ถึงรบกันก็ไม่กลัว

พาดหัวเอาไว้อย่างนั้น เพราะนี่ก็ย่างเข้าสามเดือนแล้ว ที่มีสงครามถล่ม อัฟกานิสถาน เพื่อค้นหาตัว บุคคลที่ สหรัฐ ฯ กล่าวว่า เป็นตัวการถล่มตึก เวิร์ลด์เทรด แต่ก็ยังเล่นซ่อนหากัน หาตัวกันไม่เจอ เหมือนคนที่ก่อคดีใช้อาวุธปืน แถวเจ้าพระยานี่แหละ ที่ว่ามานั่นก็เพราะชาวบ้านเขารบกันโครมๆ แต่ยอดการขายรถบ้านเรา กลับพุ่งพรวดโครมๆ เหมือนกัน แต่โครมครามแบบยอดพุ่งปรี๊ด 15.4 % ขายได้ 26,798 คัน ขณะที่ยอดรวมสิบเอ็ดเดือน เดินลิ่วไปที่ 13.7 % ขายได้รวม 260,213 คัน เลยมีคนรีบออกมาคุยว่า ปีนี้ยอดรวมทั้งปีคงจะตกอยู่ที่สามแสนคัน หลังจากเงียบหายไปนาน ซึ่งคงได้แค่เกือบเท่านั้น ส่วนที่จองกันตอนมหกรรมยานยนต์ ที่เมืองทองธานีน่ะ เจ็ดพันกว่าคัน แต่พอปล่อยรถจริงๆ แล้ว ยอดรวมทั้งเดือนยังไงก็ไม่มีทางถึงสี่หมื่น เต็มที่คงได้อยู่ราวสามหมื่นคันเท่านั้น นอกจากจะมีเจ้าใหญ่บาง ราย ใช้วิธีเก่า คือ ยืมตัวเลขของเดือนมกราคม ปี 45 มาใช้ก่อน แล้วพอตอนแจ้งตัวเลขของเดือน มกรา ก็บอกว่า เดือนนี้ขายน้อย เพื่อทำให้ตัวเลขพุ่งจี๊ด เอ๊ะ ฟังดูคุ้นๆ อย่างไรก็ไม่รู้ ไปกระเทือนใครเขาหรือเปล่าหนอเนี่ย ยิ่งกำลังมีข่าวปล่อย ข่าวลือแถวสำโรงกันให้สนั่น แถมคุณ เชอร์รี ย้ายค่ายจากค่ายรถยนต์ ไปอยู่ค่ายโทร. มือถือเข้าอีก แมงโม้ เลยมีเรื่องเมาท์สะบัดช่อเชียว คนแถววัดลาดปลาเค้า เลยจับไปพาดหัวตัวไม้เบ้อเร่อ สนุกกันดีจัง เข้ามาตรวัดกันดีกว่านะครับ ยอดการขายรถประจำเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่มีรถรุ่นใหม่ๆ ดาหน้ากันมาลงโฆษณาสี่สีเต็ม สองหน้าทั้งในหนังสือพิมพ์ ในนิตยสาร และสื่อต่างๆ ช่วยให้ยอดการขายโฆษณาของสิ่งพิมพ์ สูงลิบลิ่ว แถมยอดการขายรถยนต์ก็เพิ่มสูงอย่างที่บอก ขอเรียงแชมพ์ยอดขายประจำเดือน คือ โตโยตา ขายรวม 9,127 คัน เพิ่มจากปีก่อนเยอะ 75.0 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1 % อันดับสอง อีซูซุ ขาย 6,248 คัน เพิ่มพอสมควรกับรายการชิงโชค แถมทอง 26.2 % ส่วนแบ่งตลาด 23.3 % อันดับสาม ฮอนดา ขายพร้อมของแถม 3,135 คัน เพิ่มนี๊ดเดียว 0.5 % ส่วนแบ่ง 11.7 % อันดับสี่ มิตซูบิชิ ขายรถรุ่นใหม่ได้เล็กน้อย 2,694 คัน แต่ตัวเลขกลับลดลง 10.9 % ส่วนแบ่งตลาด 10.1 % และอันดับห้า นิสสัน กำลังมีปัญหาการผลิตเล็กน้อยเลยขายแค่ 2,171 คัน ลดลงเยอะ 33.7 % ส่วนแบ่ง 8.1 % ในขณะที่ยอดรวมสิบเอ็ดเดือน โตโยตา ขาย 72,037 คัน อีซูซุ ขาย 62,395 คัน ฮอนดา ขาย 32,956 คัน นิสสัน ขาย 31,746 คัน และมิตซูบิชิ ขาย 21,896 คัน แถมอีกเจ้าเอ้า ฟอร์ด ขาย 15,546 คัน ทั้งหกบริษัทนี้ข่าวว่าได้รับโบนัสกันยิ้มแย้ม แม้จะน้อยกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย บางค่ายได้ถึงสาม เดือน ดีใจด้วยครับ ส่วนอีกประมาณยี่สิบกว่าบริษัทที่ขายได้ต่ำกว่าหมื่นคัน บางรายก็ได้บ้างเล็กน้อย เล็ก น้อยจริงๆ ครับ บางรายไม่ได้เอาเลย มีบริษัทให้ทำงานแล้วยังจะเอาอะไรอีก มาดูตัวเลขแยกประเภท ประเภทรถยนต์นั่งที่มีรถรุ่นใหม่ รวมทั้งแคมเปญล่อใจนานาประดามี ทำให้ ตัวเลขเดือนเดียวขายเพิ่มถึง 22.6 % ขายได้ทั้งสิ้น 9,021 คัน พอรวมสิบเอ็ดเดือนก็ยังคงเพิ่มอยู่ 22.0 % ขายได้ 86,917 คัน แชมพ์ประจำเดือนหน้าเดิม โตโยตา ขาย 3,600 คัน เพิ่มเยอะ 86.6 % ส่วนแบ่งตลาด 39.9 % ที่ สอง ฮอนดา ขาย 2,950 คัน เพิ่มเล็กน้อยแม้ว่าจะแถมซีดี เครื่องเสียงแล้วก็ตาม 13.4 % ส่วนแบ่ง 32.7 % ที่สาม มิตซูบิชิ เกียร์สปอร์ททรอนิค 6 จังหวะยังไม่ค่อยเดิน ขายได้ 799 คัน แต่ตัวเลขเพิ่ม เยอะจัง 505.3 % ส่วนแบ่ง 8.9 % ที่สี่ นิสสัน ขาย 719 คัน นี่ลดลง 59.6 % ส่วนแบ่ง 8.0 % และที่ห้า เมร์เซเดส-เบนซ์ ขาย 343 คัน เพิ่มเล็กน้อย 39.4 % ส่วนแบ่ง 3.8 % แชมพ์จาก สหรัฐ ฯ ฟอร์ด ขาย 69 คัน และแชมพ์ เกาหลี ฮันเด ขาย 27 คัน และแชมพ์ผู้เสียภาษีสูงสุด แจกวาร์ ขาย 2 คัน และ โพร์เช ขาย 6 คัน ประเภทรถกระบะหนึ่งตัน ไม่รวมพวกตะกายสี่ล้อ ยอดเดือนพฤศจิกายน 11,268 คัน เพิ่ม 20.2 % รวมสิบเอ็ดเดือน ขาย 106,415 คัน เพิ่ม 12.3 % ตำแหน่งแชมพ์ประจำเดือนพฤศจิกายน อีซูซุ ขาย 4,797 คัน เพิ่ม 29.9 % ส่วนแบ่ง 42.6 % อันดับสอง โตโยตา ขาย 2,983 คัน เพิ่ม 56.3 % ส่วนแบ่ง 26.5 % อันดับสาม มิตซูบิชิ ขาย 1,205 คัน ลดลง 23.0 % ส่วนแบ่ง 10.7 % อันดับสี่ นิสสัน ขาย 1,154 คัน เพิ่มขึ้น 11.8 % ส่วนแบ่ง 10.2 % อันดับห้า ฟอร์ด ขาย 878 คัน เพิ่ม 2.6 % ส่วนแบ่ง 7.8 % รถเพื่อการพาณิชย์ ยังคงมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เช่นเดิม ขายทั้งเดือนเพิ่มแค่ 0.5 % ทั้ง ตลาดขายได้ 771 คัน ขณะที่ยอดรวมสิบเอ็ดเดือนยังน้อยกว่าปีก่อน 11.3 % ขายได้แค่ 7,309 คัน โดยมีตำแหน่งแชมพ์ อีซูซุ ขาย 478 คัน เพิ่ม 63.1 % ส่วนแบ่งตลาด 62.0 % แล้วอย่าเผลอไปว่าเขา ผูกขาดตลาดนะครับ เพราะมีรุ่นใหม่ให้ลูกค้าได้เปลี่ยน ที่สอง ฮีโน ขาย 200 คัน ลดลง 27.3 % ส่วนแบ่ง 25.9 % ในขณะที่ มิตซูบิชิ ขายได้แค่ 55 คัน เท่านั้นเอง แล้วใครนะที่ออกมาพูดว่า เศรษฐกิจของเราฟื้นตัวแล้ว ทำไมสิบล้อถึงขายไม่ดีล่ะ รถขับเคลื่อนสี่ล้อทุกประเภท ไม่รวมกระบะหนึ่งตัน ยอดรวมประจำเดือนพฤศจิกายน 399 คัน ลดลง 40.6 % ยอดรวมสิบเอ็ดเดือนขายได้ 5,621 คัน ลดลง 14.0 % แชมพ์ประจำเดือน ฮอนดา ขาย 180 คัน ลดลง 63.6 % ส่วนแบ่ง 45.1 % อันดับสอง อีซูซุ ขาย 60 คัน เพิ่ม 122.2 % ส่วนแบ่ง 15.0 % อันดับสาม ซูซูกิ ขาย 55 คัน ลดลง 19.1 % ส่วนแบ่ง 13.8 % อันดับสี่ แลนด์ โรเวอร์ ขาย 52 คัน ส่วนแบ่ง 13.0 % อันดับห้า ไครสเลอร์ ขาย 16 คัน ลดลง 59.0 % ส่วนแบ่ง 4.0 % รถอเนกประสงค์อื่นๆ ขายลดลงเล็กน้อย 0.8 % ขาย 1,081 คัน รวมสิบเอ็ดเดือนเพิ่มขึ้น 10.0 % ขายรวม 11,985 คัน โดยมีแชมพ์ประจำเดือนคือ โตโยตา ขาย 510 เพิ่มขึ้น 27.2 % ส่วนแบ่งตลาด 47.2 % นั่นคือภาพรวมของตลาดรถยนต์ในบ้านเรา ที่ใครจะบอกว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ ก็ต้องเหลียวมองยอด ขายรถด้วยเช่นกัน ส่วนของนักการตลาดเอง บางค่ายก็ยิ้มได้สบายดี เพราะมีรถส่งออกเป็นกองหนุน บางค่ายก็ยิ้มแหยๆ เพราะไม่มีตัวเลขรถส่งออก แต่พอเห็นข่าวยอดขายในยุโรปลดลง ทำให้กำลังการผลิตในเมืองไทยต้อง ลดลง ก็ยิ้มไม่ค่อยออกนะครับ ก็อยู่กันแบบไทยๆ ไปก็แล้วกัน ชาวบ้านเขารบกันเป็นวรรคเป็นเวร แต่บ้านเรายอดขายเพิ่มสูง นักการตลาดก็ได้แต่งงๆ กับพฤติกรรม คนไทยไปเหมือนกัน ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง ฉันยังสบายดี รวมทั้งกระผมเองด้วย