บทความ
การแข่ง "ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ 2002" สนาม 2
ศึกความเร็วทางเรียบ "ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ 2002" หรือ "ทีจีทีซี 2002" สนามที่ 2ระเบิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมาสนามนี้เป็นการตอกย้ำความมันขึ้นไปอีกระดับด้วยการจัดแข่งที่สนามบิน บน. 2 จังหวัดลพบุรีหลังจากที่สนามแห่งนี้ว่างเว้นจากคราบยาง และเขม่าไอเสียมาถึง 19 ปี
การกลับมาอีกครั้งของสนามแข่ง บน.2 ยังคงความขลัง และโหดอย่างไม่เสื่อมคลายรูปแบบของสนามแข่งรูปวงรีน่าจะเป็นแทรคแบบไฮสปีดแต่เมื่อได้สัมผัสแล้วต้องยกนิ้วให้กับผู้จัดที่สามารถวางผังสนามความกว้าง 35 ม. และยาว 2.250 กม.ให้เป็นทางแข่งที่ครบสูตร ไม่ว่าจะเป็นทางตรงยาวเหยียดกว่า 600 ม. ตั้งแต่หน้าแกรนด์สแตนด์ที่รถแข่งทำความเร็วได้กว่า 160 กม./ชม. ก่อนหักเข้าโค้งขวาสุดทางตรง แล้วเปิดออกเป็นโค้งขวาความเร็วสูงเบารถอีกครั้งเพื่อเข้าโค้งเอสขวา เร่งออกมาเข้าสู่โค้งเอสซ้ายอีกที สุดทางตรงหักขวาเก้าสิบองศาเร่งส่งเข้าชิเคนพุ่งออกมาเข้าสู่โค้งเอสผ่านหน้าแกรนด์สแตนด์ด้วยแทรคที่มีความกว้างมากจึงทำให้ผู้จัดสามารถวางรูปแบบของสนามได้หลากหลายรูปแบบการแข่งในสนามนี้ทางทีมต้องมีความพร้อมทั้งรถ ทั้งคนอย่างไรก็ตามเหนือสิ่งอื่นใดคือความปลอดภัยที่ทางผู้จัดให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
ในช่วงเช้าจะเป็นการซ้อมของรถแข่งทุกรุ่นทั้ง สปอร์ทชาลเลนจ์ (เอสซี) กรุพเอน คลาสส์-ซี กรุพเอน-คลาสส์ เอและบี ปิดท้ายด้วย สปอร์ทแกรนด์แชมเพียน (จีซี) สิบโมงตรงเริ่มการแข่งขันของรุ่น เอสซีซึ่งเป็นรถแข่งที่นั่งเดี่ยว ล้อปิด ใช้เครื่องยนต์ 5A-FE 16 วาล์ว ความจุ 1.6 ลิตร กับน้ำหนักตัวรถระดับ 650 กก.ในรุ่นนี้มีรถลงแข่งด้วยกัน 8 คันทำการแข่งขัน 20 รอบ ผู้ทำเวลาควอลิฟายอันดับหนึ่ง 1:09.965 นาที คือโอภาสธนวิวัฒน์ ผลการแข่งขันสามอันดับแรกคือ วิชพงษ์ มโนมัธย์/ ไชยวุฒิ พึ่งทอง และ มล.อภิมงคล โสณกุล
ต่อด้วยรุ่นกรุพเอน คลาสส์-ซี เป็น ฮอนดา สามประตูเครื่อง 1.6 ลิตรทั้งหมด มีรถเข้าตำแหน่งกริดสตาร์ท20 คัน หัวแถวทำเวลาได้ 1:10.463 นาที โดย ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุลรุ่นนี้จัดว่าเป็นสีสันของการแข่งขันรายการหนึ่ง การแข่งขันผ่านไป 27 รอบผู้ผ่านธงตาหมากรุกสามอันดับแรกคือ คณิน วิเชียรวณิชกุล/สัชฌุ สุรวุฒิวงษ์ และ คมกริช อมรกุล
จากนั้นจะเป็นช่วงพักเที่ยง ซึ่งปกติจะมีรายการเดินชมแพดดอค แต่สนามนี้แพดดอคอยู่ไกลมากถ้าจะเข้าชมต้องใช้เวลามาก รายการนี้จึงถูกตัดออกไป
บ่ายโมงตรงเริ่มการแข่งขันกรุพเอน คลาสส์-เอ และบี มีโตโยตาเข้ามาเป็นสีสันอยู่สองคันนอกจากนั้นเป็นฮอนดา ทั้งหมดตั้งแต่สามประตูดัวเก่า ตัวนอก ไล่ไปถึง อินเทกรา ทำการแข่งขันทั้งหมด 27 รอบผู้ทำเวลาควอลิฟายดีที่สุดคือ อาภาธร กรรณสูตร เวลา 01:08.404 นาทีและผู้ที่ผ่านเส้นฟินิชสามอันดับแรกของทั้งสองรุ่นคือ อาภาธร กรรณสูตร/ณัจวุฒิ เจริญสุขวัฒนะ ในคลาสส์ เอตามมาดิดๆ ด้วยนักแข่ง คลาสส์ บี อีกสองคันของ อภิชัย พันธุ์คงชื่น และอมต เอมอมรจิต/พันธกานต์ ทองเจือ คลาสส์-เอ อีกคัน และคลาสส์-บี อันดับสามคือ ชินพล จงประเสริฐ
การแข่งรุ่น จีซี ที่ถือเป็นไฮไลท์ของรายการนี้จะเป็นช่วงของการถ่ายทอดทางยูบีซี ตั้งแต่พิธีเปิดจนเริ่มการแข่งขันเวลา 14.50 น. รถแข่งรุ่นนี้แตกต่างจากรุ่นเอสซีในหลายๆจุดตั้งแต่ชิ้นครอบเฟรมที่ทำแยกออกสามส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกคือชิ้นค๊อคพิท อีกสองชิ้นครอบส่วนหัวและท้ายรถ เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง 4A-GE ทั้งสองรุ่นทั้ง 16 วาล์ว และ 20 วาล์วกติกาอนุญาตให้ทำการปรับแต่งตัว 16 วาล์วได้ค่อนข้างมาก แต่บีบช่องอากาศเข้าเครื่องให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 38มม. ส่วนตัว 20 วาล์วนั้นค่อนข้างจำกัดการปรับแต่ง แต่มีขนาดของช่องอากาศเข้าเครื่องกว้างถึง 50 มม.การจะเลือกใช้เครื่องไหนก็ขึ้นกับว่าทางทีมสามารถขุนกำลังได้จากเครื่องไหนมากกว่าและที่สำคัญคือความคงทนที่เพียงพอสำหรับการแข่งขันกึ่งเอนดูรานศ์ของ จีซี
การแข่งขันในรุ่น จีซี จะต่างจากรุ่นอื่น โดยบังคับให้รถทุกคันต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางในระหว่างรอบที่ 11จนถึงรอบที่ 28 ในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงความสามารถในระดับทีมเวอร์คไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเลือกจังหวะเข้าพิท และความพร้อมเพรียงของช่างเมื่อรถแข่งเข้ารับการเซอร์วิศ ซึ่งทางผู้จัดได้วางตำแหน่งพิทไว้หน้าแกรนด์แสตนด์เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสความมันอีกรูปแบบหนึ่ง
การแข่งขัน จีซี รุ่นนี้มีรถแข่งเข้าร่วมการแข่งถึง 18 คัน โดย สุพจน์ กสิกรรมเป็นผู้คว้าตำแหน่งโพลด้วยเวลา ควอลิฟาย 1:01.995 นาทถ้าชินกับรถมากกว่านี้อาจจะทำเวลาควอลิฟายได้ต่ำกว่านาที หลังการแข่งขันผ่านไป 33 รอบสามคนแรกที่สามารถขึ้นไปยืนบนโพเดียมคือ ปิติ ภิรมย์ภักดี อันดับสอง ธนะวุฒิ ภิรมย์ภักดี และเมฆสิทธิ์ วีรปรสุ
ถ้าพลาดการแข่งขันครั้งนี้ ยังมีสนามที่สามที่ยังจัดที่สนามบินบน. 2 ในวันที่ 11 สิงหาคมเดินทางจากกรุงเทพฯ แนะนำให้ใช้เส้นทางพหลโยธิน แล้วใช้ทางเลี่ยงเมืองสระบุรีเมื่อเข้าสู่จังหวัดลพบุรีจะพบกับวงเวียนพระบรมรูปพระนารายณ์ฯ ก็เลี้ยวไปทาง อ. โคกสำโรงผ่านแยกสัญญาณไฟจราจรอีกสองแยก คอยสังเกตทางขวาจะเห็นกองบัญชาการการบินเลี้ยวเข้าทางช่องทางสองจะตรงกับสนามแข่งพอดี ถ้าต้องการจะไปดูการแข่งขันในคราวหน้า หากไปถึงก่อนสิบโมงจะยังพอมีที่นั่งบนแกรนด์สแตนด์เหลืออยู่ ซึ่งจะได้สัมผัสกับการแข่งขันอย่างใกล้ชิดนอกจากนั้นยังมีที่ดูในบริเวณลานจอดเฮลิคอพเตอร์ตามแนวยาวของสนามที่สามารถรับผู้เข้าชมได้กว่าห้าพันคน
วงการแข่งรถของเราแม้จะกลับไปใช้สนามแข่งเมื่อ 20 ปีที่แล้วแต่รูปแบบการแข่งขันมีมาตรฐานมากขึ้นทั้งในแง่ผู้จัด นักแข่งและรถแข่งรวมทั้งผู้สนันสนุนที่ให้ความสำคัญกับการแข่งรายการนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 11 สิงหาคมนี้อย่าพลาด สนามบิน บน. 2 ยังคงเต็มไปด้วยความเร้าใจไม่เสื่อมคลาย
เรื่องโดย : อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51346