รู้ไว้ใช่ว่า
เห็นคนเป็นผี
โอกาสทองสำหรับคนทำมาหากินในช่วงนี้ คือ การทำ "ไฟเดย์ไลท์" สำหรับรถต่างๆ ออกมาขาย ให้คนบ้านเราใช้ ที่เห็นๆ นักเลงรถกระบะทำท่าจะล้ำหน้า มีชนิดสำเร็จรูป ติดที่รอบๆ ไฟหน้า หรือตรงไฟตัดหมอก ผมเคยเห็นมีขายในร้านอุปกรณ์ประดับรถยนต์เหมือนกัน ช่วงแรกๆ ราคาอาจแพงเวอร์ เข้าใจว่าตอนนี้คงย่อมเยาลง เมื่อทำออกมาขายมากขึ้น ดีครับ ตกแต่งด้วยไฟเดย์ไลท์ ช่วยให้เกิดความปลอดภัย ผู้ร่วมทางสังเกตเห็นรถง่ายขึ้น ลดอุบัติเหตุได้ไม่น้อย น่าจะดีกว่าการเอาโครเมียมปลอมๆ แปะไว้รอบคัน เหมือนลิเกหลงโรง ซึ่งหมดสตางค์ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน...
คดีนี้น่าสนใจ กระทาชายนายหนึ่ง เดินอยู่ดีๆ มีคนเห็นเขาเป็นผี มาดูสิว่าจะลงเอย และสยองแค่ไหน
เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อของบางชุมชนในภาคอีสาน "นายคาถา" แกเดินหน้าเหี่ยวออกจากวัด หลังเสร็จงานทำบุญศพลูก พอเจอ "นายเหล็กกล้า" ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ใช้ไม้ไผ่ยาวราว 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ไล่ฟาด นายเหล็กกล้า แบบไม่ยั้ง เมื่อไม่มีวิทยายุทธอย่างในหนังบู๊ ชื่อ เหล็กกล้า แท้ๆ แต่โดนไม้ไผ่กระหน่ำจนตายคาที่ หมอไม่ต้องรักษา
ตำรวจจับกุมคนทำผิด คือ นายคาถา มาได้ (ถ้าตำรวจเขาตั้งใจซะอย่าง) อัยการนำตัวไปฟ้อง ข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา "นส. หุ้มทอง" ลูกสาว นายเหล็กกล้า ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ ศาลอนุญาต
จำเลย คือ นายคาถา สู้คดี ทนายที่จ้างไว้เป็นคนท้องถิ่น อินกับเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกัน จึงแก้เกมให้ลูกความ อ้างต่อศาลว่า วันเกิดเรื่อง นายคาถา เสร็จจากการทำบุญศพลูกที่วัด เดินกลับบ้าน ระหว่างทางเห็นหมาดำตัวใหญ่ เข้าใจว่าเป็นหมาปีศาจ เป็นผีปอบ จึงตามไปตี แสดงว่าทำไปในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ ไม่สามารถบังคับตนเองได้ ด้วยจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน เอาผิดคนบ้าไม่ได้หรอก ขอให้ยกฟ้อง
พออัยการนำพยานเข้าสืบไปได้หน่อยหนึ่ง นายคาถา กลับลำ ให้การรับสารภาพ ต่อมาศาลต้องพักการพิจารณา สั่งให้ส่งตัว นายคาถา ไปตรวจสภาพจิต นายคาถา จึงแก้คำให้การใหม่ รับว่าฆ่าเขาจริง แต่ทำไปเพราะวิกลจริต ในที่สุดก็มีการพิจารณาคดีต่อไปจนเสร็จ
ศาลชั้นต้นตัดสินว่า นายคาถา ทำผิดขณะจิตบกพร่อง แต่พอจะรู้อะไรอยู่บ้าง ลงโทษจำคุก 10 ปี มีส่วนลดให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 5 ปี ริบไม้ไผ่ของกลาง
อัยการเอาด้วยกับคำตัดสิน ใส่เกียร์ถอย ยังดีที่ลูกสาวของ นายเหล็กกล้า ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม จึงใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ โต้แย้งว่า นายคาถา ทำไปขณะรู้ผิดชอบชั่วดี ต้องลงโทษให้จั๋งหนับ เจตนาฆ่าพ่อของหนูชัดๆ
ศาลอุทธรณ์เอาด้วยกับ นส. หุ้มทอง พิพากษาแก้ เอาผิด นายคาถา ฐานฆ่าโดยเจตนา ไม่ได้ทำไปเพราะบ้า วางโทษจำคุกตลอดชีวิต ชั้นศาลไม่ได้ปฏิเสธ มีส่วนลดให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน
จำเลย คือ นายคาถา ดิ้นสิทีนี้ ให้ทนายยื่นฎีกา ยังอ้างว่าบ้า อ้างว่าเชื่อไสยศาสตร์ เข้าใจว่า นายเหล็กกล้า เป็นผีปอบ ทำให้ลูกและลูกเขยของตนตายตั้ง 2 คน
ศาลฎีกาดูคดีที่ออกแนวไสยศาสตร์ รู้สึกขนลุกขนพองนิดหน่อย แล้วชี้ขาดออกมา
มีประเด็นให้ศาลขบอยู่ข้อเดียว คือ นายคาถา ทำเขาตายขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ ไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือนหรือเปล่า จริงอยู่ระหว่างพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น ศาลพักการพิจารณา ส่งตัว นายคาถา ให้หมอโรงพยาบาลจิตเวชตรวจ หมอมีหนังสือแจ้งว่า นายคาถา ป่วยเป็นโรคจิต ไม่สามารถต่อสู้คดีได้ และได้ความด้วยว่า นายคาถา เชื่อเรื่องภูตีผีปีศาจ คิดว่า นายเหล็กกล้า เป็นผีปอบ ทำให้ลูกและลูกเขยของตนตาย
ศาลฎีกาแยกแยะต่อไปว่า หมอโรคจิตตรวจ นายคาถา แล้วทำความเห็นว่า นายคาถา มีสภาพจิตยังไง แต่ไม่ได้ประเมินสภาพจิตย้อนหลังไปถึงวันทำผิด อีแบบนี้ถือว่า หมอมีความเห็นเฉพาะตอนพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นเท่านั้น เนื่องจาก นายคาถา ไม่เคยมีประวัติการป่วยทางจิตมาก่อนเกิดเรื่อง ยังได้ความจากเมีย นายคาถา ว่าแกเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน พ้นตำแหน่งเมื่อครบวาระ ก็ยังทำงานสาธารณะให้แก่หมู่บ้านได้ตามปกติ จึงไม่อาจฟันธงได้ว่า นายคาถา ทำไปเพราะบ้า การที่ นายคาถา เชื่อทางไสยศาสตร์ คิดว่า นายเหล็กกล้า คือ ผีปอบ ทำให้ลูกตาย เป็นความเชื่อเฉพาะตัวจำเลย จะยกมาอ้างไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง ตาม ป.อาญา มาตรา 65 ไม่ได้ดอก
แต่ศาลฎีกามองว่า ศาลอุทธรณ์หนักมือไปหน่อย จึงพิพากษาแก้ วางโทษจำคุกแค่ 18 ปี ลดให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 12 ปี พอหอมปากหอมคอ
อย่างที่บอก อยู่ในถิ่นที่มีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง ผีเสื้อ ผีกางเกง เข้าไปในถิ่นแถวนั้น ต้องดูหน้าดูหลังไว้บ้าง เดี๋ยวซวย โดนฆ่าอย่าง นายเหล็กกล้า ถึงแม้จะเอาคนบ้า หรือไม่บ้าเขาตะราง คนตายก็ฟื้นคืนไม่ได้ โลกนี้ยังมีเรื่องพรรค์นี้อยู่ ไม่ว่าไทยหรือในประเทศอื่นๆ ฝรั่งที่เชื่อเรื่องซาตาน เป็นหญิงแท้ๆ ยังฆ่าคนแบบต่อเนื่องไปกว่า 20 ราย เพิ่งจับตัวได้เมื่อเร็วๆ นี้เอง สยองเนอะ
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6005/2552
เรื่องโดย : ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/17896