วิถีตลาดรถยนต์
เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์สะสม มกราคม-ตุลาคม 2020/2019
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2020/2019
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของฤดูกาลค้าขายปี 2563 ใครมีทีเด็ดอะไรก็ต้องปล่อยออกมาในช่วงเวลา 3 เดือนสุดท้ายของปี สำหรับตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงของเดือนตุลาคม 2563 นี้มีรวมทั้งสิ้น 74,115 คัน จัดอยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนตุลาคม 2562 เพราะติดลบไปเพียง 3.9 % โดยรถยนต์ TOYOTA (โตโยตา) ยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดรวมอยู่เช่นเคยมีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 25,646 คัน คว้าส่วนแบ่งการตลาดไปครอง 34.6 % อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนตุลาคม 2562 แล้วเป็นยอดจำหน่ายที่ติดลบไป 3.7 % รองลงมาเป็นรถยนต์ ISUZU (อีซูซุ) จำหน่ายไปได้รวม 17,174 คัน ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 23.2 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 44.8 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 อันดับ 3 เป็นรถยนต์ HONDA (ฮอนดา) จำหน่ายไปรวม 9,011 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12.2 % ติดลบไป 7.2 % อันดับ 4 รถยนต์ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) จำหน่ายได้รวม 4,814 คัน ส่วนแบ่งการตลาดที่ 6.5 % ติดลบไป 31.8 % และอันดับ 5 รถยนต์ NISSAN (นิสสัน) จำหน่ายรวม 4,014 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.4 % ติดลบไป 17.3 %
รวมตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ 9 เดือนตั้งแต่มกราคมถึงตุลาคม 2563 อยู่ที่ 608,880 คัน ลดลง 27.4 % เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ซึ่ง 5 รถยนต์มหานิยมยังคงประกอบด้วย TOYOTA, ISUZU, HONDA, MITSUBISHI และ NISSAN ไล่เรียงกันไปตามยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นโดย TOYOTA รั้งอันดับ 1 ด้วยยอดสะสมรวม 182,453 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 30.0 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 33.7 % เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2562 ตามด้วย ISUZU 140,700 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 23.1 % เพิ่มขึ้น 2.1 % ต่อด้วย HONDA 74,058 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.2 % ลดลง 31.0 % MITSUBISHI 45,336 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 7.4 % ลดลง 39.1 % และ NISSAN 37,061 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.1 % ลดลง 32.1 %
สำหรับรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนตุลาคม 2563 ทั้งตลาดมีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 36,710 คัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการใช้งานประเภทนี้ของเดือนตุลาคม 2562 โดยลดลง 1.7 % ซึ่ง ISUZU ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับที่ 1 ของผู้ใช้รถยนต์ประเภทนี้เดือนตุลาคมนี้กวาดยอดจำหน่ายเพิ่มได้อีก 15,940 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 43.4 % มียอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 50.8 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 อันดับที่ 2 เป็นพิคอัพ TOYOTA จำหน่ายได้รวม 13,839 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 37.7 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 11.5 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 อันดับ 3 พิคอัพของ FORD (ฟอร์ด) จำหน่ายได้รวม 2,198 คัน ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 6.0 % ลดลง 37.5 % เทียบกับเดือนตุลาคม 2562 อันดับ 4 พิคอัพ MITSUBISHI จำหน่ายได้ 2,169 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5.9 % เทียบกับเดือนตุลาคม 2562 แล้วจำหน่ายได้น้อยลงถึง 44.6 % และอันดับ 5 พิคอัพของ NISSAN จำหน่ายได้ 1,253 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 3.4 % ลดน้อยลง 42.4 %
ปี 2563 วันเวลาเดินทางผ่านไปแล้ว 9 เดือนตลาดรถยนต์ประเภทรถพิคอัพ 1 ตัน มียอดจำหน่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 307,154 คัน ลดลง 24.5 % เมื่อเทียบกับเวลา 9 เดือนของปี 2562 ค่อนข้างเป็นที่แน่นอนว่าตำแหน่งของแชมพ์พิคอัพมหาชนประจำปีไม่พ้นมือของ ISUZU เพราะช่วงห่างของตัวเลขยอดจำหน่ายของ ISUZU กับของ TOYOTA ที่ตามมาในอันดับที่ 2 ห่างกันเกินกว่าช่วงเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนจะทำให้ TOYOTA พลิกสถานการณ์กลับมาคว้าแชมพ์ไปครองได้คงต้องไปว่ากันใหม่ในปี 2564 โดย ISUZU จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 129,985 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 42.3 % เพิ่มขึ้น 3.9 % ขณะที่ TOYOTA จำหน่ายแล้วรวม 107,277 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 34.9 % ลดลง 32.5 % อันดับ 3 เป็นของ MITSUBISHI ที่จำหน่ายไปแล้วรวม 26,039 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.5 % ลดลง 36.8 % อันดับ 4 เป็น FORD ด้วยยอดจำหน่ายรวม 20,985 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.8 % ลดลง 49.7 % และอันดับ 5 NISSAN จำหน่ายแล้วรวม 12,884 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.2 % ลดลง 42.6 %
ประเภทรถเอสยูวี เดือนตุลาคม 2563 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 7,335 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2562 ถึง 34.9 % เป็นรถเอสยูวีของ TOYOTA ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเดือนนี้ จำหน่ายได้ 1,964 คัน เพิ่มขึ้นถึง 194.5 % เมื่อเทียบกับตุลาคม 2562 ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 26.8 % อันดับ 2 รถยนต์ MG (เอมจี) ได้ไปจากยอดจำหน่าย 1,825 คัน เพิ่มขึ้น 2.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.9 % อันดับ 3 HONDA จำหน่ายได้ 1,778 คัน ลดลง 8.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.2 % อันดับที่ 4 เป็น MAZDA (มาซดา) จำหน่ายได้ 1,276 คัน เพิ่มขึ้นถึง 238.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 17.4 % และอันดับ 5 SUBARU (ซูบารุ) จำหน่ายได้ 289 คัน ลดลง 1.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 3.9 % ตั้งแต่มกราคมถึงตุลาคมรถเอสยูวี มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 51,203 คัน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 แล้วเป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 11.1 % ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นของ MG จำหน่ายแล้วรวม 13,327 คัน ลดลง 0.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 26.0 % ตามด้วย HONDA จำหน่ายได้รวม 12,393 คัน ลดลง 50.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.2 % TOYOTA 10,553 คัน เพิ่มขึ้น 1.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 20.6 % MAZDA จำหน่ายแล้วรวม 8,929 คัน เพิ่มขึ้นถึง 109.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 17.4 % และ CHEVROLET (เชฟโรเลต์) จำหน่ายแล้วรวม 2,588 คัน เพิ่มขึ้น 887.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.1 % อนึ่งในเดือนตุลาคมนี้มีการจดทะเบียนรถยนต์ประเภทพิคอัพ และเอสยูวี รวมกันทั้งสิ้น 40,899 คัน ลดลง 6.8 % เมื่อเทียบกับตัวเลขจดทะเบียนรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทในเดือนตุลาคม 2562
สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ประเภทอื่นๆ เดือนตุลาคม 2563 มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 7,609 คัน เพิ่มขึ้น 90.3 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2562 และ 9 เดือนของปี 2563 มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 39,301 คัน เพิ่มขึ้น 2.6 % เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2562
ตลาดโดยรวม | -27.4 % |
รถยนต์นั่ง | -37.1 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | -11.1% |
กระบะ 1 ตัน | -24.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ | +2.6 % |
TOTAL VEHICLE/ตลาดโดยรวม | -3.9 % |
SUV/รถกิจกรรมกลางแจ้ง | +34.9 % |
กระบะ 1 ตัน | -1.7 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ | +90.3 % |
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2564
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/355907