์ประเภททีม 4 สมัยซ้อนโดย รูเบนซ์ บาร์ริเชลโล ขึ้นโพเดียมรับแชมพ์ประจำรายการ ฮังการีกรองด์ปรีซ์ ไปครอง เป็นการคว้าชัยชนะสนามที่ 2 ของฤดูกาลปี 2002 และเป็นแชมพ์ครั้งที่ 3 ในชีวิตการแข่งขัน
ฮังการี กรองด์ปรีซ์ สนามที่ 13 ของ 17 สนามประจำฤดูกาลปี 2002 แข่งขันที่ ฮังกาโรริง เซอร์กิทห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงบูดาเปสต์ เป็นระยะทาง 12 ไมล์ บริเวณแถบขอบสนามเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ข้างแทร็คยังมีหมู่บ้านชนบทรายรอบเส้นทางวิ่งค่อนข้างแคบและพื้นผิวไม่เรียบ มีโค้งที่ต้องชะลอความเร็วลงมากอยู่หลายโค้งด้วยกัน
รายการที่ถูกบรรจุลงในตารางการแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน เป็นครั้งแรก เมื่อปี 1986 แต่การแข่งขันที่ฮังการี มีมานานตั้งแต่ก่อนช่วงสงครามโลกราว 50 ปีที่ผ่านมา โดยใช้สนามที่ เนพลิเกท พาร์ค (NEPLIGET PARK) กลางกรุง บูดาเปสต์ เป็นสนามแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1936 ตาซิโอ นูโวลารี นักขับคนแรกที่มาคว้าแชมพ์ได้ที่นี่
การแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน ห่างหายไปจากเซอร์กิทชานเมือง บูดาเปสต์ เป็นเวลายาวนานด้วยสาเหตุหลาย ประการ โดยเฉพาะประเทศที่ขึ้นชื่อว่า "หลังม่านเหล็ก" แห่งนี้
ในปี 1986 เนลสัน ปิเกต์ ทีม วิลเลียมส์ มาคว้าชัยชนะครั้งแรกของรายการ ฮังการี กรองด์ปรีซ์ หลังจากขับเคี่ยว อาร์ยทัน เซนนา อย่างหนักหน่วง และคว้าแชมพ์ได้อีกในปีต่อมาจากการที่รับ "ส้มหล่น" เมื่อไนเจล แมนเซลล์ ต้องออกจากการแข่งขันไปขณะที่นำอยู่หัวแถว เมื่อนอทล้อหลุดขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 6 รอบสุดท้าย
แดมอน ฮิลล์ มาคว้าแชมพ์ครั้งแรกในชีวิตการแข่งขันได้ในรายการนี้เมื่อปี 1993 มิคาเอล คว้าแชมพ์ให้กับทีม เบเนททัน ได้ในปีต่อมา จนเขาถูกจับตามองเพราะขณะนั้นเขาเข้ามาในฐานะของ "ลุคกี" ปี1995 แดมอน ฮิลล์ คว้าแชมพ์ ให้ทีม วิลเลียมส์ อีกครั้ง และปี 1996 ทีม วิลเลียมส์ เรียงแถวเข้าเส้นชัยใน 2 อันดับแรก โดย ชากส์ วิลล์เนิฟ มาที่ 1 ตามมาด้วย แดมอน ฮิลล์
ทีม โตโยตา ได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะใช้นักขับ 2 คน ในปัจจุบันคือ มิคา ซาโล และอัลลัน แมคนิชถึงแค่จบฤดูกาลนี้เท่านั้น โดยได้นักขับคนใหม่จะมาขับแทนในปีหน้าแล้ว 1 ราย คือออลีวีแอร์ ปานีส ส่วนนักขับอีกรายยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่นอน
ทางด้านทีม แจกวาร์ สถานการณ์ยังย่ำแย่ จนถึงกับมีการเปลี่ยนตัวนักขับและผู้อำนวยการของทีม
ไปแล้ว โดย มาร์ค เวเบอร์ วัย 25 ปี ชาวออสซี จากทีม มินาร์ดี จะมาขับแทน เอดดี เออร์ไวน์ โดยจะ
ให้ เออร์ไวน์ ไปเป็นนักขับทดสอบ
ส่วน นิคิ เลาดา แนวโน้มสูงสุดที่จะถูกปลดจากตำแหน่งผู้อำนวยการทีม แจกวาร์ ที่มีบริษัท ฟอร์ดเป็นบริษัทแม่ หลังจากผลงานตลอดทั้งปีไม่น่าประทับใจ และทางทีม ฟอร์ด ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้สนับสนุนด้านเครื่องยนต์ให้กับทีม จอร์แดน ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ไฮนซ์-ฮารัลด์ ฟเรนท์เซน ประกาศอำลาทีม แอร์โรว ไปก่อนหน้านี้ จะไปขับให้กับทีม เซาเบอร์ ในปีหน้าแทน เฟลิเป มัสซา ที่ผลงานในปีที่ยังไม่ดีพอที่อาจจะเป็นผลให้ทีม เซาเบอร์ ไม่สามารถป้องกันอันดับ 4 ประเภททีมไว้ได้
[table]ผลการแข่งขัน ฮังการี กรองด์ปรีซ์
อันดับ, ผู้ขับ, ทีม, เวลารวม
1, รูเบนส์ บาร์ริเชลโล ,แฟร์รารี, 1 ชั่วโมง 41 นาที 49.001 วินาที
2, มิคาเอล ชูมาเคร์ ,แฟร์รารี, + 0.434 วินาที
3, ราล์ฟ ชูมาเคร์ ,วิลเลียมส์, + 13.355 วินาที
4, คีมี ไรค์โคเนน, แมคลาเรน, + 29.479 วินาที
5, เดวิด คุลธาร์ด ,แมคลาเรน, + 37.800 วินาที[/table]
[table]สรุปคะแนนสะสมรวม 13 สนาม
ประเภทผู้ขับ,,,
อันดับ, ผู้ขับ, ทีม, คะแนนรวม,
1, มิคาเอล ชูมาเคร์ ,แฟร์รารี, 112
2 ,รูเบนส์ บาร์ริเชลโล ,แฟร์รารี, 45
3, ราล์ฟ ชูมาเคร์ ,วิลเลียมส์, 40
4,ฮูอัน ปาบโล มนโตยา,วิลเลียมส์, 40
5 ,เดวิด คุลธาร์ด, แมคลาเรน ,34[/table]
[table]ประเภททีม,,,
อันดับ, ทีม, คะแนนรวม
1 ,แฟร์รารี, 157
2, วิลเลียมส์, 80
3, แมคลาเรน ,54
4,เรอโนลต์, 15
5, เซาเบอร์, 11[/table]
เรื่องโดย : ไททาเนียม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51348