มุมมองนักออกแบบ
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท & นิสสัน จูค
ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี หรือ รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ 2 รุ่น 2 บแรนด์ ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทย การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่ดึงดูดสายตา พร้อมขนาดตัวที่ไม่ใหญ่เทอะทะเหมือนบรรดา เอสยูวี พันธุ์แท้ทั้งหลาย แต่เรื่องความอเนกประสงค์ของห้องโดยสารนั้นเกือบจะไม่เป็นรองพวกบรรดารุ่นใหญ่ รถทั้ง 2 รุ่นนี้จะ "เข้าตา" ทีมนักออกแบบหรือไม่ ต้องมาติดตามกัน
ฟอร์ด อีโคสปอร์ท
ฟอร์มูลา : อาจารย์นิยามคำว่า "ครอสส์โอเวอร์" ว่าอย่างไร ? ภัทรกิติ์ : พันธุ์ผสม ไม่ใช่รถเก๋ง ไม่ใช่ 4x4 หรืออย่างรถสปอร์ทมาผสมกับ 4x4 ก็เป็นครอสส์โอเวอร์ อะไรก็ได้ คำว่า ครอสส์โอเวอร์ มันกว้างมาก ไม่ได้มีคำนิยามเฉพาะเจาะจงอะไรว่ารถจะต้องหน้าตาแบบนี้ แบบนั้น มันเป็นลูกผสมระหว่างอะไรกับอะไรเท่านั้น ฟอร์มูลา : จำเป็นต้องยกสูงหรือไม่ ? ภัทรกิติ์ : ครอสส์โอเวอร์ ไม่จำเป็นจะต้องยกสูง เพียงแค่นำ 2 คุณสมบัติมาอยู่ด้วยกัน เป็นลูกผสม ฟอร์ด ไม่ได้เอา ฟิเอสตา มาทำเป็น อีโคสปอร์ท แค่ใช้พื้นฐานเดียวกับ ฟิเอสตา รถคันนี้จึงดูขึงขัง บึกบึน แมนขึ้น โดยที่ยังคงเอกลักษณ์บางอย่างของ ฟอร์ด ไว้ คือ กระจังหน้าแบบหกเหลี่ยม แยกออกจากไฟหน้า ไฟหน้าที่ยกสูงขึ้นไป ทำให้เรารู้สึกว่า กระจังหน้าอยู่ด้านบน แต่จริงๆ แล้ว กระจังหน้าแท้ๆ อยู่ด้านล่าง อภิชาต : เป็นรถยนต์ในวิศวกรรมโครงสร้างของ ฟอร์ด ฟิเอสตา เราอาจจะสังเกตได้จาก ไอพี ยูนิท ที่ใช้รูปแบบเดียวกัน แต่แม้จะใช้วิศวกรรมโครงสร้างดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นรถรูปแบบเดียวกัน เพราะในปัจจุบันบริษัทรถยนต์เกือบทุกบริษัท จะต้องดัดแปลงโครงสร้างทางวิศวกรรมของรถแต่ละรุ่นให้มีความแตกต่างกัน อย่างน้อยตอนนี้เท่าที่เห็นก็ราวๆ 2-4 รุ่น/1 โครงสร้าง วิศวกรรม อีโคสปอร์ท ก็เหมือนกัน เป็นรถที่ใช้โครงสร้างทางวิศวกรรมเดียวกันกับ ฟิเอสตา แต่ทำให้มีความแตกต่างกันในการตอบสนองด้านใช้สอยอีกแบบหนึ่ง และมีให้เห็นมากขึ้น อาทิ เอ-คลาสส์ กับ จีแอลเอ-คลาสส์ ของค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ก็ใช้แนวคิดนี้เช่นกัน ภัทรกิติ์ : รถคันนี้ พอจะเดาได้ว่ามันเป็นการต่อยอดที่ฝรั่งเรียกว่า ซอฟท์โรเดอร์ (SOFT ROADER) เป็น 4x4 แบบเบาๆ ใช้โครงสร้างตัวถังเป็นโมโนคอกแบบรถเก๋ง ฉะนั้นจะเอาไปลุยหนัก คงจะทำไม่ได้ ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ช่วงล่างยกสูง ถ้าถามว่าเหมาะกับสภาพถนนในภูมิภาคนี้ไหม ตอบได้เลยว่าเหมาะมาก หลุม ถนนไม่เรียบ ขรุขระ รถคันนี้ไปได้หมดและไม่น่าแปลกใจถ้ารถเซกท์เมนท์นี้จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต คันนี้รูปร่างหน้าตาถือว่า ทะมัดทะแมง เป็นคลาสส์ที่มีความยาวเกิน 4 เมตรเล็กน้อย ไม่ยาวไม่สั้น ใช้งานในเมืองคล่องแคล่ว อภิชาต : ผมกลับมองต่างออกไปว่ารถรุ่นนี้ถูกกำหนดภายใต้ข้อจำกัดที่ต้องการสร้างรถยนต์ที่มีต้นทุนต่ำ ดังนั้นจึงวางระบบขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งมักเกิดขึ้นกับรถที่มีขนาดเล็กมากกว่ารถขนาดใหญ่ (แต่เราเห็นรถค่ายญี่ปุ่นใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเกือบทั้งหมด) และการที่ถูกกำหนดให้ขับเคลื่อนล้อหน้า เพราะทุกบริษัทรู้ดีเรื่องต้นทุนการพัฒนา เนื่องจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้ามีต้นทุนต่ำกว่าระบบอื่น แต่ข้อด้อยของมัน คือ ระบบรองรับด้านหน้า ต้องรับภาระเยอะ การสึกหรอจึงสูงตามไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่วิศวกรต้องขบคิดมาก แต่ถ้าเป็นรถที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ก็พอที่จะรับกันได้ที่จะใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ภัทรกิติ์ : ฟอร์ด อีโคสปอร์ท ดูลงตัว ดูแมนๆ ถามว่า ถูกใจไหม ก็จะมีคนกลุ่มที่ชอบรถสไตล์นี้ ในขณะที่ นิสสัน จูค ก็จะเป็นคนอีกกลุ่มชอบ นั่นก็คือ วัยรุ่นเด็กๆ ถ้าผู้ใหญ่หน่อยถามว่าจะชอบไหม ผมว่ารับได้ยาก เพราะหน้าตามันท้าทาย สดเกินไป ในขณะที่ อีโคสปอร์ท หน้าตาดูเป็นรถยนต์ตามอุดมคติ ข้อดีที่ ฟอร์ด สร้างรถยนต์คันนี้ ฝาท้ายเป็นบานสวิง แขวนยางอะไหล่ไว้ด้านนอก ทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขึ้น เนื่องจากไม่มีหลุมล้อ ทำให้ประตูสามารถเปิดได้ต่ำมาก บางคนคิดแค่ถุงชอพพิงธรรมดา แต่ลองขนตู้เสื้อผ้าสักใบ ความสูงที่ต่างกันแค่คืบเดียว ทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลยครับ การขึ้น/ลงสิ่งของใหญ่จะทำได้ง่ายมากขึ้น ฟอร์มูลา : ได้ยินหลายคนติว่าฝาท้ายบานสวิงเปิดออกด้านซ้ายแล้วมียางอะไหล่แขวนอยู่ด้วย ใช้งานลำบากสำหรับการจราจรในประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวา ภัทรกิติ์ : ถ้ามีพื้นที่พอก็เวิร์ค ถ้าไม่พอก็แย่เลย แต่ลองคิดดู ถ้าเปิดขึ้นด้านบน คนตัวเตี้ยก็มีปัญหาเพราะรถมันสูง รถคันนี้ทั้งข้อดีข้อเสียเขามีหลายอย่าง หน้าตา สัดส่วนดี พอเหมาะ พอเจาะ อาจมีอะไรแปลกๆ นิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะอยู่กับมันไม่ได้ อภิชาต : เขาพยายามเน้นเรื่องกระจังหน้ารูปหกเหลี่ยมด้านยาวที่น่าจะเป็น ดีเอนเอ การออกแบบของ ฟอร์ด ไปแล้ว แต่จุดสำคัญ คือ การออกแบบตัวถังที่เป็นการลดพื้นที่สีตัวถังลง เพราะรถคันนี้มีขนาดเล็ก แต่มาในแนวทางของรถเพื่อกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งทำให้รูปร่างเป็นกระบอกทรงสูง ดังนั้นเขาจึงพยายามให้มีเส้นแบ่งครึ่งระหว่างด้านบนกับด้านล่าง โดย อีโคสปอร์ท จะใช้ด้านบนเป็นสีตัวถังเหมือนกับรถปกติ ส่วนด้านล่างเป็นสีดำด้านที่ทำให้มองดูแล้วเป็นรถที่ไม่มีความสูงมากเกินไป ส่วนเรื่องเปิดฝาท้ายบางคนที่จอดรถท้ายชิดกันมาก ก็จะไม่สามารถเปิดท้ายได้ ตรงนี้แล้วแต่มุมมองเฉพาะคน ฟอร์มูลา : ห้องโดยสารภายใน ดูนั่งสบายดี ภัทรกิติ์ : ผมรู้สึกว่าเบาะแคบไปหน่อย สำหรับคนตัวใหญ่อย่างผม พื้นที่เก็บสัมภาระทำได้ดี เพราะเบาะนั่งด้านหลัง สามารถพับกระดกขึ้นมาได้ แต่ถ้าไม่พับเบาะ ก็ยังมีเนื้อที่กว้างขวางพอสมควร และเมื่อพับเบาะแล้ว มีพื้นที่ใส่สัมภาระทรง "ลูกบาศก์" ใหญ่ๆ ได้อย่างสบาย รวมถึงสามารถทำอะไรได้อีกมากมาย อภิชาต : ภายในห้องโดยสาร ถือว่าลงตัวดีทีเดียว ถ้าปิดตาแล้วพาเข้าไปนั่งในตำแหน่งที่นั่งคนขับ พร้อมจัดท่านั่งให้เรียบร้อยแล้วเปิดผ้าปิดตาออก เราอาจจะไม่รู้ว่ากำลังนั่งอยู่ใน อีโคสปอร์ท เพราะ ไอพี ยูนิท เป็นตัวเดียวกับ ฟิเอสตา แต่การจัดวางตำแหน่งต่างๆ ดูไม่คับแคบเหมือนกับ ฟิเอสตา บรรยากาศแบบรถขนาดเล็ก ขับในเมืองสนุก เบาะนั่งด้านหลังไม่รู้สึกอึดอัด เพราะความสูงของหลังคาที่เพิ่มขึ้น ทัศนวิสัยดี ตัวรถกับเบาะนั่งถูกยกให้สูงขึ้น มีมุมมองได้เห็นรอบรถมากขึ้น ภัทรกิติ์ : สรุปว่าเป็นรถที่มีความลงตัว ใช้ได้นาน เหมาะสำหรับคนที่คิดว่าจะอยู่กันนานๆ เป็นรถคันเล็กๆ ที่มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด ใครๆ ก็มีความสุขกับมันได้ ผู้ใหญ่ และคนรวยก็ขับได้ ไม่มีการแบ่งชนชั้น คันนี้น่าจะเป็นรถที่ได้รับความนิยม อาจจะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่เลือกแล้วไม่ผิดหวังนิสสัน จูค
ภัทรกิติ์ : โฉมปัจจุบันในบ้านเรา แต่เพิ่งตกรุ่นสดๆ ร้อนๆ ที่บ้านอื่น โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อาทิ ไฟแอลอีดี และกันชนหน้า จูค เป็นรถที่ออกสู่ตลาด (โลก) มานานพอสมควร แต่เพิ่งมาขายในบ้านเรา ซึ่งขายดีมากๆ ถือว่าเป็นรถที่มีเสน่ห์ หน้าตาไม่เหมือนใคร เป็นรถยนต์ที่สนุกสนาน ด้านท้ายดูเป็นธรรมชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นสัตว์เลื้อยคลานก็เป็นได้ อภิชาต : นิสสัน ผลิตรถรุ่นนี้ที่ประเทศเพื่อนบ้านได้พักใหญ่แล้ว แต่เราเพิ่งจะนำเข้ามาจำหน่าย แล้วรูปร่างหน้าตาก็ดูแปลกอย่างที่ทุกคนให้ความเห็นไว้ ภัทรกิติ์ : ดูมีมัดกล้าม พร้อมพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา มีเอกลักษณ์หลายส่วน เช่น ไฟท้ายทรงบูเมอแรง ที่เป็นเอกลักษณ์ของ นิสสัน ยุคนี้ ซึ่งลงตัวมาก ไฟหน้าดวงจริงอยู่ด้านล่าง ส่วนไฟด้านบนเป็นไฟประดับ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ดูฉลาดคิด ตรงช่องกันชนด้านล่างเป็นทรงกลม คล้ายช่องระบายความร้อน ดีไซจ์นเก๋ไก๋ เห็นว่ามีคนเริ่มเอาไปตกแต่งเพิ่มเติมกันแล้ว เคยเห็นชุดแต่งนิสโม สวยเฉี่ยวมาก รถคันนี้ตกแต่งสนุก ลูกเล่นของความสนุกมีในทุกรายละเอียด อาทิ ประตูหลังมือเปิดประตูถูกซ่อนไว้ พอเข้ามาภายในเห็นชุดห้องเกียร์ บริเวณคอนโซลกลาง ที่เป็นสี ดูเตะตาดีเหลือเกิน (ในแวบแรก) แต่พอใช้งานไปสักพัก ก็เฉยๆ ดีไซจ์เนอร์บอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสนุกของกีฬาประเภท เอกซ์ตรีม เขาใส่ใจในรายละเอียดทั้งคัน สวยงามดี รุ่นที่ขายเมืองไทย ตัววิทยุเป็นจอภาพของโซนี ถอดจอออกมาใช้เป็นแทบเลทได้ แต่ไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะใช้งานแต่ละที ต้องเสียบปลั๊กวุ่นวาย อาจจะไม่ใช่ความผิดพลาดของ นิสสัน แต่เป็นเรื่องของซัพพลายเออร์ อภิชาต : สัดส่วนรถยนต์เป็นการสร้างสรรค์ ถือเป็น ไอคอน อีกรุ่นของ นิสสัน เพราะเราจะไม่ค่อยได้เห็นการตัดสินใจเลือกแบบที่นักออกแบบรถยนต์นำเสนอแบบสุดไปเลย แต่ก็ได้เห็น นิสสัน จูค ที่กล้านำความแปลกใหม่มาให้ลูกค้า แต่แปลกเสียจนบางคนรับไม่ได้ แบบถ้าชอบ ก็ชอบไปเลย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย รถรุ่นนี้แปลก ทำให้กลุ่มลูกค้าแสดงความขัดแย้งมากทีเดียว เพราะการออกแบบสินค้าที่ดีนั้นควรจะให้ความรู้สึกที่ดีทั้งกลุ่มที่ซื้อสินค้า และกลุ่มทีไม่ได้ใช้สินค้า รถคันนี้น่าจะเป็นสินค้าแรกที่แยกกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน ไฟหน้าเป็นจุดที่ดูจะถูกพูดถึงบ่อยมาก บางคนบอกลงตัวดี บางคนบอกไม่ลงตัว ดูแล้วรู้ว่าไฟหน้าอยู่ตรงไหน เห็นหลายคนถามว่า การเอาไฟบอกระยะของตัวรถ (ไฟหรี่) ไว้ด้านบนของฝากระโปรงหน้า พร้อมออกแบบมาให้ยาวเกือบจะถึงเสาเอ ผิดกฎหมายหรือเปล่า คำตอบ คือ ไม่ผิด แต่มันดูล้ำมากๆ แถมไฟหลัก (ไฟใหญ่) ถูกจัดวางเหมือนจะอยู่ที่บริเวณกันชนหน้า ทำให้ดูแล้วขัดหูขัดตาจริงๆ แต่ก็ไม่ผิดกฎหมายเช่นกัน เราน่าจะยอมรับว่า นิสสัน จูค ออกแบบมาในลักษณะเหมือนทำลายหลักการออกแบบรถยนต์แบบดั้งเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งข้อกำหนดในการใช้งาน แล้วถ้าหาก จูค ประสบความสำเร็จด้านยอดจำหน่ายจนถึงจุดๆ หนึ่ง เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการสอนเรื่องการออกแบบรถยนต์อย่างแน่นอน ฟอร์มูลา : แนวทางการออกแบบของ นิสสัน จูค จะยืนยงอยู่ได้นานแค่ไหน ? ภัทรกิติ์ : ตอบไม่ได้เลย เพราะของบางอย่าง เช่น โฟล์คสวาเกน บีเทิล (เต่า) รุ่นออริจินอล ดูไม่เหมือนใคร แต่ก็ยังอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ซึ่งผมว่าดูไม่เหมือนใครดีนะ มันมีเอกลักษณ์ของมัน ถือเป็น "ฟิวเจอร์ คลาสสิค" ได้เหมือนกัน บางทีมันไม่เคยสร้างอะไรแบบนี้ และคงจะไม่สร้างอะไรแบบนี้อีกก็ได้ น่าจะเรียกว่าเป็นรถของเล่นที่เก็บสะสมได้ อภิชาต : ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะตามปกติแล้วอายุของรถญี่ปุ่นโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 ปี เราคงต้องรอดูกันต่อไป ฟอร์มูลา : ชอบคันไหนมากกว่ากันระหว่าง ฟอร์ด อีโคสปอร์ท กับ นิสสัน จูค ? ภัทรกิติ์ : ถ้าให้เลือกระหว่าง จูค กับ อีโคสปอร์ท ผมเลือก นิสสัน แต่ถ้าต้องขนของบ้าง ผมก็จะเลือกฟอร์ด เพราะฟังค์ชันดีกว่า นิสสัน สามารถพับเบาะได้เรียบยาว วางสิ่งของได้ยาวกว่า อีโคสปอร์ท 1 ฟุต แต่ปัญหา คือ จูค ความสูงน้อย ถ้าเทียบกัน คือ อีโคสปอร์ท อาจจะไม่ลึกมาก แต่สูง ส่วน จูค ยาวแต่เตี้ย ซึ่งใส่จักรยานไม่ได้เลย ถ้าจะใส่ได้ คือ นอนอย่างเดียว แต่ถ้าใส่ผิดด้าน จาระบีบนโซ่เลอะเบาะแน่ ส่วน อีโคสปอร์ท สามารถขนจักรยานได้อยู่ในมุมทแยง แต่ จูค ก็ไม่ใช่ขี้ไก่ เพราะลูกเล่นเรื่องช่องเก็บของเสียบๆ ซ่อนๆ อรรถประโยชน์หลากหลายใช้ได้ทีเดียว อภิชาต : เรียบๆ ง่ายๆ ขนของเยอะ เบาะหลังนั่งสบายต้อง ฟอร์ด แต่ถ้าเน้นแปลกแหวกแนวสไตล์วัยรุ่นต้อง นิสสัน ภัทรกิติ์ : นิสสัน จูค คงจะ "จี๊ด" ไปอีกพักใหญ่ ด้วยความเป็นรถที่แลดูสนุกสนาน สะสมได้ แม้ว่าฟังค์ชันจะไม่ได้เน้นการใช้งานสำหรับผู้ใหญ่มากนัก แต่สำหรับคนที่ยังไม่มีครอบครัว ถือว่าน่าสนุกพอสมควร ถ้าคิดอยากลองเรื่องโดย : กองบรรณาธิการบทความและสารคดี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/17043