รอบรู้เรื่องรถ
ใครเกลียด "แทกซีถูกกฎหมาย" ยกมือขึ้น ?
ถ้าทำได้จริง และผู้ที่อยู่ข้างหน้าของผม คือ ผู้อ่านนิตยสารของเรา ผมว่าคงนับมือกันไม่ไหว หรือไม่ก็ต้องนับจำนวนผู้ที่ไม่ยกแทนครับ เพราะผมเชื่อว่า ไม่มีคนที่รักความถูกต้องเป็นธรรมที่ไหน ยอมรับการฉวยโอกาส เอารัดเอาเปรียบ หรือถึงขั้นโกงซึ่งๆ หน้าคนไทยยุคนี้ ชอบถกเถียงกันนอกเรื่อง หรือไม่ก็เบี่ยงเบนไปจากประเด็นหลัก เช่น UBER หรือจะเป็นการให้บริการผู้โดยสารในการเดินทางด้วยรถส่วนตัว ไม่ว่าจะภายใต้ชื่ออะไรก็ตามนั้นมันถูกกฎหมายหรือไม่ สมควรที่หน่วยงานของรัฐจะห้ามเอาเรื่อง "จับ" หรือไม่ แทนที่จะทำความเข้าใจต่อรากเหง้าของปัญหา ว่าเหตุใดจำนวนประชาชนที่รังเกียจ แทกซี ที่ "ถูกกฎหมาย" มันจึงเพิ่มขึ้นในอัตราที่เกินคาดระดับนี้ ที่จริงแล้ว มันควรจะเพิ่มมานานแล้วครับ ติดอยู่ตรงที่ว่า แต่เดิมนั้นพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องทนถูกเอาเปรียบ เหยียดหยาม โกง ฯลฯ ตลอดมา เพื่อไม่ให้เปลืองเนื้อที่ ผมขอรวบรวมพฤติกรรมเลวของคนพวกนี้มาให้เห็นกันอีกครั้ง โดยไม่เรียงตามระดับความเลวนะครับ 1. ปฏิเสธผู้โดยสาร โดยใช้ผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง เรื่องนี้เลวร้ายมากครับ เพราะไม่มีแทกซีในอารยประเทศใด ทำเช่นนี้ 2. ไล่ผู้โดยสารลงกลางทาง เมื่อเห็นว่ามีโอกาสจะได้รายได้เพิ่มมากกว่า จากการรับผู้โดยสารใหม่ 3. กิริยา มารยาท ทราม สถุล กักขฬะ เพราะไม่มีการคัดกรองคุณสมบัติโดยกรมการขนส่งทางบก ผู้ออกใบอนุญาต เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้อย่างละเอียดแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาว่า โจรร้าย นักฆ่าข่มขืน อดีตนักโทษที่เลวโดยสันดาน ไม่มีวันกลับตัวได้ คนโกงทุกโอกาสเป็นสันดาน "ขี้ยา" "ขี้เมา" สถุลถ่อย สามารถรับใบอนุญาตขับรถแทกซีได้เสมอครับ ถ้ามันเห็นผู้โดยสาร อ่อนแอ อ่อนวัย หรือสูงวัย ไม่มีทางตอบโต้อะไรพวกมันได้ มันจะใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ สบถ ด่าหยาบคาย สำราก เสมือนว่าผู้โดยสารเป็นสาเหตุให้มันต้องเจอการจราจรติดขัด 4. เอาเปรียบผู้โดยสาร ด้วยการไม่ยอมใช้มิเตอร์กำหนดค่าโดยสาร ระยะทางระดับค่าโดยสารประมาณไม่เกิน 150 บาท มันจะโก่งราคาเป็น 400 ถึง 500 บาท โดยเฉพาะเวลากลางคืน ที่การจราจรสะดวกกว่ากลางวันมาก มันต้องเลว และหน้าด้านจริงๆ จึงจะทำเช่นนี้ได้ 5. โกงซึ่งๆ หน้า ถ้าเห็นว่าผู้โดยสารไม่น่ากล้าตอบโต้มัน เช่น ไม่ทอนเงิน บอกอย่างหน้าด้านว่าไม่มี ขับอ้อมวกวน ทั้งๆ ที่ผู้โดยสารชำนาญเส้นทาง เรื่องโกงผู้โดยสารนี่ ขนาดคนไทยด้วยกัน ยังโดนมันทำขนาดนี้ ผมอยากให้ผู้ที่รับผิดชอบด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว (ของชาวต่างชาติที่มายังประเทศไทย) ว่ามีนักท่องเที่ยวมากมายขนาดไหน ที่โดนคนขับ แทกซี พวกนี้ฉ้อโกง 6. สภาพทั่วไปของตัวรถ และห้องโดยสาร ซึ่งจำนวนไม่น้อยทรุดโทรมสกปรก ไร้การดูแลอย่างใส่ใจ แค่นี้ก็คงพอนะครับ หน่วยงานของรัฐต้องหาวิธีกำจัดสิ่งเลวร้ายของวงการแทกซีของไทย ให้สำเร็จจริงจังอย่างเป็นรูปธรรมก่อน แล้วจึงค่อยมาพิจารณาว่าจะห้าม หรือจำกัดจำนวนผู้ให้บริการทางเลือกเหล่านี้อย่างไร และอย่าตะแบงว่า ส่วนใหญ่ประมาณ 99.99 % เป็นคนดีเหมือนตำรวจ ให้ประชาชนฟังแล้วเจ็บแค้นเพิ่มขึ้นอีก ผมเชื่อว่าผู้อ่านของเราทราบกันดี ว่าตัวเลขที่ว่านี้ น่าจะมีค่าประมาณเท่าไร และที่เลวร้ายที่สุด ก็คือ การทำตัวเหนือกฎหมาย รุมล้อมผู้ที่พวกมันเชื่อว่าเป็นสมาชิกขององค์กรที่มันต่อต้าน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตีความให้ชัดเจนว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ยังมีน่าสมเพชยิ่งกว่านี้ครับ ซึ่งก็คือการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐพยายามกล่าวหาผู้หญิงที่ขับรถไปรับเพื่อนชาวต่างชาติว่าขับรถรับจ้างผิดกฎหมาย หลังจากนั้นไม่นาน มีการเชิญประธานชมรมพวกขับรถแทกซี ผมไม่ได้จำชื่อชมรมนี้ไว้ เพราะไร้ค่า รกสมองเปล่าๆ พวกมันมานั่งให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่าหากพบเห็นผู้ขับที่มันเชื่อว่ามาแย่งรายได้ของพวกมันที่ไหนก็ตาม มันก็จะเข้าไปรุมทำร้ายอีก สื่อที่เชิญพวกมันมาก็บ้าพอกัน ที่ให้โอกาสมันมาสำรากข่มขู่ประชาชน ถ้ามันมีร้านขายอาหารแล้วมีใครไปขายอาหารใกล้เคียงร้านมัน และทำอาหารสะอาดกว่า อร่อยกว่าของมันจะต้องถูกมันมารุมล้อม ทำร้าย หรือทำลายร้านหรือครับ ผมว่าสมควรลากคอพวกมันไปศึกษาเรื่องสิทธิของพลเมือง ในเรือนจำสัก 2-3 เดือนมากว่า ผมเชื่อว่า แม้จะห้ามผู้ให้บริการรายใหญ่ทั้ง 2 รายนี้ได้สำเร็จ ก็จะต้องมีผู้อื่นมาให้บริการทำนองนี้ทดแทน และอาจจะเป็นของคนไทยก็ได้ หน้าที่ของคนขับแทกซีพวกนี้ ที่แท้จริงคือการละความหน้าด้านเอาเปรียบ คดโกง แล้วพัฒนาตนเอง ให้เข้าใจว่าการให้บริการที่ดี มีคุณภาพ ต่อผู้โดยสารนั้น ต้องทำอะไรบ้าง เพราะประชาชนที่รักความถูกต้อง เป็นธรรม จะไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไปแล้ว
จานเบรคที่ดีไม่ใช่แค่รูปทรง และขนาดถูกต้อง
ชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบขึ้นมาเป็นรถทั้งคันให้พวกเราใช้กันอยู่นี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นสิ่งที่เราตรวจสอบคุณภาพด้วยการมอง หรือสัมผัสไม่ได้เลย มียกเว้นเป็นส่วนน้อยเท่านั้นครับ เช่น ผ้าหรือหนัง ที่ใช้หุ้มเก้าอี้ ซึ่งผู้ที่มีความรู้ความชำนาญ สามารถใช้วิธีมองดูพร้อมกับใช้มือลูบคลำดู เพื่อประเมินคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง หรือแผงหน้าปัด ที่แม้เราจะมองเห็น แล้วเกิดความรู้สึกว่าเป็นวัสดุชั้นดี สวยงาม แต่เราก็ไม่มีทางทราบได้เลย ว่ามันจะมีความทนทาน อายุใช้งานสูงเพียงใด และถ้าเป็นชิ้นส่วนที่การใช้งานไม่ได้เกี่ยวข้องกับรูปลักษณ์ภายนอกเลย เราก็ต้องไม่หลงประเด็น ไปกับการประเมินคุณภาพด้วยการมองดูครับ จานเบรคของเราอยู่ในกลุ่มนี้โดยตรง ไม่มีใครประเมินคุณภาพจากการมอง ลูบผิว หรือยกดูได้เลย หากต้องการแน่ใจ ว่าได้ของแท้คุณภาพสูงต้องตรวจสอบด้วยวิธีอื่นครับ ให้แน่ใจว่ามาจากต้นทางที่ผลิต "ของแท้" หรือของดีคุณภาพสูง วิธีแรกที่แน่นอนและง่ายที่สุด คือ ใช้บริการของศูนย์บริการอย่างเป็นทางการของรถบแรนด์ที่เราใช้ นอกเหนือไปจากนี้ ก็ต้องใช้ความสามารถพิเศษกันแล้วครับ ในการตรวจสอบ "ที่มา" ของจานเบรค ซึ่งก็มีวิธีที่ใช้กันอยู่มากมายเป็นที่รู้กันในวงการผู้ใช้รถที่ไม่นิยมเข้าศูนย์บริการ ผมขอให้คำแนะนำที่คิดว่าสำคัญมากไว้ 2 ข้อ คือ อย่าหลงเชื่อ หลง "คารม" เจ้าของหรือพนักงานในร้านขายอะไหล่ เพราะอะไหล่ปลอม คือ ของโปรดของเจ้าของร้านเจ้าเล่ห์พวกนี้ เพราะมันทำกำไรได้ในสัดส่วนที่สูงมาก ต้องถามกันเป็นร้อยเปอร์เซนต์นะครับ ไม่ใช่หลักสิบ และเอาผิดไม่ได้ด้วย เพราะถ้ามีใครจับได้มันก็จะบอกว่า มันเชื่อว่าแท้ หรือไม่ก็บอกว่า มันดูไม่เก่ง "ลอยตัว" ได้ง่าย ทำนองเดียวกับพวกขายพระเครื่องปลอม ข้อสอง ก็คือ อย่าไปหลงใหลรูปลักษณ์เป็นอันขาด คนผลิตของปลอมมันรู้ใจเหยื่อครับ จึงเน้นให้ "สวย" ล่อใจเหยื่อไว้ก่อน จานเบรคปลอม หรือไม่ได้ปลอมบแรนด์ไหนเลย คือ ตั้งบแรนด์ขึ้นมาใหม่ดื้อๆ จึงมักมีผิวเรียบสวย อาจถึงขั้นมันวาว แม้แต่ผิวส่วนที่ไม่จำเป็นต้องเรียบหรือเป็นมัน จุดสำคัญที่ผมต้องการเน้นในตอนนี้ ก็คือ จานเบรคที่ดีจะต้องมีเนื้อเหล็ก (ไม่รวมรุ่นพิเศษอื่นๆ) ที่เหมาะแก่การทำหน้าที่ของจานเบรคครับ เพราะผู้ใช้รถส่วนใหญ่ เชื่อว่าขอให้เป็นเหล็กแข็งพอ รูปร่าง และขนาดถูกต้อง ก็ใช้ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้จานเบรคคุณภาพต่ำหลอมจากเหล็กของพวกซาเล้ง แล้วเอามากลึงให้รูปทรงถูกต้อง ถึงขายดีและสร้างปัญหาให้ผู้ใช้รถ ทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัวกันมากมาย จานเบรคที่ดี จะต้องมีคุณสมบัติทางโลหะวิทยาของเนื้อเหล็กหลายด้าน เช่น ความแข็ง ต้องเป็นค่าที่เหมาะสม ถ้าแข็งเกินก็จะทำให้ผ้าเบรคสึกเร็วเกินไป และอาจส่งเสียงรบกวนขณะเบรค ถ้าอ่อนเกินไป จานเบรคจะอายุสั้นเพราะสึกง่ายเกินไป ถ้าเป็นจานเบรคแบบที่มีช่องระบายความร้อนระหว่างผิวทั้งสองด้าน ของปลอมหรือของคุณภาพต่ำ จะหล่อให้มีช่องกว้าง เพื่อให้ใช้เนื้อเหล็กน้อย ช่วยลดต้นทุนได้อีก จานเบรคพวกนี้จะเบากว่าของแท้จนรู้สึกได้เลยเมื่อลองยกดู และอย่านึกว่าช่องที่กว้างจะช่วยระบายความร้อนได้ดีนะครับ ครีบที่คั่นระหว่างช่องเหล่านี้ ก็ถูกลดจำนวนลง การระบายความร้อนก็แย่ลงตาม และที่สำคัญกว่านั้น ปริมาณเนื้อเหล็กของจานเบรคต้องมีมากพอด้วย เพื่อ "ดูดซับ" พลังงานความร้อนจากการเบรคความเร็วสูง ซ้ำกันหลายครั้ง ถ้าเนื้อเยื่อเหล็กน้อย อุณหภูมิจะสูงมากจนผ้าเบรคล้า (FADE) และ "ลื่น" ผู้ผลิตจานเบรคคุณภาพสูงจะต้อง "รอ" ให้เนื้อเหล็กปรับตัวเป็นระยะเวลาพอสมควร ก่อนที่จะนำไป "กัด" และ "กลึง" ให้ได้จานเบรค ส่วนผู้ผลิตของปลอมหรือของคุณภาพต่ำ จะไม่รอให้เหล็กหดตัวจนได้ที่ พอเป็นรูปทรงสุดท้ายแล้ว แต่เหล็กยังหดตัวอยู่ และในระดับที่ไม่สม่ำเสมอด้วย จานเบรคจึงคด ตั้งแต่ยังเป็นของใหม่ แม้จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ก็จะยิ่งสร้างปัญหา เมื่อใช้งานไปสักพัก หัวใจสำคัญที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพของเนื้อจานเบรค คือ ปริมาณคาร์บอนที่ต้องสูงเพียงพอ ในการทำให้เนื้อเหล็กแข็งและรับภาระจากการเบรคได้ดี คนที่ผลิตจานเบรคปลอมหรือห่วย จะไม่เข้าใจเรื่องนี้ ถือว่า "เหล็กก็คือเหล็ก" ปริมาณคาร์บอนที่สูงพอช่วยให้จานเบรคกระจายความร้อนได้ดี ผิวจานที่เสียดสีกับผู้เบรคจึงไม่ร้อนจัดเกินควร คาร์บอนช่วยให้เหล็กไม่บิดงอ เมื่อรับความร้อนจากการเบรค คาร์บอนที่สูงพอ ยังช่วยให้ผิวหน้าที่สัมผัสผ้าเบรค สึกช้า และเรียบสม่ำเสมอ ไม่ส่งเสียงรบกวน หรือมีอาการสะท้าน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอนะครับ ให้พวกเราเลือกใช้แต่จานเบรคคุณภาพสูงหรือของแท้เท่านั้นเรื่องโดย : เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : รอบรู้เรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/182599