ประกันภัย
ระวังประกันต่างชาติ ครองเมือง
1โลกแห่งการแข่งขันเสรี ทำให้เกิดการลดแลกแจกแถมกันอย่างบ้าระห่ำชนิดใครดีใครอยู่ ใครไม่สู้ก็ถอยไป
ถ้าการแข่งขันอย่างเสรีทางการค้าเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หมายถึง
การมีผู้ค้ามากรายและอยู่ภายใต้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันในการแข่งขัน ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด คือ
ประชาชนผู้บริโภค แต่ถ้าการแข่งขันไม่สมบูรณ์ กล่าวคือ มีผู้ค้าน้อยรายหรือมีมากมาย
แต่มีรายใหญ่ผูกขาดหรือสามารถกำหนดราคา กำหนดทิศทางของสินค้าได้ทั้งหมด
เช่นนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียมกัน กรณีหลังนี้ผู้ได้รับประโยชน์จะไม่ใช่ประชาชนผู้บริโภค
แต่จะเป็นผู้ค้ารายใหญ่
ธุรกิจในประเทศไทยในระยะหลังๆ
มีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาแข่งขันมากขึ้นตามโยบายการค้าเสรีของระบบทุนนิยมที่พยายามกดดันให้ไทยเปิดตลาด
การค้าเสรี เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรในลักษณะพิเศษ (GSP)
ในการที่ไทยสามารถส่งสินค้าออกไปขายยังประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อันได้แก่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรม
(G8) ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในทวีป ยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งก็ถือว่าเป็นตลาดหลักของสินค้าส่งออกไทย
การกดดันของกลุ่มประเทศมหาอำนาจ ซึ่งมีความเจริญทางด้านวัตถุมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีอันทันสมัย
มีความเชี่ยวชาญทางด้านการค้า สามารถสร้างกฎ กติกา มาตรการในเชิงการค้าต่างๆ ขึ้นมาอย่างมากมาย
ทำให้ไทยต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหลายประการ เช่น การกีดกันทางการค้า โดยตั้งเงื่อนไขต่างๆ ด้านภาษีอากร
การกล่าวหาว่าสินค้าไทยไม่ได้คุณภาพปนเปื้อนสารพิษ หรือสินค้าไทยดำเนินการขัดกับสิทธิมนุษยชน
หรือสิ่งแวดล้อม แล้วแต่จะนำมากล่าวอ้างโจมตี
ในขณะเดียวกัน
ประเทศมหาอำนาจเหล่านั้นก็มีกลวิธีเจรจาเพื่อขอให้นักลงทุนของตนเข้ามาลงทุนกับไทยได้ด้วยเงื่อนไขพิเศษเป็นก
ารแลกเปลี่ยน ซึ่งกลุ่มทุนกลุ่มธุรกิจต่างชาติที่เข้ามาร่วมทุนลงทุนในไทยก็จะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีกำลังเงินสูง
เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีอำนาจต่อรองเงื่อนไขกับรัฐบาลมาก
ผู้อยู่เบื้องหลังการร่วมทุนมักเป็นนักการเมืองและนักธุรกิจการเมืองที่มีผลประโยชน์แอบแฝงเพื่อกลุ่ม
และพรรคพวกของตน ทุกอย่างก็เป็นไปโดยง่าย
สิ่งที่ตามมาของกระแสวัฒนธรรมการค้าเสรีของโลกมหาอำนาจ
ส่งผลให้ประเทศไทยถูกธุรกิจข้ามชาติยึดครองกว่าครึ่ง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสื่อสาร
ธุรกิจน้ำมันและพลังงาน ธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต เป็นต้น
การเข้ามาขยายตัวของธุรกิจข้ามชาติดังกล่าว ทำให้ร้านค้ารายเล็กรายน้อยต้องปิดกิจการนับพันนับหมื่น
เพราะไม่สามารถจะแข่งขันกับทุนข้ามชาติได้ ธุรกิจการผลิต ซัพพลายเออร์ขายส่ง
กลับถูกบีบให้กลายเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตสินค้าในตรายี่ห้อของต่างชาติ แทนตราสินค้าของตนเอง
นับวันธุรกิจไทยจะยิ่งหดตัวปิดกิจการเพิ่มขึ้น แล้วท้ายที่สุดก็จะถูกครอบครองโดยต่างชาติอย่างแน่นอน
การที่รัฐบาลออกมารณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าไทย สำนึกถึงความเป็นไทยในระยะหลังๆ นี้
ดูว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะคนไทยได้ดูดซับค่านิยมในแบรนด์ ยี่ห้อ ตราสินค้า ของต่างชาติไปเป็นชีวิตจิตใจ
คนไทยมีรสนิยมว่าสินค้าต่างชาติดีมีคุณภาพสูงกว่าสินค้าไทย ซึ่งผลิตโดยคนไทย
และราคาสินค้าต่างชาติก็ไม่ได้สูงกว่าสินค้าไทยเท่าใดนัก
เมื่อเทียบกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่ในความรู้สึกสินค้าไทยด้อยกว่าทุกประตู
ซึ่งในที่สุดการออกมารณรงค์ของรัฐบาลก็เป็นเพียงการทำแบบเสียไม่ได้ หรือฉาบฉวยขอไปที
เพื่อป้องกันการถูกด่าถูกโจมตีจากประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินเท่านั้น
ไม่มีความจริงใจในการปลุกจิตสำนึกสร้างไทยด้วยสินค้าไทยอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะทั้งนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรี ตลอดจนนักการเมืองทั้งหลายต่างเป็นผู้ร่วมทุน มีผลประโยชน์กับบริษัทข้ามชาติทั้งนั้น
มาดูในแง่ของการประกันภัย ธุรกิจต่างชาติ การร่วมทุนต่างชาติ เต็มไปหมด
จนบางครั้งไม่แน่ใจว่าชื่อบริษัทเรียกถูกหรือเปล่า จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรแน่
เพราะเปลี่ยนชื่อตลอดเวลาเดี๋ยวต่อหน้าเดี๋ยวเติมท้ายวุ่นไปหมด
การเข้ามาร่วมลงทุนถ้ามองในด้านของเศรษฐกิจมหภาค อาจเห็นว่าเป็นแง่ดีตามนโยบาย IMF
คือจะได้มีเมล็ดเงินใหม่เติมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ซึ่งไทยเพลี่ยงพล้ำถูกมรสุมทางเศรษฐกิจซัดกระหน่ำในช่วงปี 2540
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังไม่ฟื้นคืนชีพ
แต่ถ้ามองในแง่ของผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าเดียวกัน ก็จะพบว่าธุรกิจข้ามชาติเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย
มีกำลังทุนที่หนาและพร้อมจะโจมตีด้วยวิธีการทุ่มตลาดวัดศักยภาพและสายป่านได้ตลอดเวลา ดังนั้นลูกค้าดีๆ
จะหันหน้าเข้าหาธุรกิจข้ามชาติที่สามารถเสนอเงื่อนไขดีๆ เบี้ยประกันถูกกว่า
และสามารถจะแย่งแชร์ตลาดในกลุ่มลูกค้าดีๆ จากบริษัทไทยไปได้
ธุรกิจคนไทยก็คงต้องเศร้าไปตามๆ กันเพราะลูกค้าที่เหลือจะเป็นลูกค้าระดับที่ไม่ดีมีความเสี่ยงสูง
และต่างชาติไม่สนใจ ครั้นจะไปออกสินค้าใหม่แข่งก็ติดเรื่องการประกันภัยต่อ
เพราะการต่อเชื่อมเครือข่ายกับต่างชาติต้นทุนต้องสูงกว่าแน่นอน
ดังนั้นสภาพการแข่งขันจะอยู่ในฐานะเสียเปรียบต่างชาติตลอดเวลา
ถึงวันนี้ต้องบอกได้ว่าธุรกิจประกันภัยไหนน่าเป็นห่วงมาก
ประกอบกับกรมการประกันภัยกำหนดให้การจัดสรรเงินสำรองเสี่ยงภัยต้องเป็นเงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาล
ห้ามใช้ทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์มาตีราคาประเมินด้วยแล้วบริษัทประกันภัยไทยจะต้องวิ่งหาเงินมาเพิ่มกองทุน
จะด้วยวิธีเพิ่มทุน หาผู้ร่วมลงทุนใหม่ หรือไม่ได้ก้ต้องรอขายให้ต่างชาติไปตามระเบียบ
สิ่งที่สะท้อนภาพรัฐบาลรวมถึงกรมการประกันภัยที่ได้ออกมาตรการต่างๆ
ออกมาพร้อมกับแสดงเจตนารมณ์ว่าเพื่อความเข้มแข็ง และมั่นคงของธุรกิจประกันภัย แต่มาตรการต่างๆ
ไม่ได้ส่งเสริมหรือพัฒนาธุรกิจไทยเลย
แต่กลับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถหรือความได้เปรียบให้กับธุรกิจข้ามชาติที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว
ถึงไม่ค่อยมั่นใจในความมั่นคงและเสถียรภาพของธุรกิจประกันภัยเท่าที่ควร
เพราะภายใต้รัฐบาลชุดนี้และท่านอธิบดีกรมการประกันภัยท่านนี้มุ่งเน้นที่จะให้เปิดเสรีธุรกิจประกันเพื่อเอาใจต่างชา
ติตลอดเวลา
มองในแง่ของประชาชนเชื่อว่าในระยะแรกๆ อาจได้ซื้อประกันของดีราคาถูก ในช่วงของการแข่งขันแบบทุ่มตลาด
แต่เชื่อว่าในระยะยาว ธุรกิจไทยจะต้องพ่ายแพ้ธุรกิจข้ามชาติแน่นอนด้วยทุนที่หนากว่า เทคโนโยลีที่ทันสมัย
ต้นทุนเชื่อมต่อภัยในเครือข่ายต่ำกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
และเมื่อถึงวันนั้น การผูกขาดจะเป็นของกลุ่มต่างชาติ
ซึ่งสามารถกำหนดเงื่อนไขเบี้ยประกันภัยได้อย่างเสรีที่ไม่มีคู่แข่งที่เป็นธุรกิจไทย
เว้นแต่จะเป็นคู่แข่งต่างชาติด้วยกันอาจพูดคุยภาษาเดียวกันแบ่งปันผลประโยชน์เพื่อกำหนดตลาด
แล้วอย่างนี้ชะตากรรมของคนไทยจะเป็นอย่างไร ท่านทั้งหลายจงครวญใคร่คิดทบทวนดูกันเองก็แล้วกัน
ท้ายนี้ก็ขอวอนถึงท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน โปรดแสดงความรักชาติ
รักแผ่นดินอย่างจริงใจหน่อย อย่าหลงในอำนาจวาสนา นำพาประเทศชาติให้ตกอยู่ในเงื้อมือต่างชาติ ทุนข้ามชาติ
ธุรกิจต่างชาติบุกยึดแผ่นดินไทยทุกหัวระแหง แล้วธุรกิจไทยจะอยู่อย่างไร ตัวท่านเป็นไทย ขอว่าใจอย่าเป็นทาส
รักชาติ รักแผ่นดิน รณรงค์กินใช้ของไทย อุดหนุนสินค้าไทย ประกันภัยประกันชีวิตกับธุรกิจของคนไทย ทำให้ได้จริงๆ
ตัวท่านนั่นแหละต้องเป็นแบบอย่างให้กับสังคมไทย
"ประเทศไทยจะอยู่รอดปลอดภัย อย่าปล่อยให้ต่างชาติครองเมือง"
เรื่องโดย : กฤชกมล นิติธรรมโกศล
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2545
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51194