มาตรวัดตลาดรถ
เนื้อกำลังหอม
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์สะสม มกราคม-กรกฎาคม 2021/2020
ตลาดโดยรวม +9.7 %
รถยนต์นั่ง -0.9 %
กระบะ 1 ตัน +12.9 %
รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ +26.2 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2021/2020
ตลาดโดยรวม +11.6 %
รถยนต์นั่ง -9.8 %
กระบะ 1 ตัน +15.0 %
รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ +2.3 %
ผ่านพ้นกันไปแล้ว 7 เดือน แม้ว่าจะมียอดขายภายในประเทศ จำนวน 52,442 คัน ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ลดลง 11.62 % เพราะมีการลอคดาวน์ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ลูกค้าจึงระมัดระวังในการใช้เงิน มีการยกเลิกการจองรถ หรือเลื่อนการรับรถออกไป รวมทั้งการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน และการชะลอการผลิตรถยนต์รุ่นที่นิยมจากการขาดแคลนชิพ และชิ้นส่วนรถยนต์จากการระบาดของ COVID-19 ในประเทศ และประเทศคู่ค้าที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์
แต่กระนั้น ยอดการขายในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ขายกันไป 425,633 คัน เพิ่มขึ้น 9.71 % ขณะที่ยอดการส่งออก ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะแม้จะเป็นช่วงของโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 ก็ยังสามารถทำยอดการส่งออกได้เพิ่มขึ้น เรียกว่า ประเทศไทย กำลังอยู่ในสภาวะของ ประเทศเนื้อหอม
ขณะที่การแถลงข่าวของค่ายผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงยักษ์ใหญ่ ปตท. ที่จับมือกับ FOXCONN บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ยักษ์ใหญ่ ที่เลือกประเทศไทย ในการลงทุนสร้างโรงงานเพื่อการผลิตรถไฟฟ้า ในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตราว 150,000-200,000 คัน/ปี โดยคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2566
อันที่จริง FOXCONN มีชื่อเสียงในวงการอีเลคทรอนิคส์มายาวนาน กับการผลิตอุปกรณ์หลายๆ อย่างให้แก่ APPLE, GOOGLE, FACEBOOK, MICROSOFT, AMAZON, HP และ XIAOMI โดยเฉพาะ IPHONE โดยในระยะหลัง FOXCONN มีการขยายไลน์ธุรกิจของตัวเองเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับรถยนต์ รวมถึงการพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่
โดยแผนงานของ FOXCONN เข้าซื้อกิจการของ MACRONIX INTERNATIONAL ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตชิพหน่วยความจำมูลค่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นัยว่าเพื่อให้บริษัทมีแหล่งวัตถุดิบที่มากพอสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
แม้ว่าสื่อญี่ปุ่นจะมีการวิเคราะห์ว่า การรุกคืบในธุรกิจ EV ของ FOXCONN นี้มีขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในธุรกิจสมาร์ทโฟน ที่ปัจจุบัน ตลาดมีการเติบโตน้อยลง และ APPLE ซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญ ยังพยายามมองหาซัพพลายเออร์รายใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อมาผลิต IPHONE ด้วยนั่นเอง
ก็ต้องยอมรับว่า ผู้เล่นรายใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ของประเทศไทย จะช่วยผลักดันให้ รถยนต์ไฟฟ้า สามารถแจ้งเกิดในบ้านเราได้อย่างรวดเร็วเสียที หลังจากมีแต่ข่าวรายงานการประชุมของบรรดา พณหัวเจ้าท่าน มากมาย จนเขียนกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว
ขณะเดียวกัน กสิกรไทย ก็เล็งว่า การส่งออกรถยนต์ปี 2564 มีโอกาสฟื้นตัว หลังประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ดีขึ้นกว่าปีก่อน และค่ายรถโยกฐานผลิตเพื่อส่งออกมายังไทยเพิ่มขึ้น ทว่าจากความเสี่ยงที่ยังกดทับอยู่ ทำให้ยังมีมุมมองที่ระมัดระวัง โดยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์จะอยู่ระหว่าง 890,000-950,000 คัน ขยายตัว 21.0-28.0 % จากฐานที่ต่ำมากในปีที่แล้ว
ขณะที่ด้านสภาอุตสาหกรรมฯ ก็ยังขอเวลาในการพิจารณาตัวเลขให้ถี่ถ้วนก่อน ยังไม่กล้าฟันธงว่าจะสามารถส่งออกได้ขนาดนั้น เพราะยังมีปัญหาความขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่แม้จะมีขนาดเล็กนิดเดียว แต่รถคันหนึ่งๆ โดยเฉพาะรถยนต์สมัยใหม่ๆ ทั้งหลายเนี่ย ใช้เซมิคอนดัคเตอร์กันเกือบคันละ 1,000 ชิ้นทีเดียว ขนาดยักษ์ใหญ่ ที่มีการเตรียมการด้านชิ้นส่วนอย่างดี ต้องระงับสายการผลิตถึง 40 % มาแล้ว เพราะเรื่องง่ายๆ คือ ของขาด
นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา ข่าวคราวค่ายรถยนต์จากประเทศจีน ก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น ล่าสุด เปิดหน้ามาอีกราย CHERY (เชอรี) ที่เคยมาบุกเมืองไทยพักใหญ่ๆ แล้ว แต่คราวนี้ได้ยินว่า บริษัทแม่มาเอง อาจจะเพราะการแข่งขันกันในตลาดประเทศจีน เริ่มเข้มข้นมากขึ้น มีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวเลือกมากมาย ทั้งยี่ห้อใหม่ๆ ที่มีข่าวว่าบุกตะลุยกันไปในตลาดยุโรป หลายค่าย หลายยี่ห้อ ทำให้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหลาย ต้องหาทางผ่องถ่ายมาประเทศอื่นกันบ้าง
และขอแสดงความยินดีกับผู้บริโภคชาวไทย ที่จะได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อใหม่ๆ ที่แปลกแตกต่างจากยี่ห้อเดิมๆ กันเสียที
ส่วนว่าจะได้ปวดศีรษะกับค่าซ่อม หรือค่าอะไหล่ ของรถยนต์ยี่ห้อใหม่ๆ ที่เพิ่งจะได้พบเจอกันเป็นครั้งแรกแล้ว จะได้พิสูจน์กันเสียทีว่า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ยังอยู่ดีมีสุขอยู่หรือเปล่า
แค่ราคาแบทเตอรีลูกเดียว สำหรับรถยนต์ธรรมดา ไม่ได้เป็นระดับซูเพอร์คาร์อะไรสักหน่อย ตั้งราคาไว้ลูกละ 1 หมื่นบาทไทย เท่านั้นเอง แต่ถ้าพี่ไม่เปลี่ยน รถก็วิ่งไม่ได้
เอ…ยี่ห้ออะไรหว่า ใครรู้บ้าง
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/384642