ตลาดเครื่องเสียงในเมียนมาร์

กลับมาเจอกับคอลัมน์ โลกเครื่องเสียงรถยนต์ เช่นเคย แต่จะมีการเปลี่ยนเรื่องราวของสินค้าเก่าในอดีต ที่ไม่เหมือนใคร ถึงเวลาต้องหลีกทางให้สินค้า และเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาแทน เพราะอีกไม่นานประเทศไทยก็จะเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอาเซียน ผมว่าควรจะปรับตัวให้เข้ากับเรื่องราวที่น่าสนใจในอนาคต เพื่อไม่ให้เสียเวลา ผมขอนำแฟนๆ ไปรู้จักกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับเรา คือ เมียนมาร์ ผมเพิ่งมีโอกาสเดินทางไปเมียนมาร์ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมเป็นครั้งแรก ที่จริงอยากไปมานานแล้ว แต่เพื่อนๆ ทางโน้นบอกว่า อย่าเพิ่งมาเพราะยังไม่ถึงเวลา ก็เลยต้องรอมาเกือบสิบปี ที่อยากไปเพราะเรารู้เรื่องเกี่ยวกับประเทศนี้น้อยมาก เพราะประเทศนี้ปิดมาตลอดเกือบ 60 ปี ใครจะเชื่อว่าเมื่อไม่นานมานี้ แค่ "ซิมโทรศัพท์" ใครอยากได้ต้องจองกันหลายเดือน และมีราคาสูงถึง 150,000 บาท ส่วนราคารถยนต์ก็ไม่ต้องพูดถึง รถเก่าๆ ขายที่เมืองไทยไม่ถึงแสน ที่นี่เขาขายกันคันละหลายแสน เพื่อนผมบ่นมาตลอดว่า เขาอิจฉาเมืองไทย แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแบบข้ามคืน ช่วงหลังปีใหม่ เมียนมาร์เปิดประเทศอนุญาตให้เอกชนสั่งรถเก่าเข้ามา สามารถจดทะเบียนและเสียภาษีอย่างที่ถูกลง เลยทำให้ธุรกิจรถเก่าจากประเทศญี่ปุ่น พุ่งกระฉูดฉุดไม่อยู่ ถ้าใครไปเมียนมาร์ตอนนี้ จะเห็นว่าตามถนนมีแต่รถเก่าจากเมืองปลาดิบวิ่งเต็มไปหมด มีแบบแรกรุ่นที่เราไม่เคยเห็นในบ้านเรา รถแทกซี มีให้เลือกนั่งตั้งแต่คันเล็กๆ ขนาด 1.0 ลิตร ไปจนถึง โตโยตา แคมรี 2.4 ลิตร บางทีก็จะเห็น นิสสัน สกายไลน์ ป้ายแดง วิ่งฝุ่นตลบ เพราะถนนหนทางในเมืองที่ผมไป คือ ย่างกุ้ง ยังเป็นทางลูกรังลาดยางมะตอย หลุมบ่อไม่ต้องพูดถึง เพราะหาทางเรียบไม่เจอ ในเมื่อธุรกิจรถกำลังมาแรง จึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจเครื่องเสียงรถยนต์ที่ต้องตามมา ผมเลยถือโอกาสบินไปดูด้วยตาตัวเอง และก็เป็นจริงตามที่คิด คือ ธุรกิจด้านเครื่องเสียงรถยนต์เพิ่งจะเกิดไม่นาน ยังคลานต้วมเตี้ยมเหมือนบ้านเราเมื่อ 30 ปีก่อน รู้จักแอมพ์ แต่ไม่รู้ว่าจะปรับตั้งให้เสียงดีทำยังไง รู้จักซับวูเฟอร์ แต่ไม่รู้ว่าการคำนวณปริมาตรตู้ที่ถูกต้องทำอย่างไร ก็เลยตามที่คิด ตีตู้แล้วใส่ท่อให้ดูเท่ๆ ตู้ปิดไม่ชอบเพราะมันดูไม่ขลัง นี่ถ้าผมมีโอกาส จะไปสอนพวกร้านติดตั้งให้ตีตู้แบนด์พาสส์ คงจะถูกใจ เพราะมันดูสวยดี เหมือนตอนที่ตัวผมเองไปเห็นฝรั่งคำนวณตู้แบนด์พาสส์ เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เพราะตู้มันดูเท่ และสวยงาม มีแผ่นใสมองเห็นตัวลำโพง ส่วนการติดตั้งลำโพงก็เจาะรู หรือไม่ก็ใส่ลงรูเดิม โดยไม่ต้องมีฐานไม้ พูดง่ายๆ คือ ต่อสายลำโพงแดง/ดำ ที่ติดมากับรถเป็นเสร็จพิธี ในเมืองนี้มีย่านที่มีร้านติดตั้งเปิดติดกันเป็นกลุ่มใหญ่ 10-15 ร้าน ต่างคนก็เสนอการขายแบบตามมีตามเกิด ผมเห็นซับวูเฟอร์ ขนาด 10"-12" รุ่นแม่เหล็กโตๆ จากค่ายดัง เช่น ROCKFORD FOSGATE, PIONEER, KENWOOD, MTX, FOCAL แต่แอมพ์รุ่นใหญ่แบบ คลาสส์ ดี ยังมีไม่มาก ที่ร้านคงจะไม่กล้าขาย เพราะการใช้ฟิวส์และขนาดของสายไฟ ยังคำนวณใช้กันไม่เป็น ตลาดเครื่องเสียงในเมียนมาร์ยังต้องการความรู้พื้นฐานเรื่องการติดตั้ง เพราะฉะนั้นพอจะสรุปได้ว่า ตลาดเครื่องเสียงรถยนต์ในเมียนมาร์ ยังไปได้อีกไกล ทีนี้หันกลับมาดูตลาดเครื่องเสียงที่กำลังเกิดใหม่ในเมืองปลาดิบ เท่าที่ผมสังเกตในประเทศนี้สินค้าที่อยู่ในทเรนด์ของรถรุ่นใหม่ๆ เจ้าของมักจะเลือกเปลี่ยนลำโพงคู่หน้า แทนของเดิมที่ติดมาจากโรงงาน เป็นการเปลี่ยนแบบ DROP IN ลงแทนตำแหน่งเดิม แต่อาจจจะมีการเสริมวัสดุเก็บซับเสียง และแรงสั่นกระพือ เพื่อเพิ่มความเงียบ และให้ลำโพงเสียงทุ้มให้เสียงดีขึ้น ผมก็เลยนำเจ้าลำโพงแบบแยกชิ้น 2 ทาง ของหลายค่ายที่เป็นของญี่ปุ่น และฝรั่ง มาให้ดูกัน เพื่อช่วยให้เจ้าของรถที่เพิ่งถอยรถป้ายแดงออกมาจะได้ตัดสินใจถูก เริ่มต้นด้วยลำโพงแยกชิ้นของค่าย ALPINE รุ่น DDL-R1705 แบบ 2 ทาง ติดตั้งง่าย เสียงดี โดยเฉพาะเสียงแหลม มีฐานที่สามารถปรับมุมเสียงได้ ราคาไม่แพง แถมประสิทธิภาพความไวสูง ค่าย CARROZZERIA ก็มีลำโพงแบบแยกชิ้น 2 ทาง ที่ขายดี เพราะสามารถใช้กับวิทยุติดตั้งมาจากโรงงานได้ดี มีให้เลือก 2 รุ่น คือ TS-Z 1000RS เป็นลำโพงที่สามารถรับแรงขับได้สูง เหมาะสำหรับการเพิ่มเติมพลังด้วยแอมพ์ ส่วนรุ่น TS-Z172RS รุ่นนี้ก็เสียงดี ไม่กินวัตต์ ตัวลำโพงวูเฟอร์มีขนาด 6.5" และลำโพงเสียงแหลมมีขนาดที่สามารถใส่ลงในตำแหน่งเดิมได้ สำหรับค่าย DIATONE ในบ้านเรายังไม่มีใครสั่งเข้ามาขาย แต่เราได้ยินว่าเสียงดี ปัญหาอยู่ที่ราคาค่อนข้างแพง เพราะเป็นลำโพง 2 ทาง ที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยความพิถีพิถัน เป็นรุ่น DS-SA1 ส่วนรุ่นประหยัดก็ต้องเลือกรุ่นนี้ คือ DS-G50 เพราะเสียงดีไม่กินวัตต์ ติดตั้งง่าย เสียงแหลมมีขนาด 25 มม. พร้อมกล่องวงจรแบ่งความถี่ขนาดเล็ก สุดท้ายเป็นลำโพงแยกชิ้นแบบ 3 ทาง ค่าย HYBRID AUDIO ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้อยู่เบื้องหลัง คือ มือล่ารางวัล ชาวอเมริกัน สกอทท์ บูวัลดา เพราะเป็นลำโพงแบบ 3 ทาง จึงต้องจัดชุดในระบบมัลทิแอมพ์เท่านั้น แถมราคาขายในเมืองซามูไร ตกประมาณ 120,000 เยน ทำให้ลำโพงชุดนี้ถูกติดตั้งในรถหรูเท่านั้น