พิเศษ(4wheels)
10 อุปกรณ์ติดรถ 4x4 มีไว้ ไปไหนก็ถึง
การขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าพื้นที่ทุรกันดาร เป็นสิ่งที่ท้าทาย เพราะไม่รู้หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร อาจเจอบ่อโคลนหรือต้นไม้ล้มขวาง หากไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือ ย่อมไปต่อไม่ได้ 4 WHEELS ขอแนะนำ 10 อุปกรณ์ที่ควรมีไว้ เพื่อให้เดินทางไปสู่จุดหมายได้อย่างราบรื่น
1. กันแครงค์อ่างนํ้ามันเครื่องติดไว้ จะได้ไม่แตก
บริเวณด้านล่างของเครื่องยนต์ จะมีอ่างน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ เมื่อขับรถเข้าพื้นที่ทุรกันดาร จุดนี้จะกลายเป็นจุดเสี่ยงทันที เนื่องจากผู้ขับมองไม่เห็นจากห้องโดยสาร เสี่ยงปะทะกับเนินดิน หิน หรือตอไม้ได้ตลอดเวลา หากกระแทกรุนแรง อาจทำให้อ่างน้ำมันแตก เครื่องยนต์ขับเคลื่อนต่อไปไม่ได้ ต้องลากออกมาเท่านั้น วัสดุทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ให้ความทนทานสูง ผลิตออกมาจำหน่ายรองรับกับรถพิคอัพเกือบทุกรุ่น มีราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับวัสดุ ยี่ห้อ ขนาด และรูปทรง ถ้าชอบการเดินทางแบบสมบุกสมบัน แนะนำให้หามาติดไว้เลย2. ไฮ-ลิฟท์ แจค แม่แรงสำหรับรถยกสูง
ไฮ-ลิฟท์ แจค หรือแม่แรงสำหรับรถยกสูง ต่างกับแม่แรงทั่วไปแบบไฮดรอลิค วัสดุทำจากเหล็ก แข็งแรงทนทาน หลักการทำงานแบบคานดีดงัด และมีสลัก เป็นตัวลอคความสูงตามจำนวนซี่ของแท่งเหล็ก สามารถยกรถได้ 48-60 นิ้ว สูงกว่าแม่แรงทั่วไปกว่า 1 เท่าตัว ยกได้ง่าย ทุ่นแรงได้มาก หากพื้นที่ที่ยกเป็นดินร่วนซุย ทราย หรือโคลน ให้นำก้อนหินขนาดใหญ่ที่แบนราบ หรือไม้กระดานที่เตรียมมา รองด้านล่างของจุดที่ตั้งไฮ-ลิฟท์ แจคก่อน เพื่อป้องกันพื้นยุบตัวขณะยกรถขึ้นจากอุปสรรค หรือเปลี่ยนยาง มากไปกว่านั้น หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ไฮ-ลิฟท์ แจค เป็นอุปกรณ์แทนวินช์ได้ด้วย โดยต้องคลาย ไฮ-ลิฟท์ แจค ให้มีความสูงมากที่สุด แล้วนำสลิงมาคล้องกับปลายทั้งสองข้างของ ไฮ-ลิฟท์ แจค (ใช้ 2 เส้น) แล้วนำปลายข้างหนึ่งคล้องกับจุดยึด อาจเป็นต้นไม้ก็ได้ ส่วนปลายอีกด้านให้คล้องกับขอลากรถ จากนั้นโยกกลับมา เพื่อลดระยะจากปลายทั้ง 2 ด้าน ตัวรถก็จะเคลื่อนออกจากหล่มได้ ราคาตัวละประมาณ 4,000-5,000 บาท3. วินช์ พระเอกหลักของการเดินทางเข้าป่า
วินช์ เป็นอุปกรณ์หลัก ที่นักขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ นิยมติดกัน เพราะถือว่าเป็นพระเอกตัวจริง ในการดึงรถให้รอดพ้นจากอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว วินช์สมัยใหม่จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีทั้ง 12 และ 24 โวลท์ โดยต้องเลือกให้เหมาะสมกับรถที่ต้องการติด เช่น กำลังการดึงของมอเตอร์กับน้ำหนักรถ ที่ต้องมีกำลังมากพอ, ขนาดของกันชน, จุดที่ติดตั้ง และน้ำหนักโดยรวมของอุปกรณ์ ดังนั้นก่อนติดตั้ง ต้องศึกษาหาความรู้จากช่างผู้ชำนาญการเสียก่อน เมื่อติดมาแล้วจะได้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่เป็นภาระต่อการใช้งาน4. ไฟสปอทไลท์ และอุปกรณ์ส่องสว่าง ต้องเตรียมให้พร้อม
ขับรถเข้าป่า บางครั้งเจอทั้งหมอกและฝน ถ้าติดตั้งไฟสปอทไลท์ก็ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้เรามองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อทั้งแบบหลอดฮาโลเจน ให้แสงสว่างเป็นสีเหลืองอำพัน พุ่งได้ไกล ส่องแสงได้ดีขณะที่หมอกลงหนา ส่วนไฟสปอทไลท์แบบ LED แสงไฟจะเป็นสีขาว มีหลอดจำนวนมากอยู่ในชุดโคม แต่จะมีลักษณะฟุ้งกระจาย ถ้าเจอหมอกหนาก็แทบมองไม่เห็นเหมือนกัน กินไฟน้อยกว่าหลอดฮาโลเจนมาก ราคาก็เริ่มที่หลักร้อยบาท (ของจีน) ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ นอกจากนี้อย่าลืมนำไฟฉายพกติดตัวไปด้วย เพราะบางครั้งรถเสีย ต้องใช้ไฟฉายส่องเข้าไปยังจุดที่แสงสว่างเข้าไม่ถึง5. แรคบรรทุกของ บนหลังคารถ
การเดินทาง ย่อมมีสัมภาระเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าจะเอามาวางในห้องโดยสารก็เกะกะ หากมี แรคหลังคาสักอัน ก็น่าจะนั่งสบายมากขึ้น แต่เมื่อนำของไปไว้บนแรคหลังคา ให้คำนึงถึงความสูงด้วย ต้องไม่สูงจนเกินไป และอย่าลืมรัดให้แน่นด้วยเชือกตาข่าย คลุมด้วยผ้าใบอีกชั้น เพื่อกันน้ำและของหล่น ปัจจุบันมีการออกแบบแรค หลังคาให้มีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ทั้งทำจากเหล็กสีดำ มีตาข่ายล้อมรอบสูงขึ้น หรือทำจากวัสดุอลูมิเนียม เมื่อติดตั้งแล้วยังทำให้รถดูสมบุกสมบัน เป็นนักเที่ยวป่าตัวจริง6. นํ้ามันเชื้อเพลิงสำรอง
แน่นอนว่ากลางป่า ไม่มีปั๊มน้ำมัน ต้อง เตรียม “น้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง” เข้าไปด้วย อย่ามั่นใจว่า น้ำมันที่เติมไว้จะเพียงพอกับระยะทางที่ศึกษามา เพราะในพื้นที่ทุรกันดารต้องใช้กำลังเครื่องยนต์และเวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ เมื่อเข้าพื้นที่ ควรมีน้ำมันสำรองติดรถไว้ทุกคัน โดยใส่ในถังที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ถ้าเป็นน้ำมันเบนซิน หากสภาพแวดล้อมเปียกชื้น ยังใช้เป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟ เพื่อดำรงชีพในป่าได้7. ชุดกู้ภัย อุ่นใจ ใช้ในยามฉุกเฉิน
หากเกิดอุบัติเหตุในป่า การช่วยเหลือจะยากลำบากกว่าสถานการณ์ปกติหลายเท่าตัว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย รู้จักขีดจำกัดของรถ ห้ามประมาทเป็นเด็ดขาด อย่าขับเข้าพื้นที่เพียงคันเดียว ต้องมีเพื่อนร่วมทางด้วย เวลาเกิดอุบัติเหตุจะได้ช่วยเหลือกัน อุปกรณ์กู้ภัยที่ต้องมีติดรถไว้ ต้องมีค้อนทุบกระจก หากรถพลิกคว่ำหรือตกน้ำ จะได้ทุบกระจกออกจากรถได้ทัน รวมถึงให้ติดตั้งถังดับเพลิงขนาดเล็กไว้ที่รถด้วย เผื่อเกิดเพลิงไหม้เครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ตั้งแคมพ์8. อุปกรณ์ปะยาง + ปั๊มลม
ชุดอุปกรณ์ปะยางแบบแทงหนอน พร้อมปั๊มลมไฟฟ้า ถ้ามีติดรถไว้ ก็อุ่นใจมากขึ้น หากยางรั่วบนทางลาดชัน การใช้แม่แรง หรือไฮ-ลิฟท์ แจค ยกรถ ย่อมทำไม่ได้ ต้องหาพื้นราบเท่านั้น การปะยางแบบแทงหนอน จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีที่สุด เพียงแค่ใส่เบรคมือ หาจุดที่รั่วซึม แล้วดึงสิ่งที่ทิ่มยางออกมา จากนั้นให้ใส่ยางตัวหนอนเข้าไปยังปลายอุปกรณ์ปะยาง พร้อมทากาวให้ทั่วยางตัวหนอน แล้วแทงเข้าไปให้ลึก จนอุดรูรั่วได้ทั้งหมด แล้วจึงดึงอุปกรณ์ออก ตัดยางตัวหนอนที่เกินออกจากหน้ายาง แล้วเติมลมด้วยปั๊มลมไฟฟ้าเข้าไป เพียงแค่นี้ก็อุดยางที่รั่วได้9. จอบ เสียม มีด เตรียมไปให้พร้อม
หากรถติดหล่มลึก จอบ เสียม เป็นเครื่องมือจำเป็นในการขุดหรือปรับพื้นผิวหน้าดินให้ตื้นขึ้น เพื่อให้รถขึ้นจากอุปสรรคได้ นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมไปด้วย คือ มีด และเลื่อย หากขับรถเข้าพื้นที่แล้ว มีต้นไม้ล้มขวางทาง ก็สามารถตัดได้ทันที การจัดเก็บต้องหุ้มด้วยกระสอบผ้าและมัดให้แน่น อย่าให้กลิ้งไปมาบนท้ายกระบะ10. เทนท์หลังคารถ นักเที่ยวป่าตัวจริง ต้องมี
เทนท์บนหลังคารถ อุปกรณ์เสริมที่นักเที่ยวป่าตัวยงต้องมี สามารถกางนอนได้ทันทีบนหลังคารถ โดยใช้แรคหลังคาเป็นฐานรองรับน้ำหนัก และมีบันไดต่อลงมายังพื้นด้านล่าง ซึ่งการออกแบบเทนท์ลักษณะนี้ มีข้อดี คือ ไม่ต้องกางนอนกับพื้นดินที่ไม่ราบเรียบ เปียกชื้น ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายกับสัตว์ป่าที่จะเข้ามาทำร้ายในเวลากลางคืน เมื่อใช้งานเสร็จพับเก็บได้ง่าย คลุมด้วยผ้าใบ แถมไม่ต้องนำออกมาจากแรคหลังคา เพราะมีขนาดกะทัดรัด ราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและวัสดุที่ใช้ แต่เมื่อติดตั้งแล้ว จะไม่สามารถใส่สัมภาระอย่างอื่นบนหลังคาได้อีกเรื่องโดย : พีรพัฒน์ อินทมาตย์
ภาพโดย : อินเตอร์เนท
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/221404