วิถีตลาดรถยนต์
เกือบครึ่งปี
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม ปี '57 กับ '56
ตลาดโดยรวม - 37.7 %
รถยนต์นั่ง - 44.1 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) + 4.3 %
รถอเนกประสงค์ (MPV) - 40.3 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ - 36.3 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ - 34.0 %
อื่นๆ - 45.7 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤษภาคม ปี '57 กับ '56
ตลาดโดยรวม - 42.2 %
รถยนต์นั่ง - 50.5 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) - 9.0 %
รถอเนกประสงค์ (MPV) - 35.2 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ - 38.3 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ - 37.3 %
อื่นๆ - 47.5 %
เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมายไว้ว่าจะมาถึงในที่สุด เมื่อเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ สุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของเหล่าทัพที่นำโดยผู้บัญชาการทหารบก ออกมาทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาสำหรับการสร้างเงื่อนไขให้ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคมการเมือง ซึ่งทวีความรุนแรงจนอาจจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน มากกว่าที่เป็นอยู่ จากการประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ถือเป็นยาแรงมากๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่คลี่คลาย ในที่สุดก็เกิดการยึดอำนาจการปกครองประเทศขึ้นอีกครั้งหนึ่งในเวลาบ่าย 4 โมงเย็นของวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พร้อมกับการถือกำเนิดของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะทำหน้าที่ดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น จนนำไปสู่การคืนความสุขให้ประชาชนชาวไทย และการมีประชาธิปไตยที่แท้จริงต่อไปในอนาคตอันใกล้ ซึ่งหากทุกสิ่งทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมสำหรับทุกภาคส่วน ประเทศไทยของเราก็จะกลับคืนสู่ความเป็นสยามเมืองยิ้ม ผู้คนทำมาหากินอย่างเป็นปกติสุข ชีวิตมีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง คลุกเคล้ากันไปตามสภาพเศรษฐกิจแต่ละครัวเรือน ซึ่งเมื่อประเทศชาติเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งหวังในสิ่งที่ดีขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น การซื้อการขายสินค้าบริการต่างๆ ก็จะคล่องตัวขึ้นในแต่ละภาคอุตสาหกรรม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย
นับตั้งแต่สิ้นสุดการเติบโตแบบก้าวกระโดด ในห้วงเวลาของการดำเนินโครงการรถยนต์คันแรก ที่เกิดขึ้นในปี 2555 แล้ว ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่สวยเลิศหรูแบบนั้นยังไม่กลับมาให้เห็นอีกเลย ถึงแม้ว่าผู้ค้าขายรถยนต์ใหม่จะพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอพโรโมชันส่งเสริมการขายที่ร้อนแรง สุดคุ้มมากสักเพียงไรก็ตาม
มาว่ากันถึงปริมาณการซื้อขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง จากบรรดาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของบริษัทรถยนต์ทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย ในเดือนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยกันดีกว่า เฉพาะเดือนพฤษภาคม 2557 มียอดการจำหน่ายทั้งสิ้น 69,561 คัน เป็นยอดการซื้อขายที่ลดลง 37.7 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2556 โดยที่รถยนต์รุ่นต่างๆ ค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งยังคงเป็นที่ถูกอกถูกใจของเศรษฐีเมืองไทย มียอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายของเดือนพฤษภาคม ปีก่อน ตามมาด้วยค่าย ฮันเด, ปโรตอน, แลนด์ โรเวอร์, แจกวาร์ และมาเซราตี ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่ายี่ห้อหลังๆ นี้จะมียอดจำหน่ายไม่สูง เป็นหลักร้อยคันพันคันต่อเดือน แต่ก็แสดงให้เห็นว่าคนไทยเป็นคนมีเงิน และมีรสนิยมในการใช้รถยนต์ที่เลิศหรูไม่แพ้คนชาติอื่น ส่วนรถยนต์ยี่ห้อดังๆ ซื้อง่ายขายคล่องหลักหมื่นหลักหลายพันต่อเดือนยังมียอดจำหน่ายที่ลดลง เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ปีก่อนทั้งสิ้น เช่น อันดับ 1 โตโยตา จำหน่ายได้ 25,526 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม ปีก่อน 32.8 % อันดับ 2 อีซูซุ 13,649 คัน ลดลง 26.8 % อันดับ 3 ฮอนดา 8,641 คัน ลดลง 60.2 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 4,815 คัน ลดลง 36.4 % และอันดับ 5 นิสสัน 4,303 คัน ลดลง 5.4 % เป็นต้น
ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม 2557 มีทั้งสิ้น 366,527 คัน ลดลง 42.2 % จากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2556 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงสุด ประกอบด้วย โตโยตา 136,252 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.2 % อันดับ 2 อีซูซุ จำหน่ายแล้ว 69,760 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.0 % อันดับ 3 ฮอนดา จำหน่ายได้ 38,196 คัน ส่วนแบ่งตลาด 10.4 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 27,379 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.5 % และอันดับ 5 นิสสัน จากยอดจำหน่าย 26,442 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.2 % ซึ่งเมื่อผ่านเดือนพฤษภาคมไปแล้ว รถยนต์ที่ยังมียอดจำหน่ายที่สูงขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปี 2556 เป็นค่าย เมร์เซเดส-เบนซ์ 3,704 คัน เพิ่มขึ้น 20.8 % มีส่วนแบ่งตลาด 1.0 % และมาเซราตี 7 คัน เพิ่มขึ้น 40.0 %
สำหรับรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนพฤษภาคม ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรใหม่ๆ อย่างเป็นทางการ แต่ในอีกไม่ช้าไม่นาน ในส่วนของ นิสสัน นาวารา จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น รอแค่เพียงการเคาะราคา และกำหนดการขึ้นโชว์รูมอย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น ส่วนจะทิ่มแทงทะลุทะลวงหัวใจนักเลงรถพิคอัพมากน้อยแค่ไหน อีกไม่นานคงได้คำตอบ พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนพฤษภาคม มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 27,141 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม ปีก่อน 36.3 % และทั้งพิคอัพบแรนด์ใหญ่ บแรนด์เล็ก มียอดจำหน่ายที่ลดน้อยลงกว่าที่เคยทำได้ในเดือนพฤษภาคม ปีก่อนทั้งสิ้น ในการลดน้อยถอยลงนี้เป็น อีซูซุ ที่ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า โตโยตา อีกเดือนหนึ่ง สลับกับเดือนที่แล้วที่ โตโยตา ทำได้ดีกว่า โดย อีซูซุ ทำได้ 10,293 คัน ลดลง 31.9 % ขณะที่ โตโยตา ทำได้ 10,264 คัน ลดลง 36.9 % เฉือนกันแค่ปลายกันชนเท่านั้น โดยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 37.9 % และ 37.8 % ตามลำดับ เบอร์ 3 ของตลาดเซกเมนท์นี้เป็น มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,898 คัน ลดลง 40.2 % เบอร์ 4 เป็น ฟอร์ด 1,570 คัน ลดลง 9.0 % และเบอร์ 5 เชฟโรเลต์ 1,084 คัน ลดลง 46.5 %
ยอดสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2557 อยู่ที่ 148,205 คัน ลดลง 38.3 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556 โตโยตา ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 37.2 % จากยอดสะสม 55,173 คัน ตามด้วย อีซูซุ 51,999 คัน ส่วนแบ่งตลาด 35.1 % มิตซูบิชิ 12,420 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.4 % ฟอร์ด 8,685 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 % และเชฟโรเลต์ 6,698 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.5 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนพฤษภาคม มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 2,190 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 2556 ถึง 34.0 % แชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดตลาดนี้เป็น โตโยตา 1,136 คัน ลดลง 25.8 % ตามมาด้วย อีซูซุ 558 คัน ลดลง 49.1 % ฟอร์ด 369 คัน ลดลง 5.9 % เชฟโรเลต์ 73 คัน ลดลง 27.0 % และมิตซูบิชิ 23 คัน ลดลง 75.3 % ยอดสะสม 5 เดือนทั้งตลาด 10,630 คัน ลดลง 37.3 % ส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 46.5 % เป็น โตโยตา ด้วยยอด 4,948 คัน ตามด้วย อีซูซุ 3,378 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.8 % ฟอร์ด 1,695 คัน ส่วนแบ่งตลาด 15.9 % เชฟโรเลต์ 309 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.9 % และมิตซูบิชิ 145 คัน ส่วนแบ่งตลาด 1.4 %
รถเอสยูวี เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ อีซูซุ ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 1,786 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1,149.0 % อันดับ 2 โตโยตา จำหน่ายได้ 1,718 คัน ลดลง 31.3 % อันดับ 3 นิสสัน 989 คัน เพิ่มขึ้น 8,141.7 % อันดับ 4 ฟอร์ด 803 คัน เพิ่มขึ้น 1,308.8 % และอันดับ 5 ฮอนดา 708 คัน ลดลง 54.9 % ยอดรวมเดือนพฤษภาคม มีทั้งสิ้น 7,449 คัน เพิ่มขึ้น 4.3 % ส่วนยอดรวมสะสม 5 เดือนผ่านไป มีทั้งสิ้น 40,397 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 9.0 % อีซูซุ นำอยู่หัวแถวด้วยยอดจำหน่ายรวม 9,483 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 23.5 % โตโยตา อยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยยอด 8,674 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.5 % อันดับ 3 นิสสัน 6,819 คัน ส่วนแบ่งตลาด 16.9 % อันดับ 4 ฮอนดา 4,633 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.5 % และมิตซูบิชิ 2,834 คัน ส่วนแบ่งตลาด 7.0 %
รถเอมพีวี เดือนพฤษภาคมมียอดจำหน่ายรวม 1,468 คัน ลดลง 40.3 % โตโยตา ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดนี้เหมือนที่ผ่านมา จำหน่ายไป 668 คัน ลดลง 24.6 % อันดับ 2 ฮอนดา 262 คัน ลดลง 82.6 % อันดับ 3 เพิ่งเข้ามาเป็นน้องใหม่ในตลาดนี้ได้ไม่นาน สำหรับ นิสสัน จำหน่ายได้ 237 คัน เช่นเดียวกับ เชฟโรเลต์ และซูซูกิ มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 140 คัน และ 120 คัน ตามลำดับ ส่วนยอดสะสมรวม 5 เดือนทั้งตลาด อยู่ที่ 6,789 คัน ลดลง 35.2 % ว่าที่แชมพ์ผูกขาด โตโยตา เก็บสะสมไปแล้ว 3,134 คัน ส่วนแบ่งตลาด 46.2 % ตามด้วย ฮอนดา 1,460 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.5 % ซูซูกิ 794 คัน ส่วนแบ่งตลาด 11.7 % เชฟโรเลต์ 629 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.3 % และนิสสัน 555 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.2 %
เดือนมิถุนายน 2557 ได้เปิดฉากการแข่งขันฟุตบอลโลก ใครได้เป็นแชมพ์ คงรู้กันไปแล้ว ส่วนตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง ถึงคิวเปิดตัวแข่งขัน แย่งชิงส่วนแบ่งตลาดอย่างเป็นทางการของรถยนต์ เอมจี บแรนด์ดังในอดีตของเกาะอังกฤษ ตลาดจะขานรับมากหรือน้อย เวลาและผู้ใช้รถ คือ กรรมการตัดสิน
เรื่องโดย : ขุนสัญจร 4wheels@autoinfo.co.th
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/16866