มุมมองนักออกแบบ
บีเอมดับเบิลยู เปลี่ยนกระจังหน้าก็แจ่มเลย !
บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 ใช้พแลทฟอร์มเดียวกับ ซีรีส์ 3 และ ซีรีส์ 4 (CLUSTER ARCHITECTURE หรือ CLAR) ซึ่งเป็นรถแนวคิด 1 ใน 25 รุ่น ของ บีเอมดับเบิลยู ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดโลก ภายในปี 2023 ซึ่งจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นรถไฟฟ้า โดยวางเป้าหมายจำหน่ายรถไฟฟ้าให้ได้ร้อยละ 30 ของยอดขายทั้งหมดในปี 2025 ส่วนทีมนักออกแบบจะมีความคิดเห็นต่อรถคันนี้อย่างไร เชิญติดตาม
• ภายนอก
ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ มีกำหนดการจะไปอวดโฉมในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2020 แต่งานถูกยกเลิกเพราะไวรัส “COVID-19” จึงได้หันมาใช้วิธีเปิดตัวทางออนไลน์ที่เกือบทุกค่ายทำกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 คันนี้ คือ ตัวอย่างของการยึดติดกับการมีกระจังหน้า ลักษณะเป็นรูจมูก ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องมี เพราะผมมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่รถจะไม่มีกระจังหน้า ตัวอย่างเช่น บรรดาซูเพอร์คาร์เกือบทั้งหมดนั้นไม่มีกระจังหน้า ในอนาคตรถจะมีด้านหน้าที่สวยขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าทุกคนยอมรับได้กับการที่ รถจะไม่มีกระจังหน้า อภิชาติ : กระจังหน้าของ บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 แม้จะไม่มีรูเพื่อระบายอากาศ แต่ถือเป็นบุคลิกที่ฝังรากไปแล้ว ผมสังเกตเวลาสอนนักศึกษาเรื่องการออกแบบรถยนต์ เมื่อไรที่ให้ออกแบบรถไฟฟ้า บุคลิกด้านหน้าของรถจะแตกต่างไปเลย เขาจึงยังต้องมีกระจังหน้าแบบที่คุ้นเคย ดูนิ่งๆ ไม่หวือหวา ภัทรกิติ์ : การออกแบบด้านหน้าลักษณะนี้ เรียกว่าเป็น LEGACY FACE หรือหน้าตาที่เป็นมรดกตกทอด สำหรับคันนี้ คนส่วนใหญ่อาจตกใจว่าทำไมกระจังหน้ายาวลงมาข้างล่าง เพราะยังไม่ชินกับมัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้านหน้ายาวตั้งลงมาข้างล่างแบบนี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่รถยุคโบราณ เพียงแต่ของ บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 ดูอลังการมากไป อภิชาติ : ผมมองว่า บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 เกือบจะเป็น พโรโทไทพ์แล้ว รายละเอียดของด้านหน้าจะออกมาแบบนี้แน่นอน รวมถึงเส้นด้านข้างที่มีลักษณะเหมือนไม้ฮอคกี และเหมือนกับ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ที่ใช้เป็นเส้นโครเมียม ถ้าสังเกตให้ดี ส่วนประกอบต่างๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็น ประตู มือจับ แม้กระทั่งเสา เอ บี และซี เป็นของพโรดัคชันคาร์ชัดเจน เพราะถ้าเป็นโชว์คาร์ มันจะมีลักษณะหวือหวา กว่านี้ แต่เชื่อว่า จะมีการพัฒนาปรับตกแต่งหน้ากระจังให้มีความลาดเอียง พร้อมกับเล่นเรื่อง พื้นผิวให้มีรีฟเลกซ์ คล้ายคลึงกับค่าย ดาวสามแฉกของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ภัทรกิติ์ : ด้านข้างของ บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ ไอ 4 สวยแบบอนุรักษนิยม มีลักษณะเดียวกับ กรัน คูเป ที่ด้านข้างมีสัดส่วนที่สวยงาม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใช้กันใน เอาดี ดีไซจ์นด้านท้ายแบบรถฟาสต์แบค ส่วนดีไซจ์นอื่นๆ ที่เคยมีของ บีเอมดับเบิลยู ดูลดน้อยลง อาจจะไปยึดติดกับเรื่องกระจังหน้าจนลืมคิดถึงสิ่งอื่น แต่ผมเชื่อเหมือนกันว่า ด้านหน้าจะมีการปรับอีกแน่นอน แต่ที่ทำแบบนี้ออกมาก่อน เพราะต้องการฟังเสียงวิจารณ์ แล้วค่อยนำไปปรับตามกระแส และการออกแบบกระจัง-หน้าแบบนี้คงไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยเรื่องการชน เพราะดูบอบบางเกินไป อภิชาติ : นอกจากจะออกแบบให้สวยงามอย่างมีบุคลิกแล้ว ช่องระบายลม ของซุ้มล้อ ด้านหน้า และด้านท้าย ยังมีการออกแบบให้เกิดการระบายอากาศอย่างลงตัว ส่วนกระจังหน้า ถ้าจะไม่ให้ถูกวิจารณ์เลย ควรต้องมีพื้นที่ด้านล่างกระจังหน้าเหมือนรถในกลุ่ม ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ของ บีเอมดับเบิลยู ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ เป็นอีกคันที่มีการใช้ ไฟท้ายที่ผอมเพรียว ไฟหน้าที่ผอมบาง แต่ไฟท้ายเหมือนจะยังไม่ล้ำสมัยเท่าไฟหน้าที่ยาวเรียว และที่สำคัญต้องออกแบบท้ายรถให้รับกับไฟท้าย เพื่อให้ดูลงตัว และสวยงามมากที่สุด• ภายใน
ภัทรกิติ์ : การออกแบบภายในห้องโดยสาร เริ่มเป็นไปตามทเรนด์ด้วยการหันมาใช้หน้าจอยาวเหมือน เมร์เซเดส-เบนซ์ แต่สิ่งที่ไม่ปรับเปลี่ยน คือ ไอ-ดไรฟ แต่เพิ่มความน่าสนใจ ยิ่งขึ้นด้วยการใช้ไฟแอลอีดีเป็นไฮไลท์ ทำให้ดูหวือหวา สำหรับรถยุคปัจจุบัน เราจะสังเกตว่า เส้นสายต่างๆ ภายในรถจะไม่ขาด และมีทิศทางไปในทางเดียวกันเสมอ และที่ผ่านมา บีเอมดับเบิลยู จะใช้แดชบอร์ดเอียงเข้าหาผู้ขับขี่ แต่สำหรับรถคันนี้ได้ก้าวไปอีกขั้น เพราะใช้แดชบอร์ดแบบตรง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เห็นใน บีเอมดับเบิลยู ซีรีย์ 2 กรัน คูเป อภิชาติ : หน้าจอยาวกำลังเป็นที่นิยม แต่ช่องแอร์ยังดูเป็นคอนเซพท์คาร์ เป็นงานดีไซจ์น ที่คงความเป็น บีเอมดับเบิลยู แต่ผมว่าน่าจะมีการหาแนวทางใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้าไป อีกอย่าง คือ การทำรถต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องทำแบบฉีดขึ้นรูป แต่สามารถออกแบบเป็นกึ่งสำเร็จรูป แล้ว นำหน้าจอมาติดตั้งเข้าไปเลย ภัทรกิติ์ : วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งห้องโดยสาร เปลี่ยนมาชุบสีทองแดง (COPPER) แทนชุบโครเมียม เพราะทองแดงเป็นทเรนด์ใหม่ของรถไฟฟ้า อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทองแดงมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค ตัวอย่างเช่น เชื้อโรค หรือแบคทีเรียบนไม้ หรือโลหะชนิดอื่น จะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 วัน แต่บนทองแดงจะมีชีวิตอยู่ได้แค่ 2-8 ชม. เท่านั้น และจากนี้ไปนิยามของ LUXURY MATERIALS น่าจะเปลี่ยนไป• ภาพรวม
ภัทรกิติ์/อภิชาติ : รายละเอียดของเส้นสายมีความไหลลื่นต่อเนื่อง ภาพโดยรวมทั้งหมดดูเหมือนไม่ใช่รถแนวคิด แต่ได้รับการรังสรรค์เพิ่มเติมมาเรื่อยๆ จนน่าจะเป็น พโรโทไทพ์ หรือรถต้นแบบมากกว่า และคาดว่า คันที่ออกขายจริง น่าจะเปลี่ยนแปลงแค่ส่วนกระจังหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยเรื่องการชนเรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2563
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/328564