เนื่องจากปก(formula)
MERCEDES-BENZ E 350 E
MERCEDES-BENZ E 350 E
ซีดานแบบพลัก-อิน ไฮบริด ระดับพรีเมียม เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร 211 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิด 35.7 กก.-ม. ที่ 1,200-4,000 รตน. และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 88 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 44.9 กก.-ม. ทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 286 แรงม้า และมีแรงบิดสูงถึง 56.1 กก.-ม. ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านรถยนต์พลังไฟฟ้า เปิดตัวรถรุ่นล่าสุดภายใต้บแรนด์ EQ–ELECTRIC INTELLIGENCE BY MERCEDES-BENZ ด้วย MERCEDES-BENZ E 350 E PLUG-IN HYBRID ในกลุ่ม CONTEMPORARY LUXURY SEDAN หลังจากที่ได้เปิดตัวไปแล้ว 9 รุ่น อย่าง C 350 E AVANTGARDE, C 350 E EXCLUSIVE, C 350 E AMG DYNAMIC, C 350 E ESTATE, S 500 E EXECUTIVE, S 500 E EXCLUSIVE, S 500 E AMG DYNAMIC, GLE 500 E 4MATIC EXCLUSIVE และ GLE 500 E 4MATIC AMG DYNAMIC เมื่อปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์รุ่นนี้ โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เทคโนโลยีล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยเป็นเลิศ พร้อมอัตราการปล่อย CO2 ต่ำเพียง 49-57 ก./กม.
ภายนอก
หรูหรา เลือกได้ 3 สไตล์
MERCEDES-BENZ E 350 E ยังคงความหรูหราของรถยนต์ตระกูล E-CLASS ไว้ โดยมีให้เลือก 3 ดีไซจ์น คือ AVANTGARDE, EXCLUSIVE และ AMG DYNAMIC
รุ่น AVANTGARDE ไฟหน้าแบบ LED HIGH PERFORMANCE รุ่น EXCLUSIVE และ AMG DYNAMIC ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS: INTELLIGENT LIGHT SYSTEM) ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (ALS: ACTIVE LIGHT SYSTEM) ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (CORNERING LIGHT) ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (ADAPTIVE HIGHBEAM ASSIST PLUS)
MULTIBEAM LED ได้รับ RED DOT AWARD รางวัลระดับโลกด้านการออกแบบ และเป็นก้าวสำคัญทางวิศวกรรมยานยนต์ โดยไฟหน้าแต่ละโคมจะประกอบด้วยหลอด LED ประสิทธิภาพสูงจำนวน 84 หลอดที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ ชุดไฟหน้าจะสามารถส่องพื้นถนนข้างหน้ารถได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีระดับความเข้มของแสงที่สว่างและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยไม่รบกวนสายตาผู้ร่วมทาง
รุ่น AMG DYNAMIC เสริมหล่อด้วยกันชนหน้า/หลัง และสเกิร์ทข้างดีไซจ์นสปอร์ทแบบ AMG หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด/ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้อดีไซจ์นสปอร์ทแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว จาก AMG จานเบรคหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ MERCEDES-BENZ บนคาลิเพอร์เบรคหน้าสีฟ้า
ภายใน
การตกแต่ง และนวัตกรรมยอดเยี่ยม
ห้องโดยสารของ E-CLASS คว้ารางวัลห้องโดยสารยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ที่ผลิตเพื่อการจัดจำหน่ายจริง (THE BEST INTERIOR OF A STANDARD-PRODUCTION AUTOMOBILE) จากงาน AUTOMOTIVE INTERIORS EXPO AWARDS ประจำปี 2016 และนวัตกรรมยอดเยี่ยมแห่งปี จากผลงานการออกแบบแผงควบคุมระบบสัมผัสบนคอพวงมาลัย ซึ่งห้องโดยสารของ E-CLASS คือ ผลลัพธ์ของแนวคิด CONTEMPORARY LUXURY ใหม่
นอกจากนี้ MERCEDES-BENZ ยังใช้นวัตกรรมที่ก้าวล้ำและอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูง เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญา SENSUAL PURITY ของบแรนด์ โดยรถยนต์ตระกูล E-CLASS มิได้เพียงสร้างมาตรฐานใหม่ให้รถยนต์ซีดานสำหรับผู้บริหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนสถานที่แห่งที่ 3 (THIRD PLACE) นอกเหนือไปจากบ้านและสถานที่ทำงาน ที่ผู้เป็นเจ้าของสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับความหรูหราและร่วมสมัยได้ตลอดการเดินทาง
ทั้ง 3 รุ่น ติดตั้งระบบ COMAND ONLINE พร้อม CONTROLLER, ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย TOUCHPAD, ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ ฟังค์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ IOS (APPLE CAR PLAY) และ ANDROID (ANDROID AUTO) รวมถึงการติดตั้งระบบแผนที่นำทาง
เบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ ซึ่งรุ่น AVANTGARDE และ EXCLUSIVE ภายในได้รับการตกแต่งสไตล์หรูหรา เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชันหุ้มหนัง NAPPA ในขณะที่รุ่น AMG DYNAMIC เบาะนั่งหุ้มหนัง NAPPA พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบสปอร์ทท้ายตัดหุ้มหนัง NAPPA
รุ่น EXCLUSIVE และ AMG DYNAMIC มีหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ WIDESCREEN COCKPIT รุ่น AMG DYNAMIC ติดตั้งระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (HEAD-UP DISPLAY) พร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทาง BURMESTER
เครื่องยนต์
แรงแบบสปอร์ท ประหยัดแบบอีโคคาร์
MERCEDES-BENZ E 350 E โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะและอัตราการใช้พลังงานที่เยี่ยมยอด ผ่านการตรวจสอบผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคแห่งประเทศเยอรมนี (T?V :THE GERMAN TECHNICAL INSPECTION AUTHORITY)
E 350 E ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 211 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 88 แรงม้า ให้กำลังรวมกันถึง 286 แรงม้า หรือ 210 กิโลวัตต์ และมีแรงบิดสูงถึง 56.1 กก.-ม. หรือ 550 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC PLUS) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 6.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. สมรรถนะการขับขี่เทียบเท่ารถสปอร์ท แต่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำกว่ารถขนาดคอมแพคท์ ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยถึง 40-47.62 กม./ลิตร พร้อมด้วยการปล่อย CO2 เพียง 49-57 กรัม/กม. รวมถึงขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 33 กม.
ระบบรองรับ
เทคโนโลยีความปลอดภัยเพียบ
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีของ E 350 E มาพร้อมกับระบบ MERCEDES-BENZ INTELLIGENT DRIVE เพื่อให้ผู้ขับและผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดที่จะรวมการปกป้องก่อนเกิดและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (PARKING PILOT INCLUDING ACTIVE PARKING ASSIST) และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (WIRELESS CHARGING FOR MOBILE PHONE) โดยรุ่น AVANTGARDE จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ในขณะที่ รุ่น EXCLUSIVE และ AMG DYNAMIC จะมาพร้อมกับกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง รวมถึงระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (DISTANCE PILOT DISTRONIC) และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (BLIND SPOT ASSIST) ที่ติดตั้งเป็นครั้งแรกในรถยนต์รุ่นนี้อีกด้วย
ราคาของ MERCEDES-BENZ E 350 E รุ่น E 350 E AVANTGARDE 3,490,000 บาท E 350 E EXCLUSIVE 3,790,000 บาท และ E 350 E AMG DYNAMIC 4,090,000 บาท
เรื่องโดย : ธนสาร เสาวมล
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2560
คอลัมน์ Online : เนื่องจากปก(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/177069