X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
มาตรวัดตลาดรถ
12 Aug 2018
ตกลงปีนี้ดีหรือเปล่า ?
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ ประจำเดือน มกราคม-พฤษภาคม 2018/2017
ตลาดโดยรวม +18.0 % รถยนต์นั่ง +17.5 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +37.9 % รถอเนกประสงค์ (MPV) -21.2 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ +17.8 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ +8.2 % อื่นๆ +1.3 % ที่จั่วหัวเรื่องเอาไว้อย่างนั้น เพราะมีคนเกิดความอยากรู้จริงๆ ว่าในเมื่อตลาดรถยนต์บ้านเรา ขายดิบขายดี เพียง 5 เดือนที่ผ่านมา จนถึงเดือนพฤษภาคม ตลาดโดยรวมขายได้ทั้งสิ้น 401,261 คัน เพิ่มขึ้น 18.0 % ขณะที่ยอดขายเพียงเดือนเดียว ขายได้เพิ่ม 27.9 % จำนวน 84,965 คัน จนนักข่าวป้อนคำถามอย่างเดียว ว่าจะเปลี่ยนเป้าหมายทั้งการขายและการผลิตในปีนี้ เพิ่มขึ้นหรือเปล่า ฟากทางสภาอุตสาหกรรม ท่านก็ตั้งการ์ดเอาไว้ก่อน ว่ายังไม่ได้เข้าที่ประชุม เพราะเป้าที่ตั้งเอาไว้ ก็น่าจะมีความเป็นไปได้มากแล้ว อีกทั้งสภาพเศรษฐกิจในโลกนี้ ก็ยังมีความผันผวน ทำสงครามกันเป็นว่าเล่น ไม่ทำสงครามกันแบบฆ่าล้างผลาญ ก็ทำสงครามทางการค้า ขึ้นภาษีนำเข้าแบบหฤโหด จาก 5 เป็น 25 % มาลองฟังความคิดเห็นของบรรดากูรูทางเศรษฐกิจกันบ้างดีกว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ท่านว่า สงครามการค้าที่จุดชนวนโดยสหรัฐฯ ถูกกำหนดด้วยปัจจัยทางการเมือง มากกว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจ เพราะสหรัฐอเมริกา กำลังจะมีการเลือกตั้งกลางเทอม ในเดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยเป็นการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาใหม่ 453 ที่นั่ง และสมาชิกวุฒิสภาใหม่ 33 ที่นั่ง แต่บ้านเขา มีการวิจัยที่เรียกว่าโพลล์ก่อนล่วงหน้า ซึ่งผลโพลล์นี้ชี้ว่า คะแนนนิยมของพรรครีพับลิคัน ตีตื้นขึ้นมา อีกทั้งโพลล์ด้านอื่นๆ ก็ชี้ว่านโยบายไปถูกทาง ทำให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ ยังคงยิ้มหวานกวนใจกันต่อไปได้ ก็ต้องคอยดูกันว่า คะแนนนิยมทางการเมือง หลังการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกา พรรคเดโม คแรทส์ จะสามารถช่วงชิงที่นั่งมาได้มากน้อยสักเท่าใด ถ้าได้มาก ก็ขึ้นอยู่กับว่า คะแนนนิยมทางการเมือง จะสนับสนุนนโยบายให้มีท่าทีแข็งกร้าว และคงเป้าหมายกีดกันทางการค้าต่อไป หรือจะยอมผ่อนปรนลง อันที่จริง การดำเนินนโยบายดังกล่าว นำมาสู่การตอบโต้ของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวบั่นทอนการค้าโลก และท้ายที่สุดแล้ว จะบั่นทอนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า
ขนาดอธิบายอย่างนี้ ท่านก็ยังถามต่อว่า แล้วจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างไรบ้าง กูรูท่านว่าการเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งของจีน และสหรัฐฯ จะมีผลสุทธิที่เป็นลบต่อการส่งออกของไทย ในภาพโดยรวม ปี 2561 ราว 280-420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณการค้าโลกที่ขยายตัวสูงกว่าที่ประเมินในปีนี้ ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการส่งออกของไทย ให้ยังเติบโตในระดับสูง โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ยังคงมีอย่างจำกัด เพราะเราอาจได้ผลบวกในบางสินค้า และผลกระทบในบางสินค้า อาทิ สินค้าไทยที่ได้ประโยชน์แทนที่คู่กรณีที่ส่งออกไปสหรัฐฯ มี HDD, ICs, พลาสติค, ชิ้นส่วนยานยนต์, พลาสติค ที่มีมูลค่าเพิ่ม ส่วนที่ส่งออกไปจีน มีพลาสติคขั้นต้น และผลิตภัณฑ์น้ำมันแปรรูป กับส่วนที่ส่งไปสหภาพยุโรป มี เครื่องนุ่งห่ม และผลิตภัณฑ์เหล็กบางชนิด สินค้าไทยที่ถูกกระทบโดยตรง SAFEGUARD มาตรา 201 แผงเซลล์แสงอาทิตย์ และเครื่องซักผ้ากับ NATIONAL SECURITY มาตรา 232 เหล็ก และอลูมิเนียม ส่วนสินค้าไทยที่ถูกกระทบโดยอ้อม ชนิดที่ผ่านห่วงโซ่การผลิต มี เครื่องใช้ไฟฟ้า อีเลคทรอนิค และพลาสติคขั้นต้นกับผ่านการทุ่มตลาดจากสินค้าจีน ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า ในภาพโดยรวมแล้ว ทั้งหมดนี้ ก็ราว 280-420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คำถามต่ออีกว่า แล้วปีหน้าจะเป็นอย่างไร อันนี้ก็ต้องดูผลจากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ก่อน ว่าเสียงของพรรคไหน จะได้เสียงข้างมาก ที่จะสามารถกำหนดนโยบายของตนเองได้ต่อไป รวมทั้งเสียงแซ่ซ้องจากประเทศคู่ค้าอื่นๆ นอกเหนือจาก จีน ที่สหรัฐฯ พาลขึ้นภาษีนำเข้าไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว เอาเป็นว่า ปี 2561 นี้ การส่งออกใน 5 เดือนแรก โตเฉลี่ย 11.6 % โดยเกือบครึ่งหนึ่งมาจากการส่งออกยานยนต์ และอีเลคทรอนิคส์ ซึ่งยังมีแนวโน้มเติบโตดี ถ้าคิดเป็นมูลค่าส่งออก 5 เดือนแรก เฉลี่ย 20,806 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2561 จะมีมูลค่าเฉลี่ยสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักรการค้าการส่งออกมาทุกปี เลยปรับประมาณการส่งออกในปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 8.8 % เล่าให้ฟังแค่นี้ น่าจะพอใจชื้นขึ้นมาบ้างนะครับ
อ่านต่อ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/234793
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
มาตรวัดตลาดรถ
มาตรวัดตลาดรถ
28 Feb 2024
การผลิตในประเทศลดลง รถนำเข้าเติบโต และดีเลอร์เปลี่ยนไป
มาตรวัดตลาดรถ
31 Jan 2024
BEV เกมเชนจ์ ดีเซลจะไปต่ออย่างไร ?
มาตรวัดตลาดรถ
31 Dec 2023
ปีใหม่-ยุคทองเก่าเก็บ
มาตรวัดตลาดรถ
30 Nov 2023
ปีที่คึกคักด้วยของใหม่
มาตรวัดตลาดรถ
31 Oct 2023
ญี่ปุ่น จีน ไทย ใครเข้าวิน
ดูต่อในคอลัมน์ มาตรวัดตลาดรถ