X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
เทคนิค(car)
30 Apr 2014
พื้นฐานของ
พื้นฐานของ
อีควอไลเซอร์ และครอสส์โอเวอร์
พบกันอีกครั้งกับคอลัมน์เทคนิค ในเล่มนี้จะขอพูดถึงเรื่อง พื้นฐานของ อีควอไลเซอร์ และครอสส์โอเวอร์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของระบบเสียงติดรถยนต์ เพราะการปรับอีควอไลเซอร์ เพื่อให้เสียงโดยรวมที่ออกมาจากลำโพงมีความสมดุลของเสียงได้เท่าๆ กัน ตั้งแต่เสียงทุ้ม กลาง แหลม ในบางครั้งเสียงดนตรีบางเพลง มีระดับของเสียงที่เบามาก เช่น เสียงแหลม และเสียงทุ้ม ทำให้เราจำเป็นต้องปรับระดับเสียงแหลม และทุ้มเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะหูมนุษย์ตอบสนองการได้ยินต่อเสียงแหลม และเสียงทุ้มได้น้อย แต่มีความไวในการได้ยินต่อเสียงกลางมากที่สุด ดังนั้นเราจะพบว่าวิทยุติดรถยนต์ทุกยี่ห้อจะมีวงจร LOUDNESS เพื่อยกระดับความดังเสียงแหลม และทุ้มขึ้นมา ส่วนครอสส์โอเวอร์เป็นวงจรที่กำหนดจุดตัดความถี่ในการทำงานของลำโพงเสียงทุ้ม กลาง แหลม เพื่อให้ลำโพงแต่ละตัวทำงานสอดคล้องกันมากที่สุด
อีควอไลเซอร์/ครอสส์โอเวอร์
อีควอไลเซอร์ ให้ความสามารถในการปรับแต่งระบบเสียงของคุณได้จริงหรือ แท้ที่จริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ลำโพงผลิตเสียงอีกครั้งอย่างสมบูรณ์ ในระบบลำโพงหลายสิ่งที่มีความซับซ้อน เพราะความแตกต่างของตัวขับเสียงมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เนื่องจากอีควอไลเซอร์สามารถปรับเพิ่ม หรือลดความถี่บางช่วง เพื่อให้เสียงโดยรวมมีความสมดุลของเสียงเท่าๆ กัน มีความถูกต้อง ดังนั้นการเพิ่มเสียงเบสส์บางส่วน ก็เพื่อเพิ่มความแตกต่างของเสียงที่ดังที่สุดกับเบาที่สุดให้มีมากขึ้น ครอสส์โอเวอร์ทำให้ช่วงสัญญาณสมบูรณ์ และเฉลี่ยช่วงความถี่ที่แตกต่างกัน ซึ่งชนิดของครอสส์โอเวอร์ที่พบมากที่สุด คือ 2 ทาง หรือ 3 ทาง ในบางครั้งจะพบแบบ 4 ทาง สำหรับครอสส์โอเวอร์ 2 ทาง จะแบ่งช่วงความถี่กึ่งกลางที่จุดตัดความถี่ สัญญาณด้านล่างทั้งหมดของจุดตัดความถี่จะถูกส่งไปยังวงจรโลว์พาสส์ และส่วนที่เหลือจะถูกส่งไปยังวงจรไฮพาสส์ ผลเหล่านี้สามารถเชื่อมต่อกับแอมพ์ที่จะผลิตเฉพาะช่วงความถี่ ครอสส์โอเวอร์ 3 ทางจะมีการทำงานที่คล้ายกัน โดยสัญญาณจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ซึ่งก็บรรจุอยู่ในกล่องที่มีอีควอไลเซอร์ และครอสส์โอเวอร์มาให้คุณ สำหรับแอคทีฟ ครอสส์โอเวอร์จะมีระดับสัญญาณพรีแอมพ์ที่มีอยู่ในวิทยุติดรถยนต์ เพื่อส่งสัญญาณออกไปที่แอมพ์ของคุณ การทำเช่นนี้ทำให้แอมพ์ขยายความถี่ที่ไม่ต้องการ เช่นความถี่สูงสำหรับแอมพ์ซับวูเฟอร์ ในขณะที่ครอสส์โอเวอร์แบบพาสสีฟ ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณหลังจากที่แอมพ์ได้รับการขยาย สิ่งเหล่านี้ คือ การเชื่อมต่อแอมพ์กับลำโพงรถยนต์ และการเชื่อมต่อไฮพาสส์ ครอสส์โอเวอร์ไปยังลำโพง เป็นการบลอคเสียงเบสส์ ซึ่งบางคนอาจเรียกเบสส์ บลอคเคอร์ โดยใช้โลว์พาสส์ ครอสส์โอเวอร์กับลำโพงวูเฟอร์ เพื่อให้มันเล่นเสียงต่ำจริงๆ
จำนวนย่านความถี่ในอีควอไลเซอร์
จำนวนย่านความถี่ในอีควอไลเซอร์จะบอกวิธีการปรับที่สามารถทำได้ ในอีควอไลเซอร์ 10 แบนด์ จะแยกย่านความถี่เสียงเป็น 10 ส่วน ซึ่งสามารถปรับช่วยระดับสัญญาณใดก็ได้ ส่วนค่า Q ของอีควอไลเซอร์ จะบอกช่วงกว้างความถี่ในการปรับแต่ละอัน โดยเฉพาะที่มีการกล่าวที่ย่าน 100 HZ จะส่งผลกระทบกับความถี่ 70 HZ ซึ่งไม่เป็นความจริง การปรับค่า Q สูงจะเป็นการเน้นความถี่ในย่านนั้น โดยไม่มีผลกระทบกับความถี่ข้างเคียงอื่นๆ และถ้าเป็นการปรับค่า Q ต่ำ โดยทั่วไปมีผลกระทบต่อความหลากหลายของความถี่ มันทำให้ความถี่ข้างเคียงถูกเฉลี่ยให้ราบเรียบ เป็นการดีสำหรับการปรับทั่วไปกับอีควอไลเซอร์ที่แยกย่านความถี่ไม่มาก แต่ไม่ดีต่อการปรับอีควอไลเซอร์ 30 แบนด์ ซึ่งมีความซับซ้อนมากขึ้น สำหรับการปรับตั้งเสียงอย่างที่ต้องการ จำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่เรียกว่า RTA (เครื่องวิเคราะห์แถบความถี่) เพื่อใช้ในการปรับตั้งอีควอไลเซอร์ มันทำให้ระบบได้สัญญาณฟแลท แสดงให้เห็นถึงผู้ใช้ปรับเสียงที่ต้องการผลลัพธ์ในสิ่งที่ต้องการ
ความชันของครอสส์โอเวอร์
การแยกความถี่ตัดผ่านใดๆ อย่างในครอสส์โอเวอร์ 2 ทาง ความชันของครอสส์โอเวอร์ในแต่ละออร์เดอร์จะเป็นตัวบอกความเร็วของความชันในครอสส์โอเวอร์ เช่น 6 ดีบี/ออคเทฟ เป็นลักษณะออร์เดอร์ที่ 1 ซึ่งความชันจะค่อยๆ ลาดลงอย่างช้าๆ แต่ถ้าเป็นออร์เดอร์ที่ 2 ความชันจะลาดลงเร็วขึ้นเป็น 2 เท่า เช่น ทวีเตอร์ตัวนี้ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 2,000-20,000 HZ การเลือกความชันที่เหมาะสมจะป้องกันความถี่อื่นๆ ที่ต่ำกว่า 2,000 HZ เข้าไปในทวีเตอร์ ในกรณีที่ใช้ครอสส์โอเวอร์ออร์เดอร์ที่ 1 ความชันของตัวกรองอาจอยู่ที่ 3,000 HZ ความดังลดลง 6 ดีบี แต่ก็ยังได้ยินความเพี้ยนของเสียงแหลมบ้างเล็กน้อย และออร์เดอร์ที่ 2 ขนาด 12 ดีบี ความชันของตัวกรองอาจอยู่ที่ 2,500 HZ ความดังลดลง 12 ดีบี ซึ่งอยู่ในช่วงการทำงานของทวีเตอร์ เพียงแต่เสียงแหลมไม่เพี้ยน ดังนั้นการเลือกความชันให้เหมาะสมกับลำโพงแต่ละตัว มิดเรนจ์ วูเฟอร์ ซับวูเฟอร์ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
อ่านต่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : ฝ่ายภาพ/อินเตอร์เนท
นิตยสาร 409 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : เทคนิค(car)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/17752
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
เทคนิค(car)
เทคนิค(car)
3 Dec 2015
หาค่าความถี่ CABIN GAIN เพื่อความดังเสียงอัตโนมัติ
เทคนิค(car)
2 Nov 2015
ตู้ลำโพงแบบปิด และเปิด เลือกให้โดนหูตัวเอง
เทคนิค(car)
1 Oct 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (จบ)
เทคนิค(car)
31 Aug 2015
อัพเกรดระบบไฟ ให้รถพลังเสียงประเภท SPL (ตอน 1)
เทคนิค(car)
3 Aug 2015
เพิ่มเสียงด้านหลังให้ระบบเสียงรถยนต์
ดูต่อในคอลัมน์ เทคนิค(car)