X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
1 Sep 2002
จดหมายถึงลูกชายคนกลาง
ลูกรัก
พ่อแม่ได้รับจดหมายลูกแล้วเข้าใจและเห็นใจในการต่อสู้ชีวิตในบ้านเมืองของคนอื่นที่มองไปทางไหนก็ไม่ใช่คนไทยหรือญาติพี่น้อง แม้ว่าการห่างบ้านครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก แต่การไปเข้ารับการอบรมภาคฤดูร้อนหรือการไปต่างประเทศในประเทศใกล้ๆลูกก็ไปกับพ่อแม่และกับพี่กับน้อง ลูกจึงไม่รู้สึกว้าเหว่-เหงา และคิดถึงบ้านเท่าครั้งนี้ แต่ลูกต้องไม่ลืมว่า การอยู่ห่างบ้าน ห่างพ่อแม่-พี่และน้องคราวนี้ ลูกเป็นคนตัดสินใจเอง เพื่อการเรียนต่อเพื่ออนาคตของลูกเอง แม้พ่อแม่จะเป็นห่วงและคิดถึงอยากให้ลูกอยู่ในสายตาเพียงไรก็ต้องทำใจเพื่ออนาคตของลูกเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกพร้อมจะเผชิญโลกเอง ยิ่งเวลาที่พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วลูกยิ่งต้องเข้มแข็งและควบคุมตัวเองให้ได้ แท้จริงแล้ว การที่ลูกตัดสินใจเดินทางไกลคราวนี้ก็เป็นการฝึกความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเองเป็นอย่างดียิ่งปัจจุบันนี้การสื่อสารทางโทรศัพท์ทางไกลข้ามโลก ไม่ใช่สิ่งลำบากยากเย็นอย่างไร เหมือนในสมัยก่อนซึ่งดูเหมือนห่างกันอยู่คนละโลก เมื่อลูกคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงพี่กับน้องหรือมีความจำเป็นลูกก็โทรศัพท์ถึงพ่อแม่ได้ทุกเวลาอยู่แล้ว แต่ลูกพึงจดจำให้ได้ว่า นอกจากค่าโทรศัพท์ทางไกลแพงแล้ว ทุกครั้งที่ลูกโทรกลับบ้านแม้แม่จะคอยฟังเสียงโทรศัพท์ทุกคืน แต่เมื่อคุยกับลูกแต่ละครั้ง แม่ก็จะเข้าห้องน้ำไปแอบร้องไห้เป็นประจำนั่นมิใช่เพราะความคิดถึงและเป็นห่วงลูกเท่านั้น แต่มีสิ่งอื่นๆ ประดังเข้ามาให้แม่คิดมากอยู่เสมอ การที่พ่อแอบเล่ามาให้ลูกรู้นี้มิได้หมายให้ลูกท้อใจหรือคิดมากแต่อยากบอกให้ลูกได้รับรู้ความเป็นไปในครอบครัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกโตพอจะต้องรับรู้ไว้จะได้เตือนใจตัวเองเสมอ อนึ่งการเขียนจดหมายของพ่อนี้ พ่อรำลึกถึงพระราชหัตถเลขา (จดหมาย)ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอว่าแม้พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ซึ่งทรงมีพระราชภาระมากมายพระองค์ยังทรงหาโอกาสทรงพระอักษรถึงพระราชโอรสทุกๆ พระองค์ พระบรมวงศ์ทุกพระองค์ ข้าราชการหลายๆคนที่พระองค์โปรดเกล้า ฯ ให้เสด็จและไปศึกษายังต่างประเทศ พระองค์ยังทรงทำได้ ทำไมพ่อแม่ซึ่งเป็นคนสามัญมีเวลาและความรักความเป็นห่วงลูกทุกลมหายใจ จะไม่ควรตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์บ้าง เรื่องแรกที่พ่ออยากขอร้องคือการเขียนหนังสือของลูก ลายมือของลูกอ่านยากเหลือเกินทั้งนี้เพราะลูกเรียนในโรงเรียนสมัยใหม่ที่ไม่มีการเคี่ยวเข็ญให้คัดลายมือเหมือนสมัยก่อนซึ่งเราจะเห็นได้ว่าคนสมัยก่อนลายมือเขียนหนังสือจะสวยงาม เป็นระเบียบ อ่านง่าย อ่านแล้วชื่นใจอีกประการหนึ่งการที่เยาวชนยุคใหม่มีเรื่องต้องเรียน มีกิจกรรมต้องทำมาก มีสิ่งยั่วยุใจให้บันเทิงให้ดูให้เสียเวลาการเขียน การเรียนไปมากกว่าสมัยก่อน ทำให้การใช้ภาษาของคนไทยยุคใหม่เขียนแทบไม่เป็นภาษานี่คือสิ่งที่พ่อแม่ค่อนข้างกังวล เพราะพ่อแม่เป็นคนเอาใจใส่การใช้ภาษาไทยมาก คอยแก้ไข-ค่อนขอดคนอื่นที่ใช้ภาษาไทยไม่เข้าเท่าอยู่เสมอ พ่อแม่กลัวจะเป็น "ว่าแต่เขา อิเหนา (ลูกของตัวเอง) เป็นเอง"นั่นอีกประการหนึ่ง เรื่องที่สอง การเขียนจดหมายของพ่อนอกจากจะได้ตักเตือนลูกแล้ว คำสั่งสอนต่างๆที่ลูกควรจะได้รับฟังเหมือนที่อยู่ใกล้ๆ พ่อแม่ โดยเฉพาะลูกอยู่ในวัยที่พ่อแม่ควรเอาใจใส่อบรมสั่งสอนเสมอบัดนี้เมื่อลูกมาอยู่ห่างไกล ย่อมสูญเสียโอกาสอันดีนั้นไป เพราะเมื่อลูกเรียนจบกลับไปลูกก็โตเป็นผู้ใหญ่พอที่จะสอนตัวเอง เลยวัยที่ลูกจะต้องมาฟังคำสั่งสอนจากพ่อแม่ในวัยอันควรนั้นไปเสียแล้วเหมือนตอนลูกเล็กๆ พ่อแม่ไม่ยอมให้ลูกๆ ไปอยู่โรงเรียนประจำ ไปนอนกับญาติแม้ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เราเคารพบูชามากๆ หรือให้ไปนอนกับพี่เลี้ยงอย่างครอบครัวสมัยใหม่บางครอบครัวเขาทำที่เป็นเช่นนั้นเพราะพ่อแม่อยากเก็บภาพความอ่อนเดียงสา ความน่ารัก น่าทะนุถนอมนั้นให้มากที่สุดพ่อแม่จึงขอเลี้ยงลูกเอง เวลากลับจากทำงาน เวลานอนก็จะเอาลูกมานอนด้วยตลอด ซึ่งความงดงามแห่งชีวิตช่วงนั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดต่อความรักความผูกพันที่พ่อแม่กับลูกจะมีต่อกัและจะเป็นโซ่สัมพันธ์อันเหนียวแน่นที่สุดในชีวิต ไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน นี่คือเรื่องที่พ่อแม่จะเล่าให้ลูกๆ ฟังเสมอว่าตอนเล็กๆ ลูกๆ พูดอะไรทำอะไร แม้เวลานอนหลับในอ้อมแขนพ่อหรือแม่อย่างไร เพราะทุกอิริยาบถเหล่านั้นคือความรัก ความภูมิใจในตัวลูกๆ ของคนที่เป็นพ่อแม่จะมีมากที่สุดเหนือมนุษย์อื่นใดในชีวิตของลูก
(อ่านต่อฉบับหน้า)
อ่านต่อ
เรื่องโดย : ประยอม
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2545
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/51221
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Apr 2018
คนกับป่า
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Mar 2018
"แม่แบบตำราเรียนภาษาไทย"
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Feb 2018
ตามรอยพระยุคลบาท
ชีวิตคือความรื่นรมย์
12 Jan 2018
ทบทวนเรื่องเกี่ยวกับวันภาษาไทยแห่งชาติ (2)
ชีวิตคือความรื่นรมย์
4 Dec 2017
ทบทวนเรื่องเกี่ยวกับวันภาษาไทยแห่งชาติ (1)
ดูต่อในคอลัมน์ ชีวิตคือความรื่นรมย์