JEEP WAGONEER 2022 รถตรวจการณ์ที่มีตำนาน

ต้นกำเนิด JEEP WAGONEER (จีพ แวกอเนียร์) เริ่มต้นในปี 1963 หรือย้อนกลับไปเมื่อ 59 ปีที่แล้ว ในประเทศสหรัฐอเมริกา จนมาถึงรุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ของเอสยูวีที่นั่ง 3 แถว ขนาดฟูลล์ไซซ์ WAGONEER เวอร์ชันนี้ ถือว่ามีขนาดตัวที่ใหญ่ที่สุดในสายการผลิตของ JEEP เป็นรถตรวจการณ์อเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่นำมาใช้งานได้ในทุกๆ วัน รูปลักษณ์ภายนอกแลดูสง่างาม ผลิตบนพแลทฟอร์มของพิคอัพ RAM DT (แรม ดีที) ยังคงเอกลักษณ์ที่มีมาช้านานของรถในตระกูล JEEP กระจังหน้าคล้าย GRAND CHEROKEE (กแรนด์ เชอโรคี) แต่ได้รับการปรับให้ทันสมัยมากขึ้น มีช่องดักอากาศอยู่ด้านล่างพร้อมไฟสปอทไลท์ ชุดไฟหน้าแบบแอลอีดี พร้อมเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ เส้นสายด้านข้าง และช่วงบังโคลนเหนือล้อ มีโป่งทรงเหลี่ยมเสริมความแกร่ง บึกบึน บนหลังคาติดตั้งพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่ ที่แบ่งเป็น 2 ช่วง พร้อมราวแรคหลังคาสำหรับติดตั้งแรคบรรทุกสัมภาระ หรือกางเทนท์ วงล้อมีตั้งแต่ขนาด 20-22 นิ้ว ตามรุ่นที่เลือกซื้อ ในรุ่นที่ติดตั้งล้อ 22 นิ้ว จะใช้ยางขนาด 285/45 R22 ซึ่งถือว่าใหญ่รับกันได้ดีกับตัวถัง ภายในห้องโดยสารหรูหรา กว้างขวางในสไตล์รถอเนกประสงค์ที่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ท ด้วยสีสันแบบทูโทน ใช้วัสดุคุณภาพสูง เบาะคู่หน้าสามารถปรับด้วยไฟฟ้าได้ถึง 12 ทิศทาง เบาะแถว 2 มีให้เลือกทั้งแบบกัปตันซีท และเบาะนั่งแถวยาว ส่วนเบาะแถวที่ 3 สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และความปลอดภัย ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน เครื่องเสียงพรีเมียมของ McINTOSH จอภาพในส่วนกลางของแผงหน้าปัดแบบ TFT ขนาด 10.25 นิ้ว สามารถใช้งานเพื่อความบันเทิง และแสดงผลต่างๆ รวมไปถึงระบบนำทาง โดยเลือกลงแอพพลิเคชันได้มากมาย ส่วนจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง มีขนาดเดียวกัน คอนโซลด้านหลังขนาดใหญ่ พร้อมช่องต่อเข้าพอร์ท USB เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานต่างๆ ขุมกำลังวางเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ขนาดความจุ 5.7 ลิตร มาพร้อมระบบอีทอร์ค ไฮบริด (ETORQUE HYBRID) ที่จะมีกำลังไฟ 48 โวลท์ มาเพิ่มพลังการขับเคลื่อน และช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันลง กำลังสูงสุดทำได้ 392 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 55.9 กก.-ม. ชุดแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน มีขนาด 390 วัตต์-ชั่วโมง ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และนุ่มนวล ตามสถานการณ์ปกติจะขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง การขับเคลื่อนด้วยล้อทั้ง 4 จะใช้ระบบควอดราทแรค สามารถเลือกโหมดในการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพถนน ได้แก่ SAND/MUD, SNOW และ ROCK โดยมีสมรรถนะในการลากจูงถึง 1,000 ปอนด์ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 6.7 วินาที 0-160 กม./ชม. 17.7 วินาที ระยะ 402 ม. ใช้เวลา 15.1 วินาที ที่ความเร็วปลาย 149 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดทำได้ 188 กม./ชม. ระยะเบรคที่ความเร็ว 112 กม./ชม. จนหยุดนิ่ง 197 ฟุต อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน EPA ทำได้ดังนี้ โดยเฉลี่ย/ในเมือง/ไฮเวย์ 7.2/6.4/8.5 กม./ลิตร ระบบรองรับแบบถุงลม สามารถยกตัวรถสูงขึ้นจากพื้นได้เพิ่มขึ้นอีก 3.6 นิ้ว ระยะห่างจากใต้ท้องรถถึงพื้นดินมีถึง 10 นิ้ว สามารถลุยน้ำได้ลึก 24 นิ้วเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังได้รับการปรับเซทมาเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่บนไฮเวย์ด้วย ระบบอันทันสมัยที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในขณะขับขี่ ได้แก่ กล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา, อแดพทีฟครูสคอนทโรล, ไนท์วิชัน ที่จะช่วยเพิ่มการมองเห็นคน หรือสัตว์ที่เดินอยู่เบื้องหน้า, เซนเซอร์แจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุเคลื่อนมายังจุดบอด, การเบรคโดยอัตโนมัติ เมื่อรถเคลื่อนเข้าใกล้คน หรือจักรยาน ฯลฯ JEEP WAGONEER ยุค 2022 เป็นรถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่รักการผจญภัย ติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยมาให้เต็มคัน เครื่องยนต์ทรงพลังที่มาพร้อมความประหยัดเชื้อเพลิงด้วยระบบไฮบริด ระบบรองรับที่ให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย และยังสามารถลุยได้ไม่แพ้รถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไป เป็นรถตรวจการณ์ที่ถูกใจขาลุยยุคใหม่ที่ยังรักความสะดวกสบายอย่างแน่นอน   คุณรู้หรือไม่ ? แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดใหญ่ เมื่อนำมาทดสอบการยึดเกาะถนนบนแผ่นสกิดเพลท ซึ่งมีรัศมี 300 ฟุต JEEP WAGONEER 2022 ทำได้ 0.69 จี ถือว่าเป็นค่าที่ดีทีเดียว