วิถีตลาดรถยนต์
ผ่าน 3 ไตรมาสยังไร้ปัจจัยลบ
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+13.1 %
รถยนต์นั่ง,+25.7 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+32.2 %
รถอเนกประสงค์ (MPV),-14.8 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+4.5 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,-16.8 %
อื่นๆ,-7.5 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-ตุลาคม 2017/2016
ตลาดโดยรวม,+11.7 %
รถยนต์นั่ง,+18.1 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV),+2.8 %
รถอเนกประสงค์ (MPV),+19.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ,+8.4 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ,+21.0 %
อื่นๆ,+5.7 %
[/table]
เกือบแตะ 7 แสนคันเข้าไปแล้ว สำหรับตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศเมื่อผ่านเดือนตุลาคมนี้ไปโดยที่ยังเหลือเวลาให้ผู้ต้องการซื้อรถใหม่กับผู้จำหน่ายรถใหม่ได้พบปะเจรจาต่อรองเงื่อนไขต่างๆ จนลงตัวปิดดีลได้อีกถึง 3 เดือน ขณะที่ยังมีรถยนต์ใหม่กระแสแรงรอคิวเปิดผ้าคลุมออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกมากหน้าหลายตา อีกทั้งยังมีช่วงระยะเวลาของการจัดงานกระตุ้นยอดจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นงานใหญ่ส่งท้ายปีเหลืออีก 1 งาน ทำให้ได้ข้อสรุปเป็นที่แน่นอนแล้วว่าตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมทั้งปีของปี 2560 นี้ที่เป็นการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงไม่ผิดพลาดแต่ประการใด ส่วนที่ว่าตลาดรถยนต์ประเภทไหนจะรุ่งหรือจะร่วง รถยนต์ยี่ห้อไหนจะได้เป็นแชมพ์กวาดยอดจำหน่ายได้สูงสุดในแต่ละประเภท ต้องตามดูกันต่อไป ถึงแม้ในบางตลาดจะเห็นแล้วว่าใครเป็นแชมพ์ประจำปี 2560 ไปแล้วก็ตาม
เดือนตุลาคมซึ่งเป็นเดือนปิดไตรมาสที่ 3 ของปี มีการซื้อขายรถยนต์ใหม่ประเภทต่างๆ เกิดขึ้นรวมทั้งสิ้น 68,551 คัน เป็นปริมาณการซื้อการขายที่เพิ่มขึ้น 13.1 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปี 2559 โดย 30.9 % ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดหรือเท่ากับ 21,197 คัน เป็นการซื้อขายรถยนต์ใหม่รุ่นต่างๆ ที่ติดยี่ห้อ โตโยตา ขณะที่อีก 17.6 % หรือ 12,080 คัน เป็นของ อีซูซุ 14.1 % หรือ 9,666 คัน เป็นของ ฮอนดา 8.3 % หรือเท่ากับ 5,679 คัน เป็นของ มิตซูบิชิ และ 6.7 % หรือเท่ากับ 4,610 คัน เป็นของ นิสสัน ส่วนอีก 22.4 % เท่ากับ 15,319 คันที่เหลือ เป็นของรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ อาทิ มาซดา, เชฟโรเลต์, เมร์เซเดส-เบนซ์, บีเอมดับเบิลยู, ซูซูกิ เป็นต้น ซึ่งเมื่อนำตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ไปรวมกับตัวเลขยอดจำหน่ายที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน จะมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 689,266 คัน ซึ่งเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น 11.7 % รถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่มียอดสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย โตโยตา 186,483 คัน คิดเป็นสัดส่วนการตลาดที่ 27.1 % ตามด้วย อีซูซุ 130,884 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 19.0 % ต่อด้วย ฮอนดา 102,937 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 14.9 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่ายรวม 9 เดือน 54,474 คัน ถือครองส่วนแบ่งการตลาด 7.9 % และนิสสัน ยอดจำหน่าย 9 เดือนมีทั้งหมด 47,214 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 6.8 %
ในประเภทของรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนตุลาคมนี้แต่ละยี่ห้อยังไม่มีพิคอัพรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเสริม ยังเป็นการใช้แคมเปญพโรโมชันพิเศษเป็นนางกวักเรียกลูกค้าเข้าโชว์รูม แต่ในเดือนต่อไปอุณหภูมิการแข่งขันในตลาดนี้จะสูงขึ้น เพราะพิคอัพหลายค่ายจะส่งขุนศึกตัวใหม่เข้าสู่สนามแข่งขันเพื่อดันยอดขายให้คึกคักมากยิ่งขึ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 สำหรับเดือนตุลาคมนี้ยอดจำหน่ายรถพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อทั้งหมดอยู่ที่ 25,571 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น 4.5 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปี 2559 ซึ่งก็ยังคงเป็นพิคอัพของ อีซูซุ ที่ยึดตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ประเภทนี้ได้อย่างต่อเนื่องต่อไปอีกเดือนหนึ่ง โดยมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 9,616 คัน หรือเท่ากับ 37.6 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ขณะที่ตัวเลขยอดจำหน่ายพิคอัพของ โตโยตา ยังคงรั้งอยู่ในอันดับที่ 2 ต่อไป โดยจำหน่ายได้ 7,016 คัน เท่ากับ 27.4 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ขณะที่อันดับ 3-5 ยังคงเป็นเจ้าเดิมที่อยู่ในอันดับต่างๆ เหล่านี้มาในเดือนก่อนๆ ไล่เรียงลงไปจาก ฟอร์ด 3,096 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.1 % มิตซูบิชิ 2,270 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.9 % และนิสสัน 1,679 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 %
ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมของพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ เมื่อปิด 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 อยู่ที่ 267,379 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 แล้วเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น 8.4 % พิคอัพที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุดเมื่อผ่านไตรมาสที่ 3 และเป็นว่าที่พิคอัพขวัญใจมวลมหาประชาชนปี 2560 ได้แก่ พิคอัพจากค่าย อีซูซุ ที่จำหน่ายได้ 103,795 คัน ถือส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 38.8 % ว่าที่รองแชมพ์ ได้แก่ โตโยตา 73,212 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 27.4 % ส่วน ฟอร์ด มิตซูบิชิ และนิสสัน ก็เป็นว่าที่แชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 3, 4 และ 5 ตามลำดับ ยอดสะสมของแต่ละยี่ห้ออยู่ที่ 30,487 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.4 % สำหรับ ฟอร์ด, ยอดจำหน่าย 22,728 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.5 % เป็นของ มิตซูบิชิ และยอดจำหน่าย 15,806 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % เป็นของ นิสสัน
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลาดนี้เดือนตุลาคมมียอดจำหน่ายรวม 2,082 คัน เทียบกับเดือนตุลาคมปี 2559 แล้วยอดจำหน่ายหดหายไป 16.8 % โตโยตา ครองแชมพ์ตลาดนี้แน่นอนมากที่สุด มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,155 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 55.5 % ฟอร์ด เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตลาดนี้ จำหน่ายได้อีก 406 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 19.5 % อันดับ 3 ของตลาดเป็น อีซูซุ จำหน่ายไป 232 คัน สัดส่วนการตลาดอยู่ที่ 11.1 % มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 225 คัน คิดเป็น 10.8 % ของยอดจำหน่ายทั้งตลาด ขณะที่ นิสสัน อยู่อันดับที่ 5 ยอดจำหน่าย 36 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.7 % รวม 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 ตลาดนี้มียอดจำหน่ายรวมกันที่ 25,840 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ถึง 21.0 % แชมพ์กลุ่มนี้ โตโยตา โกยยอดจำหน่ายทิ้งห่าง จำหน่ายได้ 13,046 คัน ส่วนแบ่งตลาด 50.5 % อีซูซุ ตามมาในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 5,381 คัน ส่วนแบ่งตลาด 20.8 % ฟอร์ด อยู่ในอันดับที่ 3 ยอดจำหน่ายรวม 4,192 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.2 % มิตซูบิชิ อันดับที่ 4 จำหน่ายแล้ว 2,261 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.8 % และนิสสัน ครองอันดับที่ 5 จำหน่ายไปแล้ว 584 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.3 %
รถเอสยูวี มียอดจำหน่ายรวมกันเป็นบวกเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปีก่อนหน้านี้ โดยยอดรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 8,486 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.2 % ผู้นำในด้านยอดจำหน่ายประจำเดือนนี้เป็น โตโยตา จำหน่ายได้ 2,580 คัน คิดเป็นสัดส่วนการตลาดที่ 30.4 % ฮอนดา ว่าที่แชมพ์ยอดรวมเดือนนี้ อยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายได้ 1,864 คัน สัดส่วนการตลาดอยู่ที่ 22.0 % อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,154 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 % ฟอร์ด อยู่ในอันดับที่ 4 จำหน่ายได้ 878 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.3 % และอันดับ 5 อีซูซุ จำหน่ายได้ 843 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.9 % ยอดจำหน่ายรวม 3 ไตรมาสมีทั้งสิ้น 83,026 คัน เพิ่มขึ้น 2.8 % เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2559 เป็นอีกตลาดที่ ฮอนดา อยู่ในตำแหน่งว่าที่แชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุด โดยจำหน่ายไปแล้ว 21,219 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 25.6 % โตโยตา อยู่ในอันดับที่ 2 จำหน่ายแล้ว 17,434 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.0 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 11,295 คัน ส่วนแบ่งตลาด 13.6 % อีซูซุ อยู่ในอันดับที่ 4 จำหน่ายไปแล้ว 10,142 คัน ส่วนแบ่งตลาด 12.2 % และอันดับที่ 5 ฟอร์ด จำหน่ายได้ 8,735 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.5 %
รถเอมพีวี เดือนตุลาคม ฮอนดา จำหน่ายได้มากเป็นอันดับที่ 1 ด้วยยอด 663 คัน ส่วนแบ่งตลาด 47.9 % อันดับ 2 เป็นของ โตโตา จำหน่ายได้ 552 คัน ส่วนแบ่งตลาด 39.9 % อันดับ 3 ซูซูกิ 77 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.6 % อันดับ 4 เกีย จำหน่ายได้ 64 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.6 % และอันดับ 5 ฮันเด 18 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.3 % รวมแล้วมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1,383 คัน ลดลง 14.8 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปี 2559 รวม 3 ไตรมาส มียอดสะสมอยู่ที่ 16,523 คัน เพิ่มขึ้น 19.2 % โตโยตา มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำหน่ายไปแล้ว 7,774 คัน ส่วนแบ่งตลาด 47.0 % ตามด้วย ฮอนดา 7,096 คัน ส่วนแบ่งตลาด 42.9 % เกีย 676 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.1 % ซูซูกิ 659 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.0 % และฮันเด 223 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.3 %
รถยนต์ประเภทอื่นๆ ไม่รวมรถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2560 มียอดจำหน่ายรวม 3,268 คัน ลดลง 7.5 % รวม 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 มียอดจำหน่าย 34,424 คัน เพิ่มขึ้น 5.7 %
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2561
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/208759