มุมมองนักออกแบบ
เลกซัส ยูเอกซ์ รุ่นเล็กสเปคใหญ่
ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นเล็ก เซกเมนท์ล่าสุด จากค่าย เลกซัส เปิดตัวในบ้านเราช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยพัฒนาต่อยอดจาก เลกซัส ยูเอกซ์ คอนเซพท์ เมื่อปี 2016 และถือเป็น “ENTRY LEVEL” ในกลุ่ม ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ของบแรนด์ ด้วยราคาค่าตัวที่เรียกเสียงฮือฮา (ทางบวก) จากแฟนๆ ได้ดีทีเดียว ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ทีมนักออกแบบของเราจะมีความคิดเห็นในทิศทางใดเชิญติดตามภัทรกิติ์ : เลกซัส ยูเอกซ์ ที่ขายในบ้านเรามีแต่รุ่น ไฮบริด แต่มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยพัฒนารถรุ่นนี้บนพื้นฐาน GA-C ซึ่งเป็นพแลทฟอร์มย่อยในกลุ่ม TNGA (TOYOTA NEW GLOBAL ARCHITECTURE) ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกับ โตโยตา ซี-เอชอาร์ เพราะเป็น ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ขนาดเล็ก แต่ถูกลบจุดด้อยออกไป และเพิ่มเติมความหรูหราตามแนวทางของ เลกซัส เข้ามา ข้อดีของรถคันนี้เท่าที่ได้สัมผัส ห้องโดยสารเงียบ ตัวถังแน่น และน้ำหนักเบา ซึ่งส่งผลโดยตรงกับการบังคับควบคุม เสียงยางเสียดสีกับพื้นถนนลดลงมาก เมื่อเทียบกับ ซี-เอชอาร์ และอีกสิ่งที่ได้รับการแก้ไขชัดเจน คือ ผู้โดยสารด้านหลังไม่ต้องนั่งอยู่ในถ้ำอีกแล้ว เพราะได้เพิ่มพื้นที่กระจกมากขึ้น อภิชาต : รถคันนี้กระจังหน้ารถกับกระจกมีบุคลิกชัดเจน ลองดูกันในส่วนที่เป็นสีดำ หรือ “บแลคโซน” ถ้าเป็นรถที่มีกระจังหน้าใหญ่ๆ มีอยู่บแรนด์หนึ่งที่เป็นคู่แข่งทำกระจังหน้าแบบนี้ แล้วก็มีอีกบแรนด์จากยุโรป ส่วน เลกซัส มีการสืบทอดแนวทางค่อนข้างชัดเจน เรื่องเส้นสายนั้นดูโดดเด่นจากจุดพีคที่บริเวณเหนือโอเวอร์เฟนเดอร์ เวลาแสงตกกระทบตรงนี้จะมองเห็น ซึ่งเขาตั้งใจแบ่งเป็น 2 ส่วนชัดเจน ต่อด้วยจุดพีคที่ 2 ยาวมาจากตรงบริเวณด้านหน้าตัดผ่านมือจับประตูแล้วก็วิ่งต่อเนื่องเพื่อให้รับกัน ส่วนด้านท้ายจะสังเกตเห็นถึงบริเวณด้านล่างที่มีก้อนขนมปังแปะไว้ เพราะไม่เช่นนั้น เส้นจะล้น แล้วก็ประดับโลโกแบบทีเล่นทีจริง คือ จะโชว์ก็ไม่โชว์ แต่ขอแปะไว้สักหน่อย ภัทรกิติ์ : เลกซัส เป็นบแรนด์ที่จะแยกรูปทรงกับพื้นผิวออกจากกัน รุ่นนี้รูปทรงเป็นแนวคอมแพคท์คาร์ ต่อจากด้านหน้ามาเป็นตัวถังทรง 2 กล่อง แต่พอเจอกับแสงเงาจะพบกับบุคลิกของ เลกซัส เพราะใช้องค์ประกอบเล่นกับแสงเงา ด้วยรูปทรงร่วมสมัย และมีความชัดเจนด้านบุคลิก อภิชาต : การทำพื้นผิวที่โอเวอร์ไว้ก่อน แล้วปาดเหมือนเอามีดเฉือน คือ รูปแบบของ เลกซัส จึงโดดเด่นด้วยจุดพีค โดยไฮไลท์ตรงนี้เส้นจะวิ่งยาวมาจบที่ไฟ และมีรายละเอียดของเส้นที่หักหลบเข้าไปในไฟอีกที ภัทรกิติ์ : แต่มีจุดหนึ่งที่เป็นหมัดเด็ด นั่นคือ การดีไซจ์นฝาท้ายให้เข้ากันกับไฟท้าย มองยากมาก ในภาพทั่วไปจะมองไม่เห็น เพราะเป็นภาพ 2 มิติ ต้องเห็นกับตาถึงเป็น 3 มิติ อภิชาต : รายละเอียดมันถูกดึงมาจากพื้นผิวที่ดูดี การดีไซจ์นไฟหน้าและไฟท้าย เป็นเรื่องสำคัญมากกับการออกแบบรถยนต์ยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น บแรนด์ มีนี เขาจะไม่ทำในลักษณะนี้เพราะมันไม่ใช่ แต่จะฉีกไปอีกสไตล์ โดยดีไซจ์เนอร์ของ เลกซัส พยายามนำเสนอให้ไฟท้ายกับไฟหน้ามันดู WOW แล้วไปได้กับแนวทางของตัวรถ จุดนี้สำคัญมาก ผมว่าคงมีลูกค้าหลายคนที่เห็นไฟท้ายแล้วตัดสินใจซื้อเลย ซึ่งจริงๆ แล้ว ไฟท้ายลักษณะเป็นเส้นหาได้ใน โพร์เช, เอาดี และเทสลา ภัทรกิติ์ : เป็นไฟท้ายของ เลกซัส ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นอกจากมันจะบานแล้ว จุดที่กรี๊ดสลบเลย คือ มันมีปีกขึ้นมาข้างบน และมีความเป็น 3 มิติ โดยตัวถังตรงนี้ถูกปาดเป็นสามเหลี่ยมแล้ววิ่งตรงมาเจอกัน ทำให้ด้านหลังเด่นมากๆ ด้านหน้าใส่อะไรไปเยอะแยะ แต่งานนี้ด้านหลัง คือ พระเอก อภิชาต : ในรถเซกเมนท์เดียวกันก็มี โวลโว เอกซ์ซี 40 ที่เราสามารถเอารูปแบบมาเปรียบเทียบกันได้ หมายความว่า ตัวถังไซซ์เดียวกัน พอเห็นรูปแบบปุ๊บรักเลย ภัทรกิติ์ : โวลโว จะเป็นรูปทรงเรขาคณิตชัดเจน สะอาด ส่วน เลกซัส ก็เป็นทรงเรขาคณิตเหมือนกัน แต่มีความหวือหวาของแสงเงามากกว่า ทั้ง 2 บแรนด์ ไม่ได้มีใครด้อยไปกว่ากัน อภิชาต : การมีบุคลิกและแนวทางการออกแบบที่ชัดเจน ในมุมของนักออกแบบเขาถือว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์ทั้งคู่ ภัทรกิติ์ : ผมยอมรับว่าเรื่องการออกแบบ ตัวถังภายนอกมันสุดทุกอย่าง แต่มีรายละเอียดบางอย่างสุดโต่ง เช่น ไฟหน้าที่มีไฟเดย์ไทม์เป็นรูปตัวแอล ซึ่งทำให้ดูเหมือนโลโกไนกี แต่มันก็เข้ากับไฟท้าย กระจังหน้าโดดเด่นดีอยู่แล้ว รถคันนี้ที่ผมเห็นครั้งแรกจากภาพก็รู้สึกเฉยๆ คือ สวยตามมาตรฐาน เลกซัส ดูตัวเล็ก กระทั่งได้มาเห็นตัวจริง ไม่เล็กเหมือนในภาพ แต่ผมสะดุดตารถคันนี้จากไฟท้าย รถกลุ่มนี้ในบ้านเรา ได้แก่ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 2, เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ, โวลโว เอกซ์ซี 40 และโตโยตา ซี-เอชอาร์ คือ มองจากตรงนี้เหมือนกับว่าเป็นรถคนละพื้นฐานกับ ซี-เอชอาร์ ตัวที่ขายอยู่ ฟอร์มูลา : มาดูภายในห้องโดยสารกันบ้างดีกว่า ? ภัทรกิติ์ : เรื่องของวัสดุเหมาะสม ส่วนลูกบิด 2 อันด้านข้าง ที่ส่วนบนตรงด้านหน้าคนขับเหมือนถอดแบบมาจากรถรุ่นพี่ ใช้อะไรไม่แน่ใจ แต่ดูแปลกดี ฟอร์มูลา : แผงแดชบอร์ดดูซับซ้อนมีหลายชั้น ภัทรกิติ์ : ใช่ ของจริงเป็น 3 มิติ เราจะไม่เห็นเป็นแบบนี้ มีความลงตัวมากกว่า แอลเอส 500 ที่เป็นลักชัวรี ซีดาน แต่ทำไมต้องมีลูกบิด 2 อันนี้ พอมาอยู่ในรุ่นคอมแพคท์กลับดูน่ารักดี หน้าจอขนาดใหญ่ ปุ่มควบคุมต่างๆ เหมือนคีย์เพียโน คล้าย เปอโฌต์ 3008 ทางเทคนิคถือว่าสวยและดูดีในความเป็น เลกซัส แต่เนื่องจากรถคันนี้ราคาไม่สูงมากจึงมีเรื่องของคลาสสิคแทรกอยู่เยอะ แต่เขาใส่ลูกเล่นบางอย่าง ตรงแผงที่เป็นสีน้ำตาลมันมีผิวสัมผัสแปลกประหลาด ผมจับดูก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร นุ่มๆ สากๆ หลังจากนั้น อ่านเจอบทความจึงเข้าใจว่า ผิวสัมผัสแบบนี้ คือ คาแรคเตอร์ของกระดาษวาชิ หรือกระดาษสาของญี่ปุ่น ที่ เลกซัส ตั้งใจเลียนแบบมา ทั้งผิว และสีสัน อภิชาต : เลกซัส พยายามหาเรื่องราวให้รถตัวเอง ภัทรกิติ์ : เพราะมันคือ ความภูมิใจในความเป็นญี่ปุ่น ก่อนหน้านั้นเขาพยายามทำให้เหมือนค่ายเยอรมนี เน้นความเป็นยุโรป มีการใส่ลายไม้วอลนัท สุดท้ายตระหนักแล้วว่า คนซื้อของเขา เพราะความเป็นญี่ปุ่น แอลเอส 500 มีการทำแก้วเจียระไนแบบญี่ปุ่น แต่ ยูเอกซ์ เลือกใช้กระดาษวาชิ มีอีกจุดหนึ่งจากเวบไซท์ของ โตโยตา เขาจะทำลวดลายบนเบาะเหมือนกับลายผ้าที่ใช้ในชุดเคนโด แต่ถ้าเทียบกับ เลกซัส รุ่นอื่น รายละเอียด เรื่องสัมผัส เรื่องสี ฯลฯ อาจยังไม่โดดเด่นเท่า แต่รถราคาขนาดนี้ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว อภิชาต : การนำจุดนี้มาขาย เป็นการตอกย้ำว่า ตรงนี้เป็นจุดดี ห้องโดยสารของรถคันนี้เก็บรายละเอียดได้ดี อาทิ การหุ้มหนังตรงคอพวงมาลัย ที่เป็นแนวทางชัดเจนของบแรนด์ที่คงอยู่มานาน รวมถึงความรู้สึกของกระดาษวาชิ หรือชุดเคนโด ผมก็ชื่นชอบว่ามันมีแนวทางชัดเจน ไม่ได้เป็นรถยุโรป แต่เป็นรถญี่ปุ่นระดับพรีเมียมสำหรับตลาดยุโรป ภัทรกิติ์ : เลกซัส เป็นรถที่พยายามใส่ความเป็นพรีเมียมเข้าไป และในคำว่าพรีเมียมที่ว่านี้ก็พยายามใส่ความเป็นญี่ปุ่นเข้าไปกับเส้นสายที่เป็นสปอร์ท คือ มีความพยายาม แต่ยังไม่เป๊ะ ฟอร์มูลา : ตรงนี้เป็นความตั้งใจของเขาหรือเปล่าครับ เพราะ ยูเอกซ์ คือเซกเมนท์ล่าสุดของค่าย ? อภิชาต : ใช่ครับ เขาพยายาม มีการนำกระดาษวาชิ ลายผ้าเคนโด ผมมองว่าเป็นแนว ทางที่ชัดเจน แต่พอมาดูที่ช่องแอร์ที่เป็นลักษณะพีวีซี แบบนี้ไม่น่าจะนำมาใช้ ภัทรกิติ์ : ปัจจุบันทั้งโลกเหลือรถรุ่นเกียร์ธรรมดาอยู่น้อยมาก การที่มีคันเกียร์โด่เด่ขึ้นมา ผมไม่เข้าใจว่า จะทำเกียร์แบบนี้ทำไม ? ฟอร์มูลา : น่าจะดีไซจ์นแบบอื่นเป็นปุ่มกดหรือจอยสติค ภัทรกิติ์ : ผมชื่นชมเรื่องวัสดุ มีกระดาษวาชิ ส่วนเกล็ดมาจากชุดเกราะเคนโด ซึ่งตรงนี้ ทำให้รู้สึกว่า เป็นญี่ปุ่นระดับพรีเมียม มีความพยายามในการนำเอเชียเข้ามาผสมผสาน
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2562
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/281869