มาตรวัดตลาดรถ
โตแน่นอน
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+20.6 % รถยนต์นั่ง,+37.4 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+35.6 % รถอเนกประสงค์ (MPV),-8.2 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+11.5 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-11.8 % อื่นๆ,-1.3 %เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+12.5 % รถยนต์นั่ง,+19.8 % รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+5.4 % รถอเนกประสงค์ (MPV),+16.1 % กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.7 % กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+17.1 % อื่นๆ,+5.0 % [/table]ยังไม่ทันถึงสิ้นปี แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ก็เปิดตัวยอดขายรถยนต์ปี 2560 ว่าจะปิดตัวเลขที่ประมาณ 860,000 คัน หรือขยายตัวกว่า 11.6 % จากปีก่อน ซึ่งพลิกกลับมาฟื้นตัวอย่างมากหลังหดตัวต่อเนื่องกันมาถึง 4 ปี ซึ่งเป็นประมาณการก่อนจะเห็นยอดการขายเดือนพฤศจิกายน ที่พอรวบรวมตัวเลขออกมา ก็ปรากฏว่า ขายกันได้ 11 เดือน 767,348 คัน เพิ่มขึ้น 12.5 %ส่วนในปี 2561 ตลาดรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์นั่ง ซึ่งจะมีการเปิดตัวใหม่ออกมาอีกหลายรุ่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบนัก ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าตลาดรถยนต์รวมปี 2561 น่าจะสามารถทำตัวเลขยอดขายได้กว่า 880,000 ถึง 900,000 คัน หรือคาดว่าจะขยายตัว 2-5 % เมื่อเทียบกับปี 2560 ในช่วงปี 2560 ตลาดรถยนต์ในประเทศของไทยได้พลิกฟื้นกลับขึ้นมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังโครงการรถยนต์คันแรกสร้างผลกระทบต่อตลาด และทำให้ตลาดรถยนต์ไทยหดตัวหนักต่อเนื่องมาหลายปี ซึ่งยอดขายรถยนต์ปี 2560 นี้ จะปิดตัวเลขที่ประมาณ 860,000 คัน หรือขยายตัวกว่า 11.6 % เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้เพียง 770,423 คัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าที่หลายฝ่ายคาดเอาไว้มาก แรงหนุนสำคัญนอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น เกษตรกรที่ดีขึ้น และการปลดลอครถในโครงการรถคันแรกแล้ว น่าจะมาจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่จำนวนมากตลอดช่วงที่ผ่านมา โดยรถยนต์นั่งกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นมากในปีนี้ นำโดยรถยนต์นั่งขนาดเล็ก รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ และรถยนต์นั่งหรู เนื่องจากมีรถรุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มนี้ออกมาหลายรุ่น ประกอบกับมีการเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะนวัตกรรมการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนที่ตรงต่อความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยคาดว่า ตลาดรวมรถยนต์นั่งปี 2560 นี้ น่าจะขยายตัวได้กว่า 18 % เมื่อเทียบกับปีก่อน หรือคิดเป็นจำนวนรถยนต์ 390,000 คัน ขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ปีนี้น่าจะทำได้ 470,000 คัน หรือขยายตัวประมาณ 7 % เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรถพิคอัพ 4 ประตูเป็นกลุ่มที่มียอดขายเติบโตดีที่สุดในกลุ่มรถเพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นประเภทรถที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อนิยมซื้อ ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องการขออนุมัติสินเชื่อ ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ปีหน้าไป รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเข้ามารุกตลาดมากขึ้น โดยยอดขายรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าปี 2561 น่าจะมีโอกาสเติบโตค่อนข้างมากและทำยอดขายรวมได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 คัน หรือขยายตัวมากกว่า 1.7 เท่า จากปี 2560 ที่คาดว่าจะมียอดขายรวม 11,200 คัน โดยรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์อี-เพาเวอร์ จะถือครองสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของตลาดรวมรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ตามมาด้วยรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด และรถพลังงานไฟฟ้าแบบแบทเตอรี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านราคาจำหน่ายรถยนต์ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการตอบรับของตลาดที่สำคัญ ส่วนยอดขายของตลาดรถยนต์ในประเทศ ในปี 2561 น่าจะสามารถทำตัวเลขยอดขายได้ถึง 880,000 โดยมีข้อมูลสนับสนุน อย่าง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงภาคการส่งออกที่มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่องจากปีก่อน การท่องเที่ยวในประเทศที่ยังคงขยายตัวจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจ E-COMMERCE มีแนวโน้มเติบโตสูง ส่งผลให้รายได้ภาคบริการเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการใช้การบริการขนส่งที่มากขึ้น ระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มทรงตัวในปี 2561 เป็นผลเชิงบวกให้สถาบันการเงินไม่มีปัจจัยกดดันให้ต้องเพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ ในการปล่อยสินเชื่อ ผู้ซื้อรถยนต์จำนวนมากในโครงการรถคันแรกที่ถือครองมาจนครบกำหนดมากกว่า 5 ปี ในปี 2561 นี้ มีโอกาสที่จะทยอยขายรถยนต์ในโครงการเพื่อเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งถือครองรถยนต์มานานกว่า 7 ปีแล้ว เนื่องจากโครงการรถยนต์คันแรกเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2554 ทิศทางการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยเฉพาะรถยนต์พลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ที่คาดว่าจะมีเปิดตัวออกมาหลายรุ่น โดยเฉพาะประเภทรถยนต์นั่งหลากหลายขนาด รวมถึงรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่กำลังได้รับความนิยม ขณะที่ค่ายรถต่างยังคงมีแนวโน้มการใช้กิจกรรมส่งเสริมการตลาดออกมาต่อเนื่อง เช่น การปรับลดราคารถยนต์ในบางรุ่น ทำให้การแข่งขันในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง ก็ยังแสดงว่า ตลาดรถยนต์ประเทศไทย จะยังคงเจริญเติบโตต่อไป ทั้งในปี 2560 จนถึง 2561
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2561
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/209906