โค้งอันตราย
คืนสู่ความจริง
หลังจากจบปี 2556 อย่างสวยงามไปแล้ว แม้ว่าอัตราการเติบโตจะไม่เป็นไปตามคาด แต่ก็นับว่ายังเป็นเรื่องที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในห้วงที่เกมการเมืองมีปัญหา แต่ภาคเศรษฐกิจ ก็ยังประคับประคองผ่านกันมาได้ พอเข้าสู่ศักราชใหม่ ตัวเลขการขายของเดือนมกราคม ก็สะท้อนความเป็นจริง สะท้อนความต้องการตลาดที่แท้จริง ไม่มีอะไรมาบิดเบือน ขายตกไปถึง 45.9 % จากที่เคยขายกันเดือนละแสนกว่าคัน ลดเหลือเพียง 67,422 คัน เท่านั้นเองเฉพาะรถยนต์นั่ง ลดลงไปถึง 57.7 % ขายได้เพียง 24, 167 คัน เท่านั้นเอง การลดลงของตลาดรถยนต์นั่ง ส่วนหนึ่ง เป็นผลจากยอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ลดลงไปกว่า 60 % หลังสิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรก ก็ได้กลับคืนสู่ความเป็นจริงกันเสียที มาดูกันว่า ในปี 2557 นี้ สภาพทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แต่ต้องไม่ลืมว่า ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น และยังไม่มีทางออกที่แน่ชัด ณ ขณะนี้ หลายคนแสดงความกังวลว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2557 นี้จะมีความโน้มเอียงไปในทางลบ อาจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3.5-4.5 ต่ำกว่าที่เคยคาดว่าจะขยายได้เกินร้อยละ 5.0 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ดังกล่าวอยู่บนปัจจัยพื้นฐาน จากการประเมินเศรษฐกิจไทยใน ปี 2556 ที่หลายสำนักสรุปตรงกันว่า การขยายตัวต่ำมากอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ต่ำกว่าที่เคยประมาณการไว้ที่ร้อยละ 5.3 เป็นผลมาจากผลกระทบจากค่าเงินบาท ที่มีการแข็งค่าขึ้นมากในช่วงครึ่งปีแรกจากเงินทุนไหลเข้า และการอ่อนตัวลงของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ภาคส่งออกของไทยมีปัญหาตลอดทั้งปี ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี และความต้องการภายในประเทศที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้ การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงร้อยละ 0.4 เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจของไทย ในขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนในรอบปีที่ผ่านมาหดตัวร้อยละ 0.3 แต่ส่วนสำคัญ คือ ภาคการท่องเที่ยวไทย ที่เคยสร้างรายได้ให้ประเทศไทยอย่างมีนัย และขยายตัวต่อเนื่องมาโดยตลอด ในปี 2556 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย จำนวน 26.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.6 ทำรายได้ 1.17 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 เทียบกับปีก่อน แต่ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี จำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง แม้จะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวก็ตาม ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยมากที่สุด คือ จีน รองลงมา คือ มาเลเซีย และรัสเซีย รู้จักตัวเองแล้ว มาดูภาพในมุมกว้างบ้าง เศรษฐกิจโลกในปี 2557 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง โดย IMF คาดว่าปี 2557 เศรษฐกิจโลกจะเติบโตร้อยละ 3.6 ดีขึ้นกว่าปี 2556 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.9 ทั้งนี้เป็นผลจากเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วจะนำการขยายตัว นำโดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะฟื้นตัวดีขึ้นจากอุปสงค์ภาคเอกชน เศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากจุดต่ำสุดเมื่อปีก่อน แม้อัตรการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาจะกลับมาขยายตัวในระดับปกติ ส่วนเศรษฐกิจเอเชีย ในปี 2557 IMF คาดการว่ายังขยายตัวอย่างมั่นคง โดยเฉพาะจีนที่กำลังปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มบทบาทของความต้องการภายในประเทศ และกลไกภาคเอกชน ให้เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างมั่นคงในอัตราร้อยละ 7.0-7.5 ในขณะที่อินเดียจะขยายตัวร้อยละ 5.1 ส่วนอาเซียน 5 จะขยายตัวดีขึ้นประมาณร้อยละ 5.4 จากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัว แต่ทั้งหมด ยังมีประเด็นความไม่แน่นอนในหลายเรื่อง ทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ก่อนตัดสินใจทางธุรกิจในแต่ละระยะ อีกเรื่อง ที่อยากให้รู้ไว้ เพราะเป็นปรากฏการณ์สำคัญในแวดวงยานยนต์ คือ เรื่องการยกเลิกสิทธิ์รถคันแรก ที่สรรพสามิต เปิดออกมาแล้ว ว่าจะยกเลิกสิทธิ์ของผู้ที่จองรถยนต์ในโครงการ แต่ยังไม่เข้ามาสิทธิ์ เพื่อต้องการให้โครงการปิดตัว หลังเปิดมาตั้งแต่ ตุลาคม 2554 และก็ขยายโครงการจนถึง 31 ธันวาคม 2555 เพราะเกิดน้ำท่วมปลายปี 2554 ทำให้ผู้ประกอบการบางราย มีปัญหาในการส่งมอบรถยนต์ สิริรวมแล้ว มีผู้ขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1.25 ล้านราย รับเงินไปแล้ว 8.46 แสนราย มูลค่า 6 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่มาใช้สิทธิ์กว่า 1.2 แสนราย และรับรถยนต์ไปแล้ว 1.125 ล้านราย เกือบ 10 % จากยอดทั้งหมด แต่ยังเหลือยอดคงค้าง ที่สรุปไม่ได้ว่า จะมาใช้สิทธิ์หรือไม่ ประเด็นที่ว่านี้ สรรพสามิต ก็คุยกับผู้ประกอบการ ให้สอบถามกับลูกค้าที่ถือใบจอง ว่าจะยังต้องการเข้าร่วมโครงการหรือไม่ ถ้าไม่เข้าร่วมก็จะตัดสิทธิ์ทันที แต่ก็ยังมีประเด็นว่า ใบจองรถยนต์บางยี่ห้อ ไม่ได้ระบุเวลารับรถยนต์ที่ชัดเจน ซึ่งบริษัทรถยนต์ ก็รับปากว่า จะไปหารือกับลูกค้า เพื่อให้ได้ข้อสรุป แต่เรื่องนี้ ค่ายรถยนต์แทบจะถือได้ว่า ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานในปัจจุบันแล้ว เพราะได้บริหารปริมาณการผลิต จนค่อนข้างเข้าที่เข้าทางกับแทบทุกค่ายแล้ว กรม อยากเลิก ก็ตามสบาย เพราะเป็นเรื่องของราชการ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ แคมเปญมโหฬาร ที่แต่ละค่าย ยังประดังกันอยู่ในปัจจุบัน จะค่อยๆ ลดน้อยลงในช่วงกลางปี เพราะเกือบจะเข้าเนื้อกันอยู่แล้ว ยกเว้นพวกสายป่านยาวทั้งหลาย ยังจำเป็นต้องมีกันอยู่ นั่นก็ไม่ว่ากัน แต่เมื่อตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราก็จะได้เห็นตัวเลขที่แท้จริงกัน ปีนี้ ทั้งปีแน่นอนเชื่อผมได้เลย
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/18009