เครื่องเสียง OEM
ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.0 อีโคบูสต์ ไททาเนียม
"สามารถเล่นได้ตั้งแต่ CD/MP3 อีกทั้งไม่ลืมที่จะเอาใจคอ USB มีช่องเสียบ เพื่อต่อเชื่อมกับอุปกรณ์หลากหลายใกล้ๆ มือ"
นี่คือ รถระดับ บี เซกเมนท์ อีกรุ่น ที่เชื่อว่าจะมาแรงมากๆ ในไทยครับ ถ้าค่าย ฟอร์ด บุกตลาดจริงๆ จังๆ เมื่อไร ยิ่งต้องจับตาให้ดี เพราะมักจะมีทีเด็ดนำเสนอให้แปลกใจทุกครั้ง ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.0 อีโคบูสต์ ไททาเนียม ตัวนี้ ที่เห็นจากภายนอก คมเข้ม สวยโฉบเฉี่ยว ทุกมุมมอง ส่วนภายในก็มิได้แพ้กันเลย ทางทีมงาน CAR STEREO TEST LAB ได้รถมายลโฉมก่อนใครๆ เลยรีบจัดมาให้ท่านผู้อ่านเห็นกันแบบเจาะลึกครับ บรรดาแฟนเครื่องเสียงที่กำลังเล็งรถรุ่นนี้ จะได้รีบศึกษาว่าจะทำอะไรกันดี
ภายในห้องโดยสาร เส้นสายมีดีไซจ์นมากๆ ไม่ผิดหวังเลย กับความเอาใจใส่ในรายละเอียดของ ฟอร์ด แผงแดชบอร์ด ด้านหน้านั้นมีจอดิสพเลย์ไว้ สำหรับดูการทำงานต่างๆ ของระบบเครื่องเสียงซะด้วย ใจถึงให้เครื่องเล่น CD ขนาดพิเศษ พร้อมให้เครื่องเล่น CD/MP3 มาด้วย สามารถใส่แผ่นด้านหน้าได้เลย โดยออกแบบสีไฟหน้าปัดวิทยุเข้ากันกับภายในทั้งหมด มีปุ่มควบคุมการทำงานทั้งระบบจากพวงมาลัย (รุ่นทอพ)
ระบบเสียง OEM
พร้อมรับ CD/MP3
ทีมงานรีบทดสอบระบบ OEM นี้กันเลย โดยเริ่มด้วยระบบเสียงที่ให้มามาตรฐานของรถรุ่นนี้นั้น สามารถเล่นได้ตั้งแต่ CD/MP3 อีกทั้งไม่ลืมที่จะเอาใจคอ USB อีกต่างหาก โดยมีช่องเสียบสำหรับการต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ทั้งหลายไว้ใกล้ๆ ตำแหน่งเกียร์ด้วย กับชุดช่องเสียบ AUX IN ที่ไว้ต่อกับแจค 3.5 มม. พร้อมลำโพงหน้าแยกชิ้น 4 ตัว กลาง และแหลมแยกอิสระที่ประตูทั้งสอง ส่วนด้านหลังลำโพงแบบ FULL RANGE อีก 2 ตัว เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมาจากโรงงาน คุณภาพเท่าที่สัมผัสเบื้องต้น ก็น่าสนใจครับ แถมมาด้วยอีกอย่างคือ BLUETOOTH ที่สามารถใช้งานเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ของคุณๆ ได้ง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องยกหูมาแนบให้เสียสมาธิในการขับ
เพิ่มเติมระบบเสียง
งบประมาณ 3 ระดับ
15,000 บาท : ระดับเริ่มต้น งบแบบเด็กๆ เพิ่งเริ่มทำงาน ผมแนะนำว่าควรตั้งงบประมาณเบาๆ ไว้ซัก 15,000 บาท โดยจัดการกรุแผงประตูทั้ง 4 บาน เพื่อความเงียบของห้องโดยสาร ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลง โดยมีเสียงรบกวนจากภายนอกน้อยลงกว่าเก่า อย่าติดเยอะมากนะครับ เดี๋ยวจะพาลวิ่งไม่ออก เพราะน้ำหนักเยอะกับการเปลี่ยนลำโพงคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิมเข้าไป ด้านหน้าและหลัง ลองดูสินค้าดีๆ ใน CAR STEREO มีให้เลือกกันครับ ลำโพงหน้างบ 5,000 บาท ลำโพงหลังไม่ควรเกิน 3,000 บาท ที่เหลือเป็นค่าอุปกรณ์ สายสัญญาณ สายลำโพง งานติดตั้ง และค่าแผ่นซับเสียงครับ
30,000 บาท : ส่วนขา ROCK หรือ คอเครื่องเสียงหน่อยระดับพโร แต่ไม่อยากทุ่มทุนมากมายนัก งบซัก 30,000 บาท ก็สามารถลงตัวได้ โดยเปลี่ยนลำโพงที่ดีขึ้นอีกนิดครับ ด้านหน้า 8,000 บาท ด้านหลังซัก 5,000 บาท ใส่เพาเวอร์แอมพ์ ไปซักเครื่องแบบ 4 แชนแนล งบอีก 7,000 บาท เพิ่มซับวูเฟอร์ประเภท BASS BOX ใต้เบาะ ที่เหลือ ก็ค่างานติดตั้ง และค่าอุปกรณ์ป้องกันเสียงเข้าไปรบกวนห้องโดยสาร ระบบนี้จะได้คุณภาพเสียงรายละเอียด และพลังที่ดีกว่าระดับเริ่มต้นอีกขั้น
70,000 บาทขึ้นไป : สุดท้ายแบบนักเล่นใจรักแถมเงินถึงแบบ EXPERT ต้องการระบบที่สมบูรณ์แบบด้านเวทีเสียง และความสมจริงด้วย เพิ่มเติมระบบจากระดับพโร โดยเปลี่ยนเครื่องเล่นด้านหน้าคุณภาพสูง กับใส่เจ้า AUDIO PROCESSOR ตัวใหม่ๆ ที่ราคาค่าตัวราว 12,000 บาท เท่านั้น จุดประสงค์ไว้นำมาปรับแต่งเสียง และเวทีเสียงในห้องฟังอย่างละเอียดด้วยคอมพิวเตอร์ ทุกๆ แง่มุมคุณภาพที่เราต้องการ งบรวมระบบเสียงระดับแข่งขันได้แบบนี้ ประมาณ 70,000 บาท ขึ้นไปครับ ทีเดียวจบครบสมบูรณ์เลย...ฟันธง !
ส่วนใครคิดเปลี่ยนเครื่องเล่นด้านหน้า คงต้องหาหน้ากากคอนโซลใหม่ ซึ่งน่าจะผลิตออกมาจำหน่ายกันบ้างแล้ว เพิ่มเติมงบประมาณในส่วนนี้ ไม่เกิน 20,000 บาท ได้เครื่องเล่น DVD ไว้ดูหนังเพลินๆ ด้วยครับ ส่วนเรื่องของการให้คะแนนระบบเสียงที่ติดตั้งมากับรถจากโรงงานนั้นดูได้จากตาราง และกราฟครับ
การให้คะแนน
เริ่มจากการแบ่งรถออกเป็น 3 ระดับราคา คือ ไม่เกิน 1 ล้านบาท เกิน 1-3 ล้านบาท และ 3 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากวัสดุ และอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ใช้ติดตั้ง มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เราให้คะแนนจาก 7 หัวข้อ
1. ลักษณะ และภาพรวมของเสียง โดยฟังจากแผ่น IASCA ให้คะแนนเสมือนแข่งขัน
2. การวัดระยะห่างลำโพง โดยหาค่า OFF SET ระหว่างลำโพงซ้าย/ขวา ของทวีเตอร์ และมิดเบสส์ ระยะอ้างอิง 24" ฐาน 10 = 2.4 คำนวณตามสูตร : 10-(OFF SET/2.4)
3. โครงสร้างตำแหน่งลำโพง ความมั่นคงแข็งแรง วัสดุโครงสร้างภายในรถ ดูส่วนประกอบต่างๆ ที่มีผลต่อเสียง
4. ด้วยความสมดุลของเสียงตลอดช่วงความถี่ ในระดับวอลูมต่างกัน (แผ่นทดสอบเสียงที่ใช้อ้างอิง CD IASCA COMPETTITION)
5. การเข้าถึงอุปกรณ์ (ERGONOMIC) ขณะผู้ทดสอบนั่งตำแหน่งคนขับ และเปิด/ปิด ใส่แผ่น ปรับแต่งเสียง
6. ความพึงพอใจของผู้ทดสอบ (PREFERENCE) ในการใช้งานระบบ และทดลองฟังดนตรี
7. ความเงียบของห้องโดยสาร ขณะจอดนิ่ง ใช้ตัวเลขอ้างอิงจากผลทดสอบ นิตยสาร "ฟอร์มูลา"
สรุป
ผลทดสอบระบบเสียง OEM ใน ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.0 อีโคบูสต์ คันนี้ ได้ผลออกมาในระดับพอใช้สุดเกจ เกือบดี เมื่อเปรียบเทียบในกลุ่มรถระดับราคาไม่เกิน 1,000,000 บาท จัดว่าออกแบบติดตั้งมาได้ดีลงตัว คุณภาพเสียงสามารถปรับปรุงให้เป็นระดับไฮเอนด์ได้โดยไม่ยาก
ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.0 อีโคบูสต์ ไททาเนียม
[table]
ระดับราคา (779000 บาท)
ไม่เกิน 1000000 บาท,o
1000001-3000000 บาท,-
3000000 บาทขึ้นไป,-
[/table]
ตารางคะแนน ระบบเสียง (OEM)
[table]
ลักษณะและภาพรวมของเสียง (100 คะแนน)
หัวข้อละ 20 คะแนน,คะแนน
เสียงเบสส์,5/20
เสียงต่ำ,6/20
เสียงกลาง,6/20
เสียงสูง,6/20
ภาพรวมของเสียง,6/20
รวม,29/100
[/table]
การวัดระยะห่างลำโพง (20 คะแนน)
[table]
ลำโพง,ซ้าย,ขวา,OFF SET,คะแนน
ทวีเตอร์,47,30,17,3/10
มิดเบสส์,59,45,14,4/10
รวม,,,,7/20
* คะแนน = 10-(OFF SET/2.4)
[/table]
[table]
ตำแหน่งลำโพง และวัสดุโครงสร้างในรถ (20 คะแนน),คะแนน
ตำแหน่งการติดตั้ง มั่นคงแข็งแรง,5/10
วัสดุที่มีผลต่อเสียง,6/10
รวม,11/20
ความสมดุลของเสียงตลอดย่านความถี่ (30 คะแนน)
ระดับวอลูม,คะแนน
SOFT,5/10
MEDERATE,6/10
HIGH,6/10
รวม,17/30
* การปรับแต่ง EQ FLAT
การเข้าถึงอุปกรณ์ (ERGONOMIC),5/10
ความพึงพอใจของผู้ทดสอบ (PREFERENCE),5/10
[/table]
ความเงียบของห้องโดยสาร (43 ดีบี)
[table]
ระดับเสียง (ดีบี),คะแนน
0 ไม่มีเสียง,10
1-10,9
11-20,8
21-30,7
31-40,6
41-50,5
51-60,4
61-70,3
71-80,2
81-90,1
91-100,0
วัดได้ 43 ดีบี ได้คะแนน,5/10
* ขณะรถสตาร์ทเครื่อง จอดนิ่ง
(อ้างอิงจากนิตยสาร "ฟอร์มูลา" ฉบับ มีนาคม 2557)
สรุป (คะแนนเต็ม 200 คะแนน),80/200
[/table]
ความหมายจำนวนดาว เปรียบเทียบกับคะแนน
[table]
รถระดับราคา (บาท),,ไม่เกิน 1000000 บาท,1000001-3000000,3000000 ขึ้นไป
จำนวนดาว,ความหมาย,,ระดับคะแนน (คะแนน)
,ได้อรรถรส,(90 ขึ้นไป),(100 ขึ้นไป),(110 ขึ้นไป)
,ดี,(81-90),(91-100),(101-110)
,พอใช้,(71-80),(81-90),(91-100)
,พอฟังได้,(60-70),(70-80),(80-90)
,ควรปรับปรุง,(น้อยกว่า 60),(น้อยกว่า 70),(น้อยกว่า 80)
[/table]
กราฟแสดงผลทดสอบระบบเสียง OEM ใน ฟอร์ด ฟิเอสตา 1.0 อีโคบูสต์
1. ลักษณะและภาพรวมของเสียง 29/100 (29 %)
2. การวัดระยะห่างลำโพง 7/20 (35 %)
3. ตำแหน่งลำโพง และวัสดุโครงสร้างในรถ 11/20 (55 %)
4. ความสมดุลของเสียงตลอดย่านความถี่ 17/30 (57 %)
5. การเข้าถึงอุปกรณ์ (ERGONOMIC) 5/10 (50 %)
6. ความพึงพอใจของผู้ทดสอบ (PREFERENCE) 5/10 (50 %)
7. ความเงียบของห้องโดยสาร 5/10 (50 %)
เรื่องโดย : ทีมงาน CAR STEREO TEST LAB
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : เครื่องเสียง OEM
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/17998