มาตรวัดตลาดรถ
ขายดิบขายดี
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนธันวาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+20.1 % รถยนต์นั่ง,+43.0 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+30.1 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-19.4 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.0 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+1.3 % อื่นๆ,-8.8 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-ธันวาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+13.4 % รถยนต์นั่ง,+22.2 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+8.2 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+11.0 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.6 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+15.1 % อื่นๆ,+3.3 % [/table] จบงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 กันด้วยยอดขายจากผู้ผลิตยานยนต์ 35 ยี่ห้อ ทำได้ 39,832 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22.9 % โดย 5 อันดับสูงสุด ได้แก่ อันดับ 1 ฮอนดา 6,488 คัน อันดับ 2 โตโยตา 5,456 คัน อันดับ 3 มาซดา 5,015 คัน อันดับ 4 อีซูซุ 4,479 คัน และอันดับ 5 เมร์เซเดส-เบนซ์ 2,701 คัน ราคาเฉลี่ยของรถยนต์ที่ขาย เพิ่มขึ้นเป็น 1,271,837 บาท จากที่ปีก่อนเฉลี่ย 1,177,393 บาท พอถึงสิ้นเดือนธันวาคม รายงานตัวเลขการขายรถยนต์เพียงเดือนเดียว ทำกันได้ 104,302 คัน เพิ่มขึ้น 20.1 % จากเดิมที่เฉลี่ยขายกันเดือนละ 500,000-60,000 คันมาทั้งปี ทำให้ตัวเลขปี 2560 เพิ่มขึ้น 13.4 % ด้วยตัวเลข 871,650 คัน เป็นไปตามความคาดหมาย รวมทั้งมีรายงานจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกาศเป้าการผลิต ปี 2561 ประมาณ 2,000,000 คัน มากกว่าปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,988,823 คัน เพิ่มขึ้น 11,177 คัน คิดเป็น 0.56 % โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,100,000 คัน 55 % ของยอดการผลิต และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 900,000 คัน เท่ากับ 45 % ของยอดการผลิต ก็แสดงว่าปีนี้ตลาดรถยนต์ก็จะเติบโตอีกครั้ง จะเป็นเท่าไรนั้น ต้องคอยให้บรรดาค่ายรถยนต์ออกมาประเมินกันเสียก่อน น่าจะเป็นรอบหน้า ที่จะเอามาเล่าสู่กันฟัง แต่หนนี้ มีเรื่องที่ต้องรีบตักเตือนกันก่อน เพราะมีผลบังคับใช้กันมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบก เริ่มเข้มข้นมาตรการกวดขันรถป้ายแดงต้องจดทะเบียนรถภายใน 30 วัน นับจากวันรับรถ เพื่อป้องกันอาชญากรรม พร้อมแนะนำผู้จำหน่ายรถเตรียมเอกสารและอำนวยความสะดวกให้ผู้ซื้อเพื่อให้สามารถจดทะเบียนรถได้ทันภายในกำหนด เพื่อประชาชนทุกคนได้ใช้รถที่จดทะเบียนถูกต้องอย่างมั่นใจ ผู้ที่ฝ่าฝืนใช้รถป้ายแดงเกินระยะเวลาที่กำหนด มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พศ. 2522 มาตรา 6 ฐานใช้รถที่ยังไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท หรือกรณีทำป้ายปลอมเพื่อนำไปติดรถที่ได้มาด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงปัญหาป้ายแดงปลอมทั้งที่มีการประกาศขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา เข้าข่ายความผิดฐานใช้เอกสารทางราชการปลอม มีโทษถึงขั้นจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน–5 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000–10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อันนี้เป็นเรื่องแรก ส่วนเรื่องที่สองของกรมการขนส่งทางบก คือ เปิดตัวเส้นทางนำร่องด้วยรถโดยสารมาตรฐานใหม่ 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี (ทางด่วน) และเส้นทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต (ทางด่วน) ทั้งนี้เพราะ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2559 ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเดิมที่ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นผู้เดินรถรายเดียว ทำให้ ขสมก. มีสถานะเป็นผู้ประกอบการเดินรถรายหนึ่ง ส่วนรถร่วม ขสมก. เดิม จะต้องขอใบอนุญาตประกอบการเดินรถกับกรมการขนส่งทางบกโดยตรง จะทำให้เกิดการแข่งขันและการพัฒนาเชิงคุณภาพ โดยผู้สนใจเดินรถรายใหม่ ต้องเป็นนิติบุคคล มีความพร้อมความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการการเดินรถ มาตรฐานคุณภาพตัวรถแบบใหม่ พร้อมมาตรการในการควบคุมกำกับดูแลความปลอดภัยและการให้บริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น รองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระบบตั๋วร่วม (E-TICKET SYSTEM) ควบคุมการเดินรถด้วยระบบ GPS TICKEING จอแสดงความเร็ว SPEED MONITOR ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV สนใจก็ลองเข้าไปดูที่ แฟนเพจ Facebook “การปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ กทม.” หรือ URL: https://www.facebook.com/BusRerouteBKK/ ลองดูว่าผู้ประกอบการเดินรถรายใหม่ๆ จะสามารถต่อกรกับ ขสมก. ที่เดินรถอย่างไรก็ยังขาดทุนมานมนานได้หรือเปล่า คนกรุงเทพมหานคร ก็ต้องทำใจกับบรรดาการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลากสาย ที่ปีนี้จะลงมือกันใหม่อีก 3-4 เส้นทาง อันจะทำให้รถติดไปอีกนาน ทำใจไว้ล่วงหน้าได้เลย เพราะอีกไม่กี่ปีก็จะได้เห็นถนนโล่งกันบ้างแล้ว หลังจากบรรดารถไฟฟ้าหลากสายเหล่านี้ เริ่มให้บริการ ทนรถติดกันมาได้ตั้งนานแล้ว อีกไม่กี่ปีเองน่า ยิ่งปีนี้รถจะขายดียิ่งขึ้นไปอีก โปรดอย่าบ่นว่ารถติดนะจ๊ะเรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/214459