พิเศษ(formula)
7 วัน ที่ ญี่ปุ่น กับ ฮอนดา
ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราได้รับเชิญจากบริษัท ฮอนดา ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ให้
ไปชมงาน "มหกรรมยานยนต์โตเกียว" ครั้งที่ 35 ที่ มากูฮาริ เมสเส นอกจากนี้ยังได้ไปชมศูนย์ทดสอบ
การชนที่เมือง โตชิกิ ทดลองขับรถกันที่ศูนย์วิจัยและพัฒนา และในสนามแข่งรถ "ทวิน ริง โมเตกิ" รวม
ทั้งชมกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยู่ในสนามแข่ง
งานโชว์รถปีนี้ใน "วันผู้สื่อข่าว" ค่อนข้างเงียบเหงากว่าปีที่ผ่านๆ มา สาเหตุหลักก็คงมาจากสงคราม
ผสมโรงด้วยภาวะเศรษฐกิจที่เข้าเกียร์ถอยหลังมาตลอด
ฮอนดา ใช้แนวคิดการจัดแสดงรถยนต์ในงานนี้ว่า "FUN MAX ! TAKE FUN TO THE MAX !" หรือ
"สุนทรีภาพเพื่อความสนุกสนานแบบสุดๆ" ภายใต้คำขวัญของฮอนดาที่ว่า "THE POWER OF DREAM"
หรือ "พลังแห่งความฝัน" โดยแบ่งรถยนต์ออกเป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ "SPORT MIND" และ
"SPACE MAGIC" ส่วนรายละเอียดของรถเด่นในบูธมีดังนี้
DUALNOTE ต้นแบบรถสปอร์ทที่ล้ำหน้า พร้อมกับระบบความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อน
ด้วยพลังเครื่องยนต์แบบ i-VTEC 6 สูบ 3.5 ลิตร วางอยู่ที่กลางตัวรถ พร้อมทั้งติดตั้งระบบ IMA ที่มี
มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยการทำงานของเครื่องยนต์ เพื่อสมรรถนะที่รุนแรงและมลพิษต่ำ ระบบขับเคลื่อนเป็น
แบบ 2 ล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอิสระ/ผสม
BULLDOG รถแนวคิดแบบสปอร์ทอเนกประสงค์ ตัวรถมีรูปทรงคล้ายสุนัขพันธุ์ BULLDOG ซึ่งเป็นที่มาของ
ชื่อรุ่น แถมมีจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นทั้งพนักพิงที่นั่งหลังและยานยนต์พร้อมใช้งานที่ถอดแยกได้
ฮอนดา ซีวิค ไทพ์ อาร์ รถ 3 ประตูแฮทช์แบค 3 ประตูสไตล์รถแข่งที่สามารถวิ่งบนท้องถนน ใช้เครื่อง
ยนต์ i-VTEC 4 สูบ DOHC ขนาด 2.0 ลิตร ได้รับการตอบสนองอย่างดี จากลูกค้าแถบยุโรป ทำให้
ฮอนดา ตัดสินใจผลิตรถรุ่นนี้ที่ประเทศ อังกฤษ
ฮอนดา อินเทกรา ไทพ์ อาร์ รถสปอร์ทคูเป 3 ประตูแฮทช์แบค ตกแต่งทั้งในด้านความสวยงามทั้ง
ภายนอกและภายในห้องโดยสาร รวมทั้งสมรรถนะของเครื่องยนต์แบบ I-VTEC เพราราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ
2.0 ลิตร 220 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังด้วยเกียร์แบบธรรมดา 6 จังหวะ
ฮอนดา เอนเอสเอกซ์ ไทพ์ อาร์ ซูเพอร์คาร์พันธุ์แท้ เครื่องยนต์ได้รับการปรับแต่งใหม่ ตัวรถ
เปลี่ยนชิ้นส่วนมาใช้วัสดุน้ำหนักเบาเช่น คาร์บอนไฟเบอร์ ฯลฯ
UNIBOX รถแนวคิดทรงกล่องบุด้วยกระจกใส ห้องโดยสารและห้องเก็บสัมภาระมีพื้นที่กว้างขวาง เพิ่มขีด
ความสามารถในการใช้ชีวิต โดยการใช้พื้นที่ทุกแห่งในรถในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามต้องการ แม้แต่
เป็นห้องกาแฟหรือห้องฟังเพลง ช่วยเพิ่มพูนความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ใช้รถได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังมีรถแนวคิดอีกหลายคัน รวมทั้งรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ซีอาร์-วี ใหม่ ฮอนดา
ฟิท และสตรีม ซึ่งเราได้มีโอกาสได้ทดลองขับด้วย
ฮอนดา อาร์แอนด์ดี
ชมการทดสอบการชนและลองขับรถใหม่
หลังจากที่เราได้ชมงานกันอย่างเต็มอิ่มถึง 2 วันแล้ว วันรุ่งขึ้น ฮอนดา ได้พาเรานั่งรถไฟ "ชินคันเซน"
ไปยัง ฮอนดา อาร์แอนด์ดี ที่ เมือง โตชิกิ ซึ่งมีศูนย์ทดสอบการชนจากสภาพจริง (REAL WORLD
CHASH TEST FACILITY) ซึ่งมีถึง 8 ทิศทางในการชน โดยเพิ่มการชนทีละ 15 องศา สามารถ
ทดสอบการชนของรถ 2 คัน ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ต่างกันตามต้องการ
ในวันที่พาผู้สื่อข่าวไปชมการทดสอบนั้น ฮอนดา ได้นำรุ่น ซีวิค และ เลเจนด์ ซึ่งมีน้ำหนักต่างกันประมาณ
500 กก. โดยรถแต่ละคันวิ่งด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. เข้าหากัน ผลปรากฏว่า ซีวิคซึ่งมีน้ำหนักเบา
กว่าได้รับความเสียหายมากกว่า รถทั้ง 2 คัน เสา เอ-พิลลาร์ ไม่เสียรูปทรง ประตูเปิดได้ โครง
สร้างของห้องโดยสารไม่เสียหายมากนัก ถุงลมและเข็มขัดนิรภัยทำงานตามปกติ หุ่นผู้โดยสารที่อยู่ในรถ
ทั้งสองปลอดภัย
นอกจากนี้ ฮอนดา ยังได้พัฒนาหุ่นคนเดินถนนเพื่อทดสอบการชน "โพลาร์ 2" เพื่อใช้จำลองแรงกระแทก
และการบาดเจ็บเหมือนคนจริงมากที่สุด โดยติดตั้งเครื่องมือวัดระดับการบาดเจ็บถึง 8 จุด เพื่อนำผล
การชนมาวิเคราะห์ และพัฒนาให้คนเดินถนนบาดเจ็บน้อยที่สุดเมื่อถูกรถชน
ต่อจากนั้นเราได้ไปขับทดลองขับรถรุ่นต่างๆ ที่สนามทดสอบใน อาร์แอนด์ดี ของ ฮอนดา ซึ่งมีอยู่หลาย
แห่งด้วยกัน สนามแรกเป็นรูปไข่ เราได้ทดลองขับ ฮอนดา รุ่น สตรีม มินิแวน 7 ที่นั่ง/ออดิสซีย์ รวมทั้ง
รถยนต์ต้นแบบที่ควบคุมให้รถวิ่งไปบนทางวิ่งโดยปรับระยะห่างจากคันหน้าโดยอัตโนมัติ รวมทั้งสามารถ
เลี้ยวโค้งได้เองตามเส้นไข่ปลาบนถนน โดยผู้ขับปล่อยมือให้รถวิ่งไปเองได้ จากการมีเซนเซอร์รับสัญญาณ
ติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ของตัวรถ และได้ทดลองขับรถในซิมูเรเตอร์ ที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อแนะ
นำการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับผู้ใช้รถยนต์
สถานีต่อไป ได้ทดลองขับ ฮอนดา อินเทกรา ไทพ์ อาร์ บนสนามทดสอบที่เต็มไปด้วยโค้ง แต่ขับได้เพียง
คนละ 1 รอบ และได้ขับรถที่พัฒนามาสำหรับคนพิการควบคุมการทำงานที่มือ ทั้งการเร่ง เบรค และ
บังคับเลี้ยว นอกจากนี้ยังมีรุ่น FCX-V4 ยานยนต์พลังเซลล์เชื้อเพลิง จากไฮโดรเจน ที่ปราศจากมลพิษ
เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบ แล่นได้เป็นระยะ 300 กม. ทำความเร็วได้ถึง 140 กม./ชม.
สถานีสุดท้ายที่เราได้ทดลองขับรถคล้ายเส้นทางในชนบท 2 เลน คดเคี้ยวเป็นวงกลม ผ่านทางรถไฟ
จำลอง และสภาพพื้นถนนที่เป็นลอน เพื่อตรวจสอบเสียงรบกวน ในสถานีนี้เราได้ลองขับ ฮอนดา
ซีอาร์-วี ใหม่ ที่จะเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยต้นปีหน้า ฮอนดา ฟิท ที่อาจจะเข้ามาขายด้วย ซึ่งรถทั้ง
2 รุ่น ใช้เครื่องยนต์แบบใหม่ I-VTEC นอกจากนี้ยังมี ซีวิค ซึ่งใช้เครื่องยนต์ไฮบริดระบบ IMA
(INTEGRATED MOTOR ASSIST) ใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นหลัก โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าทำงาน
เสริม ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงและมีอัตราเร่งที่ดี
ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่ มีรูปทรงแตกต่างจากโฉมปัจจุบันไม่มากนัก เท่าที่ได้ลองขับในระยะสั้นๆ
เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร ตอบสนองดี ระบบรองรับเกาะถนนและนุ่มนวล ขับสบาย ทัศนวิสัยใน
การขับขี่ดีมาก ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิม ให้ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน
ส่วน ฮอนดา ฟิท รถเก๋งขนาดเล็ก ที่เหมาะกับการใช้งานในปัจจุบัน คล่องตัวในการใช้งานในเมือง
ห้องโดยสารกว้าง ผู้ใหญ่ 4-5 คน นั่งได้สบาย เครื่องยนต์แบบใหม่ให้อัตราเร่งที่ดี แม้ว่าจะมีขนาด
เพียงแค่ 1.3 ลิตร จนขณะขับครั้งแรกเราคิดว่าใช้เครื่อง 1.5 หรือ 1.6 ลิตร ช่วยในประหยัดเชื้อ
เพลิงได้มาก ระบบรองรับปรับไว้ให้ค่อนข้างแข็ง เพื่อเพิ่มการทรงตัวที่ดี เนื่องจากตัวรถมีขนาดเล็กและ
น้ำหนักเบา ถ้าเข้ามาขายในเมืองไทยในราคาใกล้เคียงกับ ฮอนดา ซิที คงจะได้รับความนิยมที่สูง
อย่างแน่นอน
ทวิน ริง โมเตกิ
สนามแข่งที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและกิจกรรม
เราเดินทางต่อไปยังสนามแข่ง ทวิน ริง โมเตกิ ของ ฮอนดา ที่สร้างได้กลมกลืนกับธรรมชาติท่ามกลาง
เทือกเขาและป่าโปร่ง อยู่ห่างจากมหานคร โตเกียว ราว 100 กม. ประกอบไปด้วยสนามแข่งทางเรียบ
แบบยุโรป และสนามแข่งวงรีสไตล์ อินดี ของ อเมริกัน ออกแบบให้เสียงรถแข่งลอยขึ้นด้านบนแทนที่จะ
กระจายไปด้านข้าง บริเวณรอบๆ สนามใหญ่ยังมีสนามแข่งขนาดเล็กๆ อีกมากมาย เพื่อใช้แข่งโกคาร์ท
แข่งรถทางฝุ่น แข่งมอเตอร์ไซค์ ทั้งในสนามทางเรียบ หรือสนามลูกรังรูปวงรี สนามฝึกการขับขี่อย่าง
ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ ภายในสนามและบริเวณรอบๆ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมเดินป่า ตั้ง
แคมพ์ ส่องสัตว์ โรงแรมที่พัก ฮอนดา คอลเลคชัน ฮอลล์ และ ฮอนดา แฟน ฟัน แลบ
เช้าวันรุ่งขึ้น เราได้ไปทดลองขับรถกันในส่วนหนึ่งของสนามแข่ง ทวิน ริง ฯ โดยใช้ให้ขับทั้งรถสปอร์ท
เอนเอสเอกซ์/เอส 2000 รถอเนกประสงค์ ฯลฯ เราได้มีโอกาสขับ สตรีม รถเอมพีวี 7 ที่นั่ง
เพื่อสัมผัสสภาพสนามและโค้งต่างๆ
ต่อจากนั้นได้เข้าชม "ฮอนดา คอลเลคชัน ฮอลล์" ที่เปรียบเหมือนศูนย์รวมประวัติศาสตร์ ความเป็นมา
และความเจริญก้าวหน้าของฮอนดา มีรถยนต์และจักรยานยนต์รุ่นต่างๆ ที่อยู่ในสภาพดีมากแม้จะมีอายุนับ
10 ปี มาแสดง ห้องบูรณะรถต่างๆ ที่แสดงวิธีปรับปรุงรถอย่างถูกวิธี แสดงให้ผู้สนใจได้ชมกัน
รถแข่งที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับ ฮอนดา ในประเภทต่างๆ
"ฮอนดา แฟน ฟัน แลบ" เป็นฮอลล์ที่ให้ความรู้แก่เด็กและผู้ที่สนใจในเรื่องรถยนต์ได้เป็นอย่างดี
ทั้งในเรื่องเครื่องยนต์ การทำงานของระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น ถุงลมนิรภัย การทดสอบการชน
เพื่อหาข้อมูลในการสร้างรถให้มีความปลอดภัย แบบจำลองขั้นตอนการผลิตรถยนต์
ห้องกิจกรรมที่เสริมทักษะและความคิดสร้างสรรค์สำหรับเด็ก เช่นการประกอบชิ้นส่วนรถเด็กเล่น
ห้องทำการฝีมือ พับกระดาษเป็นรูปแบบต่างๆ ไปฮอลล์นี้แล้วนึกถึงเด็กไทยโดยทั่วๆ ไป ในวัยขนาดนี้
คงจะวิ่งเล่นซุกซนไปตามประสา จะมีโอกาสทำกิจกรรมเพื่อเพิ่มความรู้ พัฒนาสมอง สร้างพื้นฐานที่ดี
ให้กับเขาเหล่านี้บ้างไหม ไม่สงสัยเลยว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงเจริญได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นเราได้ทานอาหารกลางวันที่สนามแข่งและชมกิจกรรมต่างๆ ที่มีผู้เข้าร่วมมากมายในช่วงวันหยุด
เช่นกลุ่มจักรยานยนต์รวมตัวกันมาขี่รถเล่น เที่ยวชมสนามแข่งและตั้งแคมพ์ชื่นชมธรรมชาติ ซ้อมฝีมือ
เสริมทักษะในการแข่งขันรถรูปแบบต่างๆ ทั้งบนทางเรียบและทางฝุ่น
ที่นี่จึงเปรียบเสมือนสวรรค์สำหรับผู้ที่มีใจรักมอเตอร์สปอร์ทอย่างแท้จริง ตื่นเช้าขึ้นมาก็ได้ยินเสียง รถแข่ง
วิ่งซ้อมในสนาม และมีสิ่งที่ตื่นเต้นเร้าใจให้พบเห็นตามที่ต้องการ สร้างประสบการณ์ดีๆ ให้กับผู้รักการแข่ง
รถ
ความสนุกสนาน ตื่นเต้น ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ในช่วงบ่ายเราได้ขับรถแข่งแบบล้อเปิด "ไซด์บายไซด์"
ที่มีรูปทรงคล้ายรถแข่งสมัยโบราณ ใช้เครื่องยนต์ขนาด 550 ซีซี ที่ให้ความสนุกสนานในการขับได้เร้าใจ
ไม่เบาทีเดียว เสียดายที่ได้มีโอกาสขับเพียงแค่ 2 รอบเท่านั้นเอง ก่อนที่จะต้องเดินทางกลับไปยัง
โตเกียว เพื่อเที่ยวชมเมืองและกลับสู่เมืองไทยซึ่งมีค่าครองชีพที่เทียบกันไม่ติดกับที่นี่ราวฟ้ากับใต้บาดาล
ซาโยนาระ
ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่มอบความรู้และประสบการณ์ที่ดีมาก
แก่เรา ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่นครั้งนี้
เรื่องโดย : อัฐฒา นายเรือ
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51249