หลังจากที่เผยแพร่อันตรายจากความมักง่าย โดยการปล่อยให้รถบรรทุกตู้สินค้า หรือรถคอนเทเนอร์ ปฏิบัติการขนส่งสิ่งนี้บนถนนสาธารณะได้ โดยไม่ต้องใส่สลักนิรภัยยึดมุมตู้ทั้ง 4 มุมกับตัวรถ ผมเชื่อว่าผู้คนในอารยประเทศทั้งหลายจะต้องตะลึง และไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง หากได้ทราบว่า ในประเทศนี้ โดยเฉพาะในเมืองหลวงของประเทศที่ประชากรเกือบทั้งโลกอยากมาท่องเที่ยว อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต มีรัฐบาลที่ปล่อยให้ “ฆาตกร” (ถ้าอนุโลมให้วัตถุคือรถบรรทุกเหล่านี้พร้อมคนขับ ถูกเรียกร่วมกัน) เพ่นพ่านอยู่ตามท้องถนน พร้อมที่จะฆ่าประชาชนผู้เคราะห์ร้ายทุกคนที่ใช้ถนน
ไม่ว่าจะระวังตัวเพียงใดก็ตาม ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้นครับ มันยังคงพร้อมที่จะคร่าชีวิตพวกเรา คนในครอบครัวพวกเรา หรือประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่จำเป็นต้องใช้ถนนสาธารณะได้ตลอดเวลา ขอเพียงให้มีความประจวบเหมาะ เงื่อนไขครบถ้วน รถอุบาทว์มรณะเหล่านี้ ก็พร้อมที่จะฆ่าใครก็ได้ ที่บังเอิญไปอยู่ด้านข้างของมัน ซึ่งกำลังแล่นผ่านทางโค้ง ที่ผิวถนนเป็นหลุมบ่อ และเป็นช่วงที่ไม่ได้บรรทุกสินค้าอยู่ ตู้เหล็กสินค้าน้ำหนัก 37 ตัน ซึ่งอยู่บนรถที่มีแหนบแข็งมากพิเศษ เพราะถูกออกแบบให้รับน้ำหนักบรรทุกเต็มที่ จึงกลายเป็นของเบาครับ เมื่อเทียบกับความแข็งของแหนบมันจึงถูก “ดีด” จนกระดอนลอยขึ้นจากแท่นรองรับของตัวรถได้ หากไม่มีสลักเสียบลอคไว้ที่มุมทั้ง 4 มุม
แน่นอนว่าถ้ามีแรงเหวี่ยง หรือแรงหนีศูนย์กระทำต่อตัวตู้ขณะที่กำลังกระดอนขึ้น ขอบตู้ย่อมปีนคร่อมปีกที่ยันมุมตู้อยู่ ปีกนี้ผู้ออกแบบเขาทำไว้ไม่ให้สูงมาก มันก็ทำหน้าที่ยันมุมตู้ได้เพียงพอแล้ว เพราะไม่ต้องกลัวว่ามันจะกระดอนข้ามเลย หากใส่สลักนิรภัยลอคไว้ตามที่เขาผลิตมา
แต่คนไทยอวดฉลาด และผสมกับความขี้เกียจ ความมักง่าย ความโง่เง่า ความเห็นแก่ตัวไม่นึกถึงความเดือดร้อน หรือชีวิตของผู้อื่น คิดว่าตู้เหล็กหนักขนาดนี้ ไม่มีทางกระดอนข้ามสันยันมุมตู้ได้ และไม่ต้องรอให้ตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงของตู้เหล็ก เคลื่อนมาพ้นขอบแท่นรองรับของตัวรถครับ แค่กระดอน และไถลมาด้านข้างสักครึ่งเมตร ก็เพียงพอแล้วที่จะกดแหนบด้านนั้นให้ยุบเพิ่มจนรถเอียง แล้วมันก็จะไถลเพิ่ม (หรือใช้ภาษาง่ายๆ ให้เห็นภาพก็คือ ถูกเท) จะไถลจนทับรถที่อยู่ด้านข้าง หรือพลิกก่อน แล้วจึงทับรถของพวกเราด้วยด้านข้างของตู้ ก็มีโอกาสบดขยี้ผู้โชคร้ายในรถให้ถึงตายได้เหมือนกัน
ผมขอถามผู้บริหารระดับสูงของกรมการขนส่งทางบก และผู้บัญชาการ หรือจะชื่อตำแหน่งว่าอะไรก็ตามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถ และถนนสาธารณะว่าจะกล้านั่งอยู่ในรถเก๋ง ที่ขับขนาบข้างรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ที่ไม่ใส่สลักนิรภัยทั้ง 4 มุมไปตามถนน สารพัดสภาพผิวของเมืองไทยหรือไม่ ไม่ต้องนานมากครับ สักชั่วโมงเดียวก็พอ คิดเป็นหนึ่งในหมื่น หรือแสนของโอกาสที่พวกคุณปล่อยให้ประชาชนเอาชีวิตของเขาไปเสี่ยง โดยมิได้เป็นเหตุสุดวิสัยเลย
ผมอยากขอฝาก ผู้ที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนทั้งหลาย โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ในการรายงานข่าวอุบัติเหตุ โปรดให้ความสำคัญต่อชีวิตของประชาชนด้วยครับ พวกเราต้องช่วยกันประณาม ฆาตกรที่มันคร่าชีวิตประชาชนผู้เคราะห์ร้ายจากความเมา ความชุ่ย ความมักง่าย ประมาทไม่เห็นคุณค่าของชีวิตมนุษย์
เท่าที่ผมเห็นมักเน้นไปที่การใช้เงินชดใช้ต่อชีวิตที่สูญสิ้นไปว่า ฆาตกร หรือนายจ้างของคนพวกนี้มันยอมจ่ายให้ญาติ กี่หมื่นกี่แสนบาท เหมือนให้พวกเราซึมซาบว่า เงินสามารถทดแทนชีวิตมนุษย์ ทดแทนพ่อ แม่ ลูก หลาน ฯลฯ ของครอบครัวไหนๆ ก็ได้ทั้งนั้น ชีวิตมนุษย์เราตีราคาเป็นเงินไม่ได้ครับ เงินเป็นล้านบาทก็ไม่สามารถเลี้ยงดูอบรมลูกกำพร้า ที่พ่อแม่สิ้นชีวิตจากอุบัติเหตุที่ไม่สมควรจะเกิด ให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างที่ควรจะเป็นได้เลย
ผมเชื่อว่าผู้อ่านจำนวนไม่น้อย น่าจะได้ชมคลิพที่พนักงานขับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ที่ไม่ใส่สลักลอคมุมตู้ (เช่นเดียวกับคันอื่นๆ ทั้งหลาย) และตู้ได้ไถลลงมาทับหลังคารถเก๋งคันหนึ่งจนยุบ มนุษย์ที่มีสมองเทียบเท่าสัตว์ชั้นต่ำ หรือไม่ก็สัตว์ในคราบมนุษย์ตัวนี้มันสำรากออกมาว่า มันทำถูกต้องแล้วที่ไม่ใส่สลัก เพราะเมื่อใดที่เกิดอุบัติเหตุ ตู้คอนเทเนอร์จะได้หล่นไป โดยไม่ฉุดรั้งตัวรถตามไปด้วย นายจ้างของมันจะได้ไม่ต้องซ่อมรถ
เท่าที่ผมสังเกตดู มีคนดูจำนวนไม่น้อย ถูกมันหลอกให้หลงเชื่อว่าเป็นความถูกต้อง ทั้งๆ ที่เป็นเพียงการเล่นลิ้นแก้ตัวข้างๆ คูๆ ไม่มีเหตุผลอันสมควรใดๆ ทั้งสิ้นครับ รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง อาหารสัตว์ ปูนซีเมนท์ ก็ล้วนมีถังที่ยึดติดตรึงตายตัวอยู่กับโครงรถทั้งนั้นครับ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งตัวรถ และถังก็ต้องชำรุดไปด้วยกัน ดีกว่าให้หลุดกระเด็น ซึ่งน่าจะทำความเสียหายได้มากกว่า นี่คือ ด้านมืดของสื่ออีเลคทรอนิคส์ครับ ที่สามารถแพร่ความเชื่อที่ผิดได้ในวงกว้าง หรือไม่ก็เป็นเพียงการรายงานเหตุการณ์ โดยไม่มีการชี้นำให้ผู้ชม หรือผู้อ่านเข้าใจ ว่าสิ่งใดดี และสิ่งใดเลว
ภาพทั้งหมดถ่ายจากสถานที่จริง ณ ทาง ออกท่าเรือคลองเตย ถนนอาจณรงค์ วันที่ 3 เมษายน 2561 เวลา 11.00 น.
Model | Start Price (THB) |