วิถีตลาดรถยนต์
ประตูงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" เปิดแล้ว
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+20.6 % รถยนต์นั่ง,+37.4 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+35.6 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-8.2 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+11.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-11.8 % อื่นๆ,-1.3 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+12.5 % รถยนต์นั่ง,+19.8 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+5.4 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+16.1 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.7 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ +17.1 % อื่นๆ,+5.0 % [/table] ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วที่เดือนพฤศจิกายนของทุกปี จะเป็นเดือนที่ข่าวคราวความเคลื่อนไหวในแวดวงยานยนต์มีความคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องด้วยค่ายรถยนต์ต่างๆ ทยอยพากันเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะส่งเข้าร่วมงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34" หรือ MOTOR EXPO 2017 งานแสดงรถยนต์ยิ่งใหญ่ระดับชาติงานใหญ่ส่งท้ายปีซึ่ง MOTOR EXPO 2017 กำหนดเปิดประตูงานตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ไปจนถึงวันที่ 11 ของเดือนธันวาคม คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 1.5 ล้านคน มีผู้สนใจสั่งจองรถยนต์รุ่นและยี่ห้อต่างๆ รวมประมาณ 4,000 คัน ซึ่งจะตกเป้าหรือทะลุเป้า 4 WHEELS ฉบับหน้า จะมารายงานให้ทราบพร้อมบทสรุปของการซื้อขายรถยนต์ใหม่ในประเทศปี 2560 สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้เวลาในเดือนพฤศจิกายนก่อนที่งาน MOTOR EXPO 2017 จะเริ่มต้นขึ้น เปิดเผยตัวตนอย่างเป็นทางการ ว่าจะพบเห็นตัวจริงกันได้อย่างแน่นอนในงาน อาทิ อีซูซุ ดี-แมกซ์ บลูเพาเวอร์ รุ่นไมเนอร์เชนจ์, มาซดา ซีเอกซ์-5 ใหม่, บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 และเชฟโรเลต์ โคโลราโด เซนเทนเนียล เอดิชัน เป็นต้น ขณะที่ค่ายรถยนต์บางค่ายก็อุบไต๋ทีเด็ดเอาไว้ให้ไปเจอะเจอกันได้ในงาน แต่ไม่ว่าจะเปิดตัวก่อนงาน หรือภายในงาน ก็ทำให้บรรยากาศการซื้อขายรถใหม่ในบ้านเราเดือนพฤศจิกายนนี้คึกคักเป็นอย่างมาก โดยยอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทรวมแล้วสูงถึง 78,082 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ถึง 20.6 % กันเลยทีเดียว โตโยตา ยักษ์ใหญ่เบอร์ 1 ของยานยนต์ไทยวิเคราะห์ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ที่ค่ายรถต่างๆ ได้แนะนำเข้าสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายของค่ายรถต่างๆ มีส่วนในการกระตุ้นการเติบโตของตลาด ขณะที่ในเดือนธันวาคมยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะยังคงเติบโตต่อเนื่องต่อไป จากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงแผนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีความชัดเจน ทำให้มีส่วนอย่างมากในการสนับสนุนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจช่วงปลายปี ประกอบกับการที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น รวมถึงสถิติการขายที่บ่งชี้ว่าเดือนธันวาคมจะเป็นเดือนที่มียอดขายสูงสุดของปี ทั้งจากการจัดงาน MOTOR EXPO 2017 ตลอดจนความต่อเนื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขาย ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดรถยนต์ของประเทศไทย สรุปแล้วปี 2560 จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปีทองของธุรกิจยานยนต์ในประเทศไทยอีกปีหนึ่งแล้ว กลับมาเรื่องสถิติตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ตามที่บอกกล่าวเอาไว้ว่า เดือนพฤศจิกายน 2560 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ปรับตัวสูงขึ้นถึง 20.6 % นั้น ในบรรดายี่ห้อรถยนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 5 อันดับแรกนั้น 4 อันดับแรกไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดือนที่ผ่านๆ มา ไล่จาก โตโยตา ส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 27.8 % จากยอดจำหน่าย 21,744 คัน อีซูซุ อันดับ 2 ส่วนแบ่งตลาด 18.2 % ยอดจำหน่าย 14,224 คัน อันดับ 3 ฮอนดา ส่วนแบ่งตลาด 13.3 % ยอดจำหน่าย 10,368 คัน และอันดับที่ 4 มิตซูบิชิ ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % ยอดจำหน่าย 6,370 คัน แต่อันดับที่ 5 จากเดิมที่ผ่านมาเป็น นิสสัน กลายมาเป็น ฟอร์ด แทน ด้วยยอดจำหน่าย 5,499 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.0 % ส่วนเจ้าของเดิมหล่นไปอยู่อันดับที่ 6 อย่างไรก็ตาม ในยอดสะสมรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ มีตัวเลขรวมทั้งสิ้น 767,348 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ถึง 12.5 % รถยนต์ที่ขายดีที่สุด 5 อันดับแรกยังคงไม่มีการเปลี่ยนมือแต่อย่างใด โตโยตา อันดับ 1 ด้วยยอดรวม 208,227 คัน ส่วนแบ่งตลาด 27.1 % ตามด้วย อีซูซุ 145,108 คัน ส่วนแบ่งตลาด 18.9 % อันดับ 3 ฮอนดา 113,305 คัน ส่วนแบ่งตลาด 14.8 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 60,844 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.9 % และอันดับ 5 นิสสัน 52,700 คัน ส่วนแบ่งตลาด 6.9 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤศจิกายน 2560 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 30,552 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 11.5 % อีซูซุ ยังคงยึดอันดับ 1 รถพิคอัพจำหน่ายขายดีที่สุดเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และใกล้ความเป็นแชมพ์พิคอัพยอดจำหน่ายสูงสุดประจำปี 2560 เข้าไปมากยิ่งขึ้น เหลืออีกเพียงเดือนเดียวก็จะประกาศความเป็นแชมพ์อย่างเป็นทางการได้แล้ว โดยเดือนที่ 11 ของปี 2560 อีซูซุ จำหน่ายได้อีก 11,475 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 37.6 % โตโยตา ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดจำหน่าย 7,771 คัน ส่วนแบ่งตลาด 25.4 % ฟอร์ด อยู่ในอันดับ 3 ด้วยยอด 4,047 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.2 % มิตซูบิชิ อันดับ 4 ยอดจำหน่าย 2,957 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.7 % นิสสัน อันดับ 5 ยอดจำหน่าย 1,732 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.7 % รวม 11 เดือนผ่านไป พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อแบบมาตรฐาน มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 297,931 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2560 เท่ากับ 8.7 % 5 มหานิยมของรถยนต์ประเภทนี้ประกอบด้วย อีซูซุ จำหน่ายแล้ว 115,270 คัน ส่วนแบ่งตลาด 38.7 % โตโยตา 80,983 คัน ส่วนแบ่งตลาด 27.2 % ฟอร์ด 34,534 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.6 % มิตซูบิชิ 25,685 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.6 % และนิสสัน 17,538 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลาดนี้ โตโยตา ผูกขาดความเป็นแชมพ์มาอย่างเนิ่นนาน ทั้งแชมพ์ยอดจำหน่ายรายเดือน และรายปี ล่าสุดเดือนพฤศจิกายนทั้งตลาดมียอดจำหน่ายรวม 2,531 คัน ปรับตัวลดลง 11.8 % เป็นยอดจำหน่ายของ โตโยตา 1,269 คัน หรือเท่ากับ 50.1 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด อันดับ 2 อีซูซุ จำหน่ายได้ 487 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.2 % อันดับ 3 ฟอร์ด 409 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.2 % มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับ 4 จำหน่ายได้ 254 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.0 % อันดับ 5 นิสสัน จำหน่ายได้ 61 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.4 % รวม 11 เดือน มียอดจำหน่าย 28,371 คัน เพิ่มขึ้น 17.1 % โตโยตา มีส่วนแบ่งตลาด 50.5 % จากยอดจำหน่าย 14,315 คัน ตามด้วย อีซูซุ 5,868 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.7 % ฟอร์ด 4,601 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.2 % มิตซูบิชิ 2,515 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % และนิสสัน 645 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.3 % รถเอสยูวี เดือนพฤศจิกายน 2560 มียอดจำหน่ายรวม 9,297 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปี 2559 ถึง 35.6 % เปีนอีกเดือนหนึ่งที่ โตโยตา กลับมาเป็นแชมพ์รายเดือนจากยอดจำหน่าย 2,650 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 28.5 % ฮอนดา จำหน่ายมากเป็นอันดับที่ 2 โดยจำหน่ายได้ 2,144 คัน เท่ากับ 23.1 % ของยอดรวม อันดับ 3 มิตซูบิชิ จำหน่ายไป 1,032 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 11.1 % อันดับ 4 ฟอร์ด จำหน่ายได้ 1,021 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.0 % อีซูซุ อยู่ในอันดับ 5 จำหน่ายได้ 903 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.7 % 11 เดือนผ่านไป จำหน่ายได้รวมทั้งสิ้น 92,323 คัน เพิ่มขึ้น 5.4 % ว่าที่แชมพ์ ฮอนดา จำหน่ายแล้วรวม 23,363 คัน เท่ากับ 25.3 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด โตโยตา จำหน่ายมากเป็นอันดับ 2 มีส่วนแบ่งตลาด 21.8 % จากยอดจำหน่าย 20,084 คัน มิตซูบิชิ อยู่ในอันดับ 3 ด้วยยอด 12,327 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.4 % อีซูซุ ยอดจำหน่ายมากเป็นอันดับ 4 ส่วนแบ่งตลาด 12.0 % จากยอด 11,045 คัน และฟอร์ด อยู่ในอันดับ 5 ด้วยยอด 9,756 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.6 % รถเอมพีวี ถึงแม้ยอดจำหน่ายจะตกลงไปในเดือนนี้ แต่ยอดรวมยังปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2559 เดือนนี้มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 1,626 คัน ลดลง 8.2 % ยอดรวม 11 เดือน 18,149 คัน เพิ่มขึ้น 16.1 % 5 อันดับรถเอมพีวีขายดี ไล่เรียง 5 อันดับแรกเหมือนกันทั้งยอดจำหน่ายรายเดือน และยอดสะสม โตโยตา เดือนพฤศจิกายนจำหน่ายได้ 761 คัน ส่วนแบ่งตลาด 46.8 % ยอดสะสม 8,535 คัน ส่วนแบ่งตลาด 47.0 % อันดับ 2 ฮอนดา เดือนพฤศจิกายน 727 คัน ส่วนแบ่งตลาด 44.7 % ยอดรวม 7,823 คัน ส่วนแบ่งตลาด 43.1 % อันดับ 3 เกีย 68 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.2 % ยอดสะสม 744 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.1 % อันดับ 4 ซูซูกิ 48 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.0 % ยอดรวม 707 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.9 % และอันดับ 5 ฮันเด 13 คัน ส่วนแบ่งตลาด 0.8 % ยอดรวม 236 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.3 % รถยนต์ประเภทอื่น ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนพฤศจิกายน 2560 ยอดรวม 3,781 คัน ลดลง 1.3 % รวม 11 เดือน 38,205 คัน เพิ่มขึ้น 5.0 %เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/213215