ตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด

SUBARU ประกาศทิศทางการตลาด เตรียมออกรถใหม่หลายรุ่น พร้อมเน้นเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ EYESIGHT เพิ่มความปลอดภัย “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ฟอร์มูลา : คุณมองว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยปีนี้จะเป็นอย่างไร ? ตะวัน : เป็นปีที่ท้าทายมากที่สุดปีหนึ่ง ทั้งเรื่องสังคม เศรษฐกิจ จะเป็นปีแห่งการฟื้นฟู และปรับตัว มีปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ราคาน้ำมัน ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดรถยนต์ โดยส่วนตัวมองว่า การเติบโตน่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว หรือต่ำกว่าเล็กน้อย โดยปีที่แล้วส่วนใหญ่จะมองว่าผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่จริงๆ แล้วเราเจอสถานการณ์รอบด้าน ไม่ว่าจะเรื่องของการขาดแคลนชิพ ที่ส่งผลมาถึงปีนี้ ที่คาบเกี่ยวถึงเรื่องการผลิต และกำลังซื้อที่ลดลง ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย และทิศทางการตลาดของรถยนต์ SUBARU (ซูบารุ) ไว้อย่างไร ? ตะวัน : แผนของ SUBARU ได้วางแผนในปีนี้ คือ การนำเสนอรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม โดยปีนี้จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครบทุกไลน์อัพ เริ่มตั้งแต่ต้นปี เปิดตัว SUBARU XV (ซูบารุ เอกซ์วี) รุ่นต่อมา SUBARU BRZ (ซูบารุ บีอาร์เซด) และสิงหาคมจะเปิดตัว SUBARU WRX (ซูบารุ ดับเบิลยูอาร์เอกซ์) ใหม่ และ W WAGON หรือชื่อเดิม SUBARU LEVORG (ซูบารุ เลอโวร์ก) ปิดท้ายปลายปี เปิดตัว SUBARU FORESTER (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) ใหม่ การเปิดตัวนี้จะมีทั้งไมเนอร์เชนจ์ บิกไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ ที่จะทำให้ SUBARU มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 6 ไลน์อัพ เดิมมีแต่รถ เอสยูวี ขณะที่กลยุทธ์ทางการตลาดจะเน้นการสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้น โดยจะเน้นเรื่อง AUTONOMOUS VEHICLE ขณะที่แนวโน้ม หรือกระแสของโลกอาจดูเหมือนผู้บริโภคให้ความสนใจพลังงานทางเลือกมากขึ้น แต่พลังงานทางเลือกมีข้อจำกัด ทั้งเรื่องเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน จะมีปัญหาในระยะกลางถึงระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องการซ่อมแซม หรือบำรุงรักษา ตัวเก็บประจุ หรือพลังงานต่างๆ ประเทศไทยยังไม่ชัดเจนว่า จะทำอย่างไร ? เปลี่ยนอย่างไร ? บริการอย่างไร ? หรือรีไซเคิลอย่างไร ? ส่วนโครงสร้างพื้นฐานก็ยังไม่เอื้ออำนวยต่อผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ เป็นการใช้เฉพาะกลุ่ม บางบ้านใช้พลังงานทางเลือกที่เหมาะสม มีการใช้แผงโซลาร์เซลล์ มีการวางแผนระบบไฟฟ้า ก็อาจจะเป็นทางเลือกได้ แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่พร้อม โครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ยังไม่รองรับเต็มระบบ ทำให้ SUBARU มองว่า เทคโนโลยีจับต้องได้สำหรับผู้บริโภค คือ ระบบช่วยขับอัตโนมัติ ซึ่ง SUBARU มั่นใจว่าระบบ EYESIGHT (อายไซจ์ท์) ของเรา ช่วยให้ทั้งด้านความปลอดภัย และสะดวกสบาย โดยรถยนต์ SUBARU ทุกรุ่นติดตั้งระบบนี้ และจะมีการพัฒนาไปสู่เวอร์ชันต่างๆ ปีนี้ SUBARU จึงจะเน้นการสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงจุดเด่นของระบบดังกล่าว ฟอร์มูลา : SUBARU วางนโยบาย 3-5 ปี วางไว้อย่างไร ? ตะวัน : SUBARU จะมีรถยนต์หลากหลายรุ่นให้ผู้บริโภคเลือกตามลักษณะการใช้งาน โดยจะมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัตโนมัติใน ทุกรุ่น และ SUBARU พร้อมมุ่งที่จะเป็นผู้นำระบบการช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ รวมทั้งจะนำรถพลังงานทางเลือกมาให้ผู้บริโภคได้ใช้ในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม คือ เมื่อผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ที่แท้จริง ประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างในระดับที่ผู้บริโภคสามารถใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันโดยไม่มีข้อจำกัด ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับนโยบายของภาครัฐเรื่องภาษีรถยนต์ ? ตะวัน : เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ยังไม่รอบด้าน โดยดูจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนรถพลังงานทางเลือกที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ หรือระบบความปลอดภัย ซึ่งจริงๆ แล้ว ผู้บริโภคจะได้รับผลประโยชน์โดยตรง ถ้ารถยนต์ทุกบแรนด์ ทุกรุ่น มีระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย ไม่ใช่พลังงานทางเลือก ในเมือรถยนต์ส่วนใหญ่ยังไม่ไปถึงจุดนั้น การเริ่มต้นควรพิจารณาให้คนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ ส่วนที่ 2 เรื่องการสนับสนุนภาครัฐ จะต้องมีมิติที่หลากหลายกว่านโยบายที่ให้มาในปัจจุบัน ค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน การเข้าสู่พลังงานทางเลือกจะต้องใช้ทุนมหาศาลในการเปลี่ยนแปลงทั้งผู้ผลิตรถ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ชิ้นส่วน และภาครัฐ ต้องใช้ความชัดเจนมากกว่านี้ และเมื่อผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ปรับเปลี่ยนไปสู่พลังงานทางเลือก การรองรับของภาครัฐมีมากน้อยแค่ไหน อย่าลืมว่า พลังงานทางเลือกที่กำลังเป็นกระแสก็ต้องใช้ต้นทุน และวัตถุดิบในการผลิตพลังงาน เราอาจต้องใช้พลังงานถ่านหิน แสงแดด และลม มาเพื่อผลิตพลังงานทางเลือก หรือบางประเทศต้องใช้นิวเคลียร์ สำหรับประเทศไทย เราจะเอาอะไรมาผลิตพลังงานทางเลือกก็ยังไม่มีความชัดเจน ฟอร์มูลา : ปัจจุบันพฤติกรรมลูกค้า SUBARU เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด ? ตะวัน : ระยะ 2 ปีมานี้ พฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่เปลี่ยนไปมาก โดยหันมาใช้เครื่องมือดิจิทอลมากขึ้น เนื่องจากวิถีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคมองเห็นว่าสิ่งที่สำคัญกับชีวิต คือ สุขภาพ และความปลอดภัย ส่วนผู้ใช้รถยนต์ SUBARU เปลี่ยนแปลงในแง่การรับรู้ข่าวสาร วิถีชีวิตแล้วว่า SUBARU เป็นรถตอบโจทย์ สามารถไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นถนนประเภทใด จะเดินทางไปกับครอบครัว ไปแคมพิง ยิ่งกว่านั้นยังตอบโจทย์เรื่องความสะดวก และปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี EYESIGHT นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังเลือกรถยนต์ที่สอดรับกับการใช้งาน ทำให้กลุ่มลูกค้า SUBARU ขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะรถแต่ละรุ่นของ SUBARU ออกแบบตามลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย มีลูกค้าหลายคนที่เปลี่ยนจากรุ่นเดิมมาเป็นรุ่นใหม่ และมีรถ SUBARU มากกว่า 1 รุ่น ฟอร์มูลา : แผนเพิ่มโชว์รูม และศูนย์บริการ ? ตะวัน : ปีนี้ยังไม่เพิ่มโชว์รูม และศูนย์บริการ แต่จะพัฒนาโชว์รูม และศูนย์บริการ รวมถึงบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เน้นให้ที่ปรึกษาการขายมีความรู้เรื่องรถยนต์ ตัวผลิตภัณฑ์ และฟังค์ชันการทำงาน จุดเด่นของ SUBARU ดีขึ้น สื่อสารได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซ่อมบำรุงปกติ หรือซ่อมหนัก และให้ความสำคัญบริการหลังการเป็นอันดับ 1