X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
โลกติดล้อ
1 Nov 2014
รถสิบล้อที่คนไม่ต้องขับ
เราได้ยินเรื่องรถยนต์ที่ไร้คนขับมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว คงอีกไม่นานเกินรอก็จะได้เห็น ไม่เฉพาะแต่รถยนต์นั่งเท่านั้น ที่จะพัฒนาให้ไร้คนขับ หรือแม้แต่รถขนส่งสิบล้อก็เช่นเดียวกัน ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า เราก็จะได้พบกับรถสิบล้อที่คนขับรถไม่ต้องขับ แล่นอยู่บนท้องถนน เมื่อถึงวันนั้นมนุษย์ก็จะเป็นอิสระจากการนั่งขับรถเป็นระยะทางไกลๆ บนไฮเวย์ เพื่อนำสินค้าไปส่งยังจุดหมายในงานแสดงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ INTERNATIONAL COMMERCIAL VEHICLE SHOW (IAA) ในปีนี้ เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้นำต้นแบบรถบรรทุกแห่งอนาคต ที่จะผลิตออกสู่ตลาดในปี 2025 มาแสดงให้ชมกัน ข้อดีข้อแรกของการมีรถบรรทุกไร้คนขับแล่นอยู่บนถนน ก็คือ จะมีความปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่าลืมว่ามนุษย์นั้นมีข้อจำกัดมากมาย อาทิ สภาพร่างกาย อารมณ์ ความสามารถ และการตัดสินใจที่ไม่เท่ากัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เครื่องยนต์กลไกมีข้อได้เปรียบเหนือมนุษย์ นอกจากนี้มลภาวะจากการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะลดลงด้วย เมร์เซเดส-เบนซ์ ใช้ระบบเซนเซอร์ที่เรียกว่า "HIGHWAY PILOT" การขับเคลื่อนแบบไร้คนขับเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ในความเร็วที่พอเหมาะ บนถนนที่มีระบบการจราจรที่เหมาะสม จะว่าไปแล้วการมีระเบียบวินัยเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์ ก็จะทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้ เช่น การเคารพกฎจราจร การขับด้วยความเร็วตามที่กำหนด สังคมที่ประชาชนถูกฝึกมาให้มีวินัยแต่อ้อนแต่ออกอย่างประเทศเยอรมนี หรือญี่ปุ่น น่าจะนำระบบไร้คนขับไปใช้ได้ดีกว่าประเทศไทย ไม่ต้องอธิบาย เราคนไทยก็รู้ๆ กันอยู่ เมร์เซเดส-เบนซ์ บอกว่านี่เป็นการปฏิวัติการเดินทางบนทางหลวง มันเป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมโยงเครือข่าย โดยมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย อันที่จริงใช่ว่า เมร์เซเดส-เบนซ์ จะสร้างรถบรรทุกใหม่ขึ้นมาทั้งคัน หน่วยงาน ไดมเลร์ ทรัค ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้ทำการวิจัยพร้อมทดลองในโครงการที่มีชื่อว่า SHAPING FUTURE TRANSPORTATION ซึ่งเป้าหมายของมัน คือ ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการลดมลภาวะ ซึ่งสามารถออกแบบรถบรรทุกได้ตามความต้องการใช้งานของลูกค้า โดยรถต้นแบบได้ทำการวิจัยที่การขับด้วยอัตราความเร็ว 80 กม./ชม. ในการจราจรที่เป็นจริงบนถนนมอเตอร์เวย์สายที่ A14 ใน มาเดร์แบร์ก ประเทศเยอรมนี ในแง่ดีไซจ์น เมร์เซเดส-เบนซ์ ได้รวมเอาความคิดด้านฟังค์ชัน ประสิทธิภาพ และสุนทรียภาพ ไว้ด้วยกันตามแนวคิดและปรัชญาการดีไซจ์น "SENSUAL PURITY" ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งมีความนุ่มนวล โค้งมน บ่งบอกถึงการปีนสูงขึ้นจากการเป็นรถบรรทุกในรูปแบบดั้งเดิมสู่ยุคไร้คนขับ โดยเฉพาะในส่วนที่นั่งคนขับ ที่มีอุปกรณ์ต่างๆ เห็นได้ชัดว่าบ่งบอกถึงการก้าวสู่อนาคต ด้านหน้าของตัวรถถูกยืดออกให้ดูมน ตามระบบแอโรไดนามิคส์ แต้มสีเงินอ่อนให้ดูนุ่มนวล มีกล้องคอมแพคท์แทนที่กระจกงวงช้างที่ยื่นออกจากตัวรถแบบเดิม โดยส่วนตัวผู้เขียนมองเป็นชิ้นส่วนที่น่าขัน กระจกหน้ารถมองคล้ายที่บังแสง ภายในรถโดยเฉพาะห้องคนขับ สะอาด สบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนที่ทำงาน ที่ปราศจากเอกสารแบบสมัยใหม่ วิศวกรรมการออกแบบที่เน้นประโยชน์ใช้สอย ผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบาย และอบอุ่น ทำให้ผู้ขับรู้สึกถูกแวดล้อมด้วยสิ่งดีๆ ในชีวิตขณะขับขี่ มีอุปกรณ์ควบคุมอากาศที่เป็นลักษณะจอสัมผัสแทนสวิทช์เปิด/ปิดแบบเดิม หน้าปัดหุ้มหนังด้วยฝีมือประณีตไม่ต้องห่วงว่าจะเสียชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอฟเฟคท์จากระบบแสงในตัวรถก็หายห่วง ตื่นตาตื่นใจ มีลักษณะเฉพาะเวลาที่รถขับเคลื่อนตัวมันเองด้วยระบบอัตโนมัติ ผู้ขับก็สามารถเอนเบาะทำมุม 45 องศา แล้วพักในท่าสบายๆ ภายในรถใช้ไฟเรืองแสงไม่แสบตา ผู้ขับสามารถใช้แทบเลทที่อยู่บนคอนโซลกลาง ปลดออกมาใช้ได้ จะส่งเอกสาร เช่น ตารางการเดินทาง หรือ รับออร์เดอร์เข้ามา และทำการบริหารจัดการว่าจะหยุดรถที่ไหนต่อไป และยังสามารถเรียกตารางต่างๆ ที่ต้องการเข้ามาดูได้ อีกนัยหนึ่ง มันคือ การเปลี่ยนห้องผู้ขับขี่ให้เป็นห้องทำงานในระหว่างเวลาการเดินทางอันยาวนาน หรือแม้แต่ในระยะสั้นก็ตาม เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าคนขับจะโงกหลับ เพราะไม่มีอะไรจะทำในรถ ระบบอัตโนมัตินี้ทำให้หมดแล้วนะคะ ช่างดีอะไรเช่นนี้ ในยุคต่อไปคนขับรถบรรทุก ก็จะมีความสบายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องยกระดับตัวเองให้สามารถทำความเข้าใจ และใช้เครื่องสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ด้วย
อ่านต่อ
เรื่องโดย : เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/16156
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
โลกติดล้อ
โลกติดล้อ
29 Mar 2018
รถครอบครัว
โลกติดล้อ
7 Mar 2018
จีพลุยน้ำ
โลกติดล้อ
30 Jan 2018
รถ เวสปา อีกหนึ่งดีไซจ์นจากอิตาลี
โลกติดล้อ
9 Jan 2018
พิพิธภัณฑ์รถยนต์ที่ยุโรป
โลกติดล้อ
1 Dec 2017
WOW...นี่แหละรถคนรวยจริง
โลกติดล้อ
1 Nov 2017
รถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียน
โลกติดล้อ
1 Oct 2017
ผู้ชายเบื้องหลัง งานดีไซจ์นของ ฟอร์ด
ดูต่อในคอลัมน์ โลกติดล้อ