อาการรอบไม่นิ่ง เร่งไม่ขึ้น ให้ลองตรวจเชคแอร์โฟลว์ด้วย หากเสียหรือสกปรกก็พบอาการเหล่านี้ได้เช่นกัน DIY…คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีวิธีการทำความสะอาดแอร์โฟลว์มาฝาก
แอร์โฟลว์ (AIR FLOW) ทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิและปริมาณอากาศก่อนเข้าสู่เครื่องยนต์ ส่งค่าที่ได้ผ่านกล่องควบคุมอีเลคทรอนิคส์ (ECU) ซึ่งเป็นสมองกลสั่งการจ่ายส่วนผสมระหว่างอากาศและเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามอัตราส่วนที่เหมาะสมในการเผาไหม้ ดังนั้นหากแอร์โฟลว์สกปรก เซนเซอร์จะวัดค่าที่ได้ผิดเพี้ยนไป ทำให้ฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้อัตราส่วนที่ถูกต้อง
หาตำแหน่งของแอร์โฟลว์ได้ง่าย อยู่บริเวณกล่องหรือท่อหลังกรองอากาศ โดยมีปลั๊กไฟอยู่ด้านบน เมื่อถอดแอร์โฟลว์ออกมา จะเห็นเซนเซอร์ที่เป็นเส้นลวดขนาดเล็ก ห้ามสัมผัสเด็ดขาด เนื่องจากเป็นส่วนที่บอบบางชำรุดได้ง่าย หรือคราบไขมันจากนิ้วมืออาจเลอะจนติดเซนเซอร์
ถอดมาล้างได้ แต่ต้องใช้น้ำยาล้างแอร์โฟลว์โดยเฉพาะ หาซื้อได้ตามร้านค้าซ่อมอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ ห้างสรรพสินค้า ห้ามใช้น้ำมันอเนกประสงค์ หรือน้ำมันครอบจักรวาล เพราะจะยิ่งเคลือบลวดเซนเซอร์จนได้รับความเสียหาย เลือกใช้น้ำยาที่มีคุณสมบัติชำระล้างคราบไขมัน ระเหยได้ดี แห้งเร็ว ไม่กัดกร่อนพลาสติค อีกทั้งยังฉีดทำความสะอาดแผงวงจร หรือปลั๊กไฟต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้
แอร์โฟลว์ไม่จำเป็นต้องถอดมาล้างเป็นประจำตามระยะทาง เพราะบอบบางเสียหายง่าย แต่ถ้ารถมีอาการรอบไม่นิ่ง เร่งไม่ขึ้น ก็ให้ตรวจเชคทำความสะอาดแอร์โฟลว์ รวมทั้งล้างลิ้นปีกผีเสื้อไปเลย เพราะทำได้ไม่ยาก ใช้น้ำยาชนิดเดียวกับที่ล้างแอร์โฟลว์ได้
1. ถุงมือ
2. สเปรย์ทำความสะอาดแอร์โฟลว์
3. ไขควง
1. หาตำแหน่งกรองอากาศในห้องเครื่อง ซึ่งแอร์ฟโลว์จะอยู่ตรงจุดนี้
2. กดสลัก ดึงปลั๊กแอร์ฟโลว์ที่อยู่บริเวณกรองอากาศออก
3. ใช้ไขควงขันนอทของแอร์ฟโลว์ออกทั้ง 2 ตัว
4. ดึงแอร์ฟโลว์ออกมาตรงๆ ห้ามสัมผัสเซนเซอร์ที่เป็นเส้นลวด
5. ฉีดสเปรย์ล้างแอร์ฟโลว์ จนคราบเขม่าดำหลุดออกจนหมด
6. รอให้สเปรย์ที่ฉีดล้างแอร์ฟโลว์แห้งสนิท
7. ใส่แอร์ฟโลว์เข้าไปยังตำแหน่งเดิม ขันนอท เสียบปลั๊กให้เรียบร้อย
8. ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดปลั๊กไฟของแอร์ฟโลว์ สตาร์ทเครื่องยนต์ เป็นอันเสร็จ
Model | Start Price (THB) |