เพิ่มศักดิ์ โกศลพันธุ์

วาลโวลีน เป็นน้ำมันเครื่องอีกบแรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในเมืองไทย ถึงแม้การแข่งขันจะรุนแรง แต่ก็ก้าวผ่านอุปสรรคนานัปการมาได้ "ฟอร์มูลา" สนทนาธุรกิจ กับ เพิ่มศักดิ์ โกศลพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาโวลีน (ประเทศไทย) จำกัด ถึงภาพรวมและทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาดน้ำมันเครื่อง

  ฟอร์มูลา : บริษัท ฯ มีผลิตภัณฑ์กลุ่มใดบ้าง ? เพิ่มศักดิ์ : มีสินค้าครบวงจรเป็น ONE STOP SERVICE สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการเป็นเจ้าของศูนย์บำรุงรักษารถยนต์ หรืออู่ซ่อมรถยนต์ โดยแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น ผลิตภัณฑ์ด้านการหล่อลื่น ซึ่งมีครบทุกเซกเมนท์ตามความต้องการของตลาดในปัจจุบัน คือ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับยานพาหนะ แบ่งเป็น น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน เครื่องยนต์ดีเซล น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ น้ำมันเกียร์ เฟืองท้าย น้ำมันเบรค จาระบี รวมทั้งน้ำมันเอาท์บอร์ดที่ใช้กับยานพาหนะทางน้ำ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม แบ่งเป็น น้ำมันไฮดรอลิค น้ำมันเกียร์ น้ำมันที่ใช้ในเครื่องทำความเย็น กลุ่มผลิตภัณฑ์พิเศษอื่นๆ เช่น ไส้กรอง ผลิตภัณฑ์รักษาหม้อน้ำรถยนต์บแรนด์ ZEREX ผลิตภัณฑ์กันสนิมบแรนด์ TECTYL และผลิตภัณฑ์น้ำยาเคมีบแรนด์ PYROIL นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลรักษารถยนต์บแรนด์ EAGLE ONE และ CAR BRITE ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เคลือบสี ขัดเงา ทั้งภายนอก/ภายใน เคลือบเบาะ ทำความสะอาดพรม รวมทั้งผลิตภัณฑ์ขัดเคลือบล้อ ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่นำเข้าจากบริษัทแม่ ประเทศสหรัฐอเมริกา   ฟอร์มูลา : จุดเด่นของ วาลโวลีน คือ อะไร ? เพิ่มศักดิ์ : วาลโวลีน เป็นน้ำมันเครื่องยี่ห้อแรกของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2409 ปัจจุบันมีจำหน่ายมากกว่า 140 ประเทศทั่วโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การผลิต การตลาด ตลอดจนแนวทางในการบริหารงาน ถือเป็นข้อได้เปรียบของ วาลโวลีน นอกจากนี้ ในการสำรวจช่างทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลาติดต่อกันเกือบ 10 ปี พบว่าช่างส่วนใหญ่เลือกใช้น้ำมันเครื่อง วาลโวลีน กับรถยนต์ของตัวเองมากที่สุด รวมทั้งในกลุ่มนักแข่งรถก็เลือกใช้น้ำมันเครื่อง วาลโวลีน เป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกัน และได้รับเลือกให้ใช้สำหรับการแข่งขันรถยนต์รายการดังระดับโลก อาทิ INDY CAR และ NASCAR นอกจากชื่อเสียงของน้ำมันเครื่อง วาลโวลีน ที่มีมาอย่างยาวนาน วาลโวลีน ยังให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นอันดับ 1 โดยผลิตภัณฑ์ วาลโวลีน ทุกตัวมีมาตรฐานการผลิตที่เหมือนกันทั่วโลก มีความคุ้มค่า คุ้มราคา รวมทั้งมีทางเลือกที่หลากหลายสำหรับทุกความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด   ฟอร์มูลา : ภาพรวมของบริษัท ฯ ในปีที่ผ่านมา และในปีนี้เป็นอย่างไร ? เพิ่มศักดิ์ : ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา บริษัท ฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 20 -25 % มาโดยตลอด แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงยอดขายรถยนต์ที่ลดลง ทำให้ตลาดน้ำมันเครื่องโดยรวมลดลงด้วย ดังนั้นจากปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโต 25 % คาดว่าจะลดลงเหลือแค่ 15 %   ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบายและทิศทางในช่วงครึ่งปีหลังไว้อย่างไร ? เพิ่มศักดิ์ : จะเน้นการกระจายสินค้าไปยังลูกค้ากว่า 3,000 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1. RETAILER คือกลุ่มที่ซื้อมาขายไป เช่น ร้านจำหน่ายน้ำมันเครื่อง และร้านอะไหล่ต่างๆ 2. WORKSHOP เช่น อู่ซ่อมรถยนต์ ศูนย์บริการ และคาร์แคร์ และ 3. กลุ่มผู้ใช้ตรง และอุตสาหกรรม เช่น ฟลีทรถบรรทุก รถโดยสาร เรือประมง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมุ่งเน้นการทำตลาดร่วมกับลูกค้า มีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เช่น จัดกิจกรรมขอบคุณลูกค้าด้วยการเดินทางไปต่างประเทศ และพยายามเน้นการสร้างความสำเร็จให้แก่ลูกค้า เพราะความสำเร็จของลูกค้า ก็คือความสำเร็จ ของบริษัท ฯ   ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขันเป็นอย่างไร ? เพิ่มศักดิ์ : น้ำมันเครื่อง วาลโวลีน เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลาย รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ อีกทั้งยังได้รับความนิยมในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นจะเน้นการให้ความรู้แก่ร้านค้าและผู้บริโภคในเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงคุณภาพสินค้าที่ประสบความเร็จมาเป็นเวลานาน   ฟอร์มูลา : ปีนี้ จะมีสินค้าใหม่หรือไม่ ? เพิ่มศักดิ์ : บริษัท ฯ มีการพัฒนา และปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันเครื่องอยู่ตลอดเวลา ตามวิวัฒนาการของเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ที่มีสมรรถนะสูง เทคโนโลยีดีขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในปีนี้ก็จะเน้นน้ำมันเครื่องที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเห็นว่ารถจักรยานยนต์เป็นตลาดที่เติบโตสูง ปัจจุบันมีตัวเลขจดทะเบียนกว่า 20 ล้านคัน โดยปีนี้ได้แนะนำน้ำมันเครื่องที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ครบทุกเซกเมนท์ ซึ่งแต่เดิมมีจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ไม่เน้นมากเท่าไร   ฟอร์มูลา : วางเป้าหมายในอนาคตไว้อย่างไร ? เพิ่มศักดิ์ : ตอนนี้ บริษัท ฯ อยู่ใน TOP 10 ประมาณอันดับ 7 ของตลาดน้ำมันเครื่องทั่วโลก ส่วนเป้าหมายในอนาคต อีก 2 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าไว้ว่าจะขยับขึ้นไปอยู่ใน TOP 5 ให้ได้ แล้วก็จะโตขึ้นไปอีก ส่วนปัจจัยที่จะทำให้ก้าวไปสู่ TOP 5 ก็คือ เรื่องของคุณภาพ เทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ และฐานตลาดในต่างประเทศที่ค่อนข้างแข็งแรง