เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ผู้กอบกู้แห่งท้องทะเล
เรือกู้ภัยเหล่านี้ ใช้วิธีใดช่วยเหลือเรือที่กำลังประสบปัญหา และกู้ซากเรืออับปางที่จมอยู่ก้นมหาสมุทรแทบทุกนาที จะมีเรือบรรทุกสินค้ากว่า 50,000 ลำ แล่นอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร เพื่อส่งสินค้าไปต่างประเทศ ยังไม่รวมเรือสำราญ, เรือประมง, เรือยอชท์ส่วนตัว และเรือลำเล็กลำน้อยอื่นๆ ที่มากจนนับไม่ถ้วน แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นนักล่องเรือที่เก่งกาจ หรือมีเรือที่ใหญ่โตอลังการเพียงใด อุปสรรค และภยันตรายที่ไม่คาดคิด ที่ยังอาจเกิดขึ้นได้เสมอ และแน่นอนว่า บางครั้ง พลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ก็อยู่เหนือความเชี่ยวชาญของนักเดินเรือที่ไปท้าทาย จะเกิดอะไรขึ้น หากเครื่องยนต์ขัดข้อง สภาพอากาศเลวร้ายทำให้เรือพลิกคว่ำ และกระทั่งหากกัปตันคาดการณ์ความลึกของน้ำผิดพลาด จนส่งผลให้เรือเกยตื้น นักเดินเรือปัจจุบันค่อนข้างโชคดี เพราะมีเทคโนโลยีการสื่อสารอันทันสมัยนี้ ทำให้การขอความช่วยเหลือนั้นง่ายพอๆ กับการใช้วิทยุติดต่อเรือยามชายฝั่ง และมีหลายหน่วยงานที่พร้อมจะทุ่มเท เพื่อกอบกู้สถานการณ์อันฉุกเฉินทางทะเลได้โดยทันที ด้วยเรือกู้ภัยที่ติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิต และอุปกรณ์กู้เรือที่อาจกำลังจมน้ำ หรือกำลังมอดไหม้ในเปลวเพลิง อย่างไรก็ตาม แม้องค์กรเหล่านี้ จะมีบทบาทสำคัญในการกอบกู้สถานการณ์อันเลวร้าย และดำเนินการตามขั้นตอนที่คล้ายกับปฏิบัติการกู้ภัย แต่เนื้องานของพวกเขาไม่ได้ถูกจัดอยู่ในหมวดกู้ภัยแต่อย่างใด เพราะหากเป็นงานกู้ภัย ผู้ช่วยชีวิตจะได้รับค่าตอบแทนจากความเสียสละ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรือกู้ภัยเหล่านี้ไม่ทำกัน แนวคิดเรื่องการจ่ายค่าตอบแทนนี้ เกิดจากภาครัฐที่ต้องการให้บรรดานักเดินเรือ มีแรงจูงใจในการช่วยชีวิตกันและกัน เพราะก่อนหน้าที่เทคโนโลยีจะช่วยให้เรือที่ประสบภัย สามารถขอความช่วยเหลือจากฝั่งได้ บรรดาลูกเรือที่เกยตื้นจะทำได้แค่เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไร หากบังเอิญมีเรือลำอื่นแล่นผ่านมา คนในเรือจะได้มีแรงจูงใจในการให้ความช่วยเหลือมากขึ้น เพราะนอกจากจะสุขใจที่ได้ช่วยแล้ว ยังสามารถขอรับรางวัลจากการช่วยเหลือในครั้งนี้ได้อีกด้วย ดังนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับเรือที่มีปัญหาจึงสูงมาก เพราะเป็นเรื่องปกติที่เรือลำที่มาช่วย จะขอต่อรองรางวัลกับเรือที่กำลังมีปัญหาก่อนที่งานกอบกู้จะเริ่มขึ้น ซึ่งเรือที่มาช่วย มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะรับข้อเสนอ หรือไม่รับ และไม่ให้การช่วยเหลือก็ได้ สุดท้าย เรือที่ไม่ได้รับการกอบกู้ ก็อาจจมลงสู่ก้นมหาสมุทร และปล่อยสารพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน, เชื้อเพลิง, พลาสติค และสารเคมีอื่นๆ จำนวนมากลงสู่ท้องทะเล การกู้ภัยที่แท้จริง ควรทำเพื่อให้เรือ หรืออย่างน้อยก็สินค้าที่เรือบรรทุกมารอดพ้นจากสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความพินาศทั้งชีวิต, ทรัพย์สิน และทรัพยากรบุคคล รู้หรือไม่ ? คาดว่า มีซากเรืออับปางจมอยู่ก้นมหาสมุทรประมาณ 3 ล้านลำ กู้เรือบรรทุกสินค้า MV MODERN EXPRESS เป็นเรือบรรทุกสินค้ายาว 164 ม. ทำหน้าที่ขนส่ง รถบรรทุก, ไม้ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ จากเมืองกาบอง, ประเทศแอฟริกา ไปยังเมืองเลอ อาฟร์, ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนมกราคมปี 2016 ขณะที่ MV MODERN EXPRESS แล่นผ่าน อ่าวบิสเคย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งสเปน ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำ ตัวเรือสูญเสียการควบคุม และพลิกคว่ำในที่สุด หลังจากที่ลูกเรือ 22 คน ได้รับการช่วยเหลือโดยเฮลิคอพเตอร์ เรือกู้ภัยก็มาถึง ทีมงานกู้ภัยอดทนรอคอยให้สภาพอากาศดีขึ้น จนกระทั่ง วันที่ 3 กุมภาพันธ์ เรือ MV MODERN EXPRESS ก็ถูกลากไปยังท่าเรือในเมืองบิลบาโอ ประเทศสเปนได้สำเร็จ และต้องใช้เวลาอีกกว่า 3 สัปดาห์ ในการตั้งเรือให้ตรงตามเดิม โดยถังทุ่นลอยน้ำในท้องเรือกลับมาให้มีความสมดุลอีกครั้ง สมบัติแห่งทิวดอร์ MARY ROSE เป็นเรือรบประจำกองทัพเรือของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ถูกใช้งานเมื่อปี 1545 ในการรบที่ช่องแคบโซเลนท์ MARY ROSE พลิกคว่ำ และจมลงสู่ก้นมหาสมุทร ต่อมาในปี 1836 จึงมีการค้นพบพิกัดที่ซากเรือลำนี้หลับใหลอยู่ สิ่งของมีค่าหลายอย่างในเรือ เช่น ปืน ถูกกู้ขึ้นมา ส่วนชาวประมงที่ค้นพบพิกัดของ MARY ROSE ได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวน 1 ใน 3 จากมูลค่าสิ่งของ จนกระทั่งปี 1982 MARY ROSE จึงถูกกู้ขึ้นมาจากก้นมหาสมุทร ด้วยโครงยกที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ และปั้นจั่นขนาดใหญ่ MARY ROSE ถูกยกขึ้นจากโซเลนท์ ระหว่างเกาะไวท์ และพอร์ทสมัธ กู้เรือที่จม ในเดือนมกราคม 2012 เกิดเหตุเรือสำราญ COSTA CONCORDIA เคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเกาะ อิโซลา เดล จิโญ ของอิตาลี มากเกินไป จนชนเข้ากับหินใต้น้ำ เรือจึงพลิกคว่ำ และเริ่มจมลง ในตอนนั้นภารกิจหลักของเรือกู้ภัย คือ การช่วยชีวิต หลังจากนั้น 6 ชม. ผู้โดยสารส่วนใหญ่ได้ถูกนำขึ้นฝั่ง ส่วนซากเรือกู้ขึ้นมาได้ในเดือนกันยายน โดยถูกยกขึ้นในแนวตั้ง และลากไป 321.87 กม. ถึงเจนัว ซึ่งเป็นท่าเรือหลัก เพื่อทำลาย และนำโลหะ รวมถึงวัสดุของมันไปขาย ต้องใช้ความพยายามกว่า 3 สัปดาห์ ก่อนที่ MV MODERN EXPRESS จะถูกส่งกลับไปยังเจ้าของ มีผู้เสียชีวิต 32 ราย จากอุบัติเหตุของ COSTA CONCORDIA วินาศกรรมหลังสงคราม สกาปา ฟโลว์ เป็นแหล่งน้ำที่ล้อมรอบด้วยหมู่เกาะออร์คนีย์ในสกอทแลนด์ ซึ่งเป็นเรือ 52 ลำ จากกองเรือไฮซีย์ของเยอรมนีจมลงในเดือนมิถุนายน ปี 1919 และไม่ได้ถูกกอบกู้ทันที เนื่องจากการจมครั้งนั้นเกิดขึ้นโดยเจตนา ซึ่งเป็นการตัดสินใจของบรรดาพลเรือเอกประจำกองรบ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีถูกบังคับให้ส่งมอบเรือรบที่มีอยู่ให้แก่กองทัพอังกฤษ ทำให้กองเรือเยอรมนีไม่พอใจ จึงตัดสินใจจมเรือตัวเองลงสู่ก้นสมุทร และนับตั้งแต่ปี 1922-1979 เรือรบเหล่านั้นก็ถูกกู้ขึ้นมาทีละลำ และนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ จนวันนี้เหลือเรือเพียง 7 ลำเท่านั้นที่ยังคงหลับใหลอยู่ใต้ก้นท้องทะเล ภาพสมอเรือรบเยอรมนีที่ถ่ายได้จากใต้มหาสมุทรบริเวณสกาปา ฟโลว์ ชิงเรือดำน้ำ K-129 เป็นเรือดำน้ำโซเวียตติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ถึง 3 ลูก หลังการหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุในเดือนมีนาคม1968 และความล้มเหลวในการตามหา K-129 ของสหภาพโซเวียต ทางสหรัฐอเมริกาก็เริ่มออกค้นหา เพื่อนำเรือดำน้ำดังกล่าวไปเป็นของตนเอง ภารกิจนี้มีชื่อรหัสโครงการว่า AZORIAN ซึ่งไม่กี่สัปดาห์ให้หลัง สหรัฐอเมริกา ก็ค้นพบพิกัดของเรือดำน้ำ แต่การจะกอบกู้ขึ้นมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะทีมกู้ต้องวางแผนยกเรือดำน้ำที่หนัก 1.4 ล้านกิโลกรัม เป็นระยะทาง 4.99 กม. ในน้ำ แถมเรือยังได้รับการออกแบบให้มีท่อเหล็กที่มีลักษณะคล้ายกรงเล็บขนาดใหญ่ที่ปลายเรือด้วย อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการกอบกู้กลับไม่เป็นไปตามแผน เพราะส่วนหนึ่งของกรงเล็บหัก ส่งผลให้เรือดำน้ำบางส่วนตกลงสู่ก้นทะเล แต่สุดท้าย ส่วนหนึ่งของเรือดำน้ำก็ถูกกู้กลับมา ฐานสำหรับกู้คืนเรือดำน้ำ K-129 (สีแดง) 5 ขั้นตอนช่วยเหลือเรือที่ประสบปัญหา 1. การลากจูง หากเรือมีปัญหาทางเทคนิค และไม่สามารถผลิตพลังงานเพื่อขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ ผู้ช่วยเหลือสามารถลากเรือลำนั้นไปยังที่ปลอดภัยได้ 2. การนำทาง ชาวท้องถิ่นย่อมรู้จักพื้นที่ทางทะเลมากกว่ากัปตันเรือ สามารถขอคำแนะนำ เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยจากผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับสภาพของพื้นที่ได้ 3. ดับเพลิง เรือกู้ภัยจะติดตั้งปืนใหญ่ฉีดน้ำ เพื่อให้สามารถดับไฟบนเรือลำอื่นได้จากระยะที่ปลอดภัย 4. ประคอง ติดถุงลมนิรภัยขนาดใหญ่ด้านข้างของเรือที่กำลังจมให้เรือยังคงลอยลำได้ระหว่างภารกิจกู้ภัย ช่วยยืดระยะเวลาในการช่วยชีวิตให้นานขึ้น 5. เคลียร์ออกให้หมด เมื่อพิจารณาแล้วว่า เรือจะจมแน่ๆ ปฏิบัติการกอบกู้จะเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้คน และเก็บกู้สิ่งของมีค่าแทน ภารกิจการกู้คืน พลังของเรือลากจูง เครื่องกว้าน เรือช่วยเหลือจะยกเรืออีกลำจากใต้น้ำ หรือดึงให้เข้ามาใกล้ด้วยสายเคเบิล เครื่องกว้านจะปรับความตึงของสายเพื่อดึงสายเคเบิลเสริมที่อยู่ด้านล่าง ทำให้เรือที่ได้รับความช่วยเหลือถูกดึงมายังพื้นที่ปลอดภัย ประตูห้องเก็บอุปกรณ์ ทางเข้าห้องเก็บของมีอุปกรณ์กู้ภัยที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นสายเคเบิลสำรอง, อุปกรณ์ดับเพลิง, อุปกรณ์ดำน้ำ และปั๊มน้ำในกรณีที่เรือถูกน้ำท่วม รู้หรือไม่ ? หากรางวัลของการเข้าช่วยเหลือมีมูลค่าเท่ากับมูลค่าของเรือ เจ้าของเรือสามารถยกเรือทั้งลำให้ได้เลย ส่งสัญญาณด้วยรูปทรง บางครั้งปฏิบัติการกู้ภัยอาจกินพื้นที่ในวงกว้าง และหากการลากจูงเกิดขึ้นใต้ผิวน้ำ เรือลำอื่นๆ อาจมองไม่เห็นการดำเนินการนี้ ดังนั้น เพื่อเตือนให้เรือลำอื่นๆ ตระหนักถึงปฏิบัติการที่กำลังดำเนินอยู่ ลูกเรือสามารถแขวนรูปทรงขนาดใหญ่ไว้บนเสาด้านหน้าได้ การเรียงลำดับ ลูกบอล-เพชร-ลูกบอล ในแนวตั้งตามภาพ หมายถึง เรือสามารถเคลื่อนไหวได้จำกัด ในขณะที่รูปทรงเพชรเม็ดเดียว หมายถึง เรือกำลังอยู่ในกระบวนการลากจูง จอสำหรับปฏิบัติการดับเพลิง เครื่องฉีดน้ำความเร็วสูงเหล่านี้จะถูกควบคุมจากห้องคนขับ เพื่อเล็งไปยังพื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ โดยเครื่องสูบน้ำสามารถสูบน้ำได้กว่า 50,000 ลิตร/นาที เครื่องยนต์คู่ เรือลากจูงทั่วไปมีเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 500-2,500 กิโลวัตต์ 2 เครื่อง จึงสามารถปฏิบัติภารกิจได้โดยไม่ต้องอาศัยความช่วยเหลือ แกร่งกว่าที่เห็น เรือลากจูงกู้ภัย มีความแข็งแกร่ง หากเทียบกับความยาว 20-30 ม. ของมัน ตัวเรือมีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สัมพันธ์กับขนาด เมื่อรวมกับใบพัดที่กว้างแล้ว แม้จะเคลื่อนที่ได้ช้า แต่ก็มีแรงขับสูงมาก เรือชูชีพ หลายครั้งเรือกู้ภัยจำเป็นต้องอพยพผู้โดยสารบนเรืออีกลำออกมาก่อน โดยเฉพาะ เมื่อชีวิตของผู้โดยสารเหล่านั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย ด้วยการใช้เครนหย่อนเรือชูชีพขนาดเล็กลงไปในน้ำ ทำให้เข้าถึงผู้โดยสารที่ประสบภัยได้ง่ายขึ้น และช่วยให้บรรดาลูกเรือบังคับทิศทางให้เข้ามาใกล้กับเรือกู้ภัยได้ ไฟหน้า เปิดไฟนี้ตั้งแต่หลังอาทิตย์ตกจนถึงเช้าวันถัดไป เพื่อให้เรือลำอื่นๆ และเรือที่กำลังต้องการความช่วยเหลือเห็น และสามารถคำนวณระยะทางได้ การสื่อสาร เสาอากาศวิทยุช่วยให้เรือสามารถสื่อสารรายละเอียดที่จำเป็นของภารกิจกอบกู้ไปยังยามชายฝั่งที่พวกเขาอาจจะลากเรือที่ประสบปัญหากลับไปได้ และช่วยให้สื่อสารกับเรือลำอื่นได้ด้วย โคมไฟมอร์ส โคมไฟนี้แสดงแสงแฟลชทั้งยาว และสั้น เพื่อให้ลูกเรือสามารถสื่อสารกับเรือใกล้เคียงได้ โดยใช้รหัสมอร์ส ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง หากเรือที่ประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงระบบสื่อสารอื่นได้ ไซเรน เป็นหน้าที่ของเรือกู้ภัยอยู่แล้วที่จะต้องรุดไปยังที่เกิดเหตุ และหากยังต้องการความช่วยเหลือจากเรือลำอื่นๆ อีก เรือกู้ภัยก็สามารถใช้เสียงไซเรนในการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ ปฏิบัติตามกฎหมายการเดินเรือ ปฏิบัติการกอบกู้ส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยผู้กอบกู้มืออาชีพ แต่ก็มีหลายครั้งที่เรือลำอื่นอาจได้รับการช่วยเหลือโดยสมัครใจจากเรืออีกลำที่บังเอิญผ่านมา ตราบใดที่เรือซึ่งให้การช่วยเหลือเรือไม่ได้ลงมือช่วยเหลือเพราะมีพันธะสัญญาผูกพันกับเรือที่ประสบภัย ความพยายามนั้นก็จะได้รับรางวัลตอบแทน ซึ่งขึ้นอยู่กับมูลค่าของเรือ และทรัพย์สินที่กู้คืนมาได้ แต่หากของที่ได้รับการกู้คืน ไม่ได้มีมูลค่าอะไร การจ่ายรางวัลก็อาจไม่เกิดขึ้นเช่นกัน และปฏิบัติการช่วยเหลือจะถูกจัดอยู่ในหมวดการกู้ภัย ก็ต่อเมื่อเรือ และผู้โดยสารในเรือที่ประสบปัญหากำลังตกอยู่ในสภาวะอันตรายจริงๆ อีกด้วย หน่วยยามชายฝั่งประจำกองทัพสหรัฐฯ มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทางทะเล
เรื่องโดย : HOW IT WORKS
ภาพโดย : สืบยศ สุวรรณหงษ์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2564
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/388060